เชียงรายระส่ำ
คนไทยในเมียนมาแห่กลับ
ท่าขี้เหล็กเจอติดโควิด2ราย
สธ.ย้ำคุมเข้ม10จว.ชายแดน
อนุทินยันซื้อวัคซีนไม่แพง
6พันล้านรวมค่าดำเนินการ
ไทยพบผู้ป่วยโควิด-19 ใหม่ 7 ราย มาจากต่างประเทศ สธ.ย้ำยังคุมเข้มชายแดน 10 จว.ติดเมียนมา-มาเลย์ หลังยอดติดเชื้อเพิ่มต่อเนื่อง แนะคนกลับจากเที่ยวหยุดยาว 4 วันให้สังเกตอาการตัวเอง ถ้าป่วยมีไข้ “จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส”รีบพบแพทย์ ผลตรวจผู้สัมผัสชายเมียนมาติดเชื้อ 99 คน ออกมาเป็นลบ กำชับหน่วยงานพื้นที่และศูนย์อพยพฯตรวจเข้มหาเชื้อ ส่วนจนท.ควบคุมโรคเชียงรายเผยมีคนไทยขอกลับประเทศ หลังจ.ท่าชี้เหล็กพบคนติดเชื้อ 2 รายซ้อน เป็นตำรวจน้ำ-แรงงานก่อสร้าง ส่วนเสี่ยหนูแจงงบ 6 พันล้านซื้อวัคซีนจากบ.แอสตร้าเซนเนก้าครอบคลุมทุกขั้นตอน ไม่ใช่แค่คำขออย่างเดียว เผยไทยซื้อราคาต้นทุน 151 บ./หลอด ยันยังไม่สั่งซื้อเพิ่มจากที่อื่น
กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) รายงานสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ประจำวันที่ 23 พฤศจิกายนว่า พบผู้ติดเชื้อใหม่ 7 ราย ทุกรายเป็นผู้เดินทางจากต่างประเทศ เข้ากักตัวในสถานที่รัฐจัดให้ 5 รายและเข้ากักตัวในสถานที่รัฐกำหนด 2 ราย มีผู้ป่วยกลับบ้านได้ 5 ราย ทำให้ผู้ป่วยกลับบ้านสะสม 3,766 ราย คิดเป็นร้อยละ 96.07 ของผู้ป่วยทั้งหมด มีผู้ป่วยยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล 94 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ ราย 2.4 ของผู้ป่วยทั้งหมด ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมผู้เสียชีวิตสะสม 60 ราย ผู้ป่วยสะสมทั้งสิ้น 3,920 ราย รวมพบผู้ติดเชื้อในสถานที่กักกัน 959 ราย และติดเชื้อในประเทศ 2,454 ราย
ติดเชื้อใหม่7รายเป็นคนไทย6ต่างชาติ1
สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้ ทั้งหมดเดินทางมาจากต่างประเทศ ได้แก่ ชาวไทย 6 ราย โดย 5 ราย เดินทางมาจากเดนมาร์ก 1 ราย สหรัฐอเมริกา 1 ราย สหราชอาณาจักร 1 ราย สาธารณรัฐคอซอวอ 1ราย และการ์ต้า 1 รายเข้ากักตัวในสถานที่รัฐจัดให้ (State Quarantine) ทั้งหมด ตรวจพบเชื้อ ไม่มีอาการส่งต่อรักษาที่โรงพยาบาลตามระบบ ส่วนอีก 1 ราย มาจากเยอรมนี ตรวจพบเชื้อไม่มีอาการ ส่วนชาวต่างชาติ 1 ราย เดินทางมาจากเลบานอน มีอาการไข้ เจ็บคอ ปวดศีรษะ และปวดกล้ามเนื้อ ผลตรวจพบเชื้อ
หลังเที่ยว4วันจมูกไม่ได้กลิ่นรีบหาหมอ
ด้านนพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขณะนี้ไทยเข้มงวดมาตรการเฝ้าระวังพื้นที่ชาย แดนใน 10 จังหวัดที่ติดเมียนมาและมาเลเซีย หลังทั้ง 2 ประเทศมีผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง กระทรวงสาธารณสุขสุ่มตรวจหาเชื้อเชิงรุกตามแนวชายแดน ทำให้ตรวจพบดักจับผู้ติดเชื้อที่ข้ามแดนเข้ามาได้ทัน และส่งกลับประเทศต้นทางหรือส่งเข้าระบบรักษา เป็นมาตรการสำคัญที่ช่วยให้ไทยคุมจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศได้มีประสิทธิภาพ แต่ประชาชนต้องสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ และเว้นระยะห่าง เพื่อความปลอดภัยจากโควิด 19 และโรคระบบทางเดินหายใจอื่นๆ ทั้งนี้ เนื่องจากวันหยุดยาว 4 วันที่ผ่านมาขอให้ทุกคนที่กลับจากการท่องเที่ยวเฝ้าระวังสังเกตอาการป่วยของตนเอง ซึ่งอาการเด่นของโรคโควิด 19 ที่องค์การอนามัยโลกระบุ คือ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส ขอให้รีบไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษาทันที
ตรวจ99คนสัมผัสชายเมียนมาเป็นลบ
ขณะที่นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รักษาการอธิบดีกรมควบคุมโรคเผยผลสอบสวนโรคในผู้ป่วยแรงงานและนักเรียนชาวเมียนมาว่า ในส่วนแรงงานชาวเมียนมาสอบสวนโรคทราบว่าเข้ามาอยู่ในประเทศไทยนานแล้ว คาดว่าน่าจะเป็นการติดเชื้อในประเทศ แต่อาจติดแนวชายแดน หรือติดจากเพื่อนชาวเมียนมา แต่ในศูนย์อพยพที่อยู่ค่อนข้างรัดกุมพอสมควร จึงประสานกระทรวงมหาดไทย องค์กรนานาชาติร่วมดูแลพื้นที่ดังกล่าวให้เข้มงวดแล้ว ส่วนอาการป่วยของแรงงานคนดังกล่าว พบอาการระบบทางเดินหายใจ มีน้อย จึงไม่น่ามีการแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น ผู้สัมผัสใกล้ชิดที่เกี่ยว ข้อง 99 คน พบผลเป็นลบ แต่เนื่องจาก ผู้ป่วยมีอาการซีด ทำให้ผลเลือดระบบภูมิคุ้มกัน ยังไม่ชัดเจน ทั้ง IgM IgG และสอบประวัติเบื้องต้น ทราบว่าผู้ป่วยชาวเมียนมารายนี้ ส่วนใหญ่อยู่ในป่าเขา ติดต่อภายนอกน้อย ประกอบกับผลตรวจการแบ่งเซลล์ของเชื้อพบปริมาณมาก เบื้องต้นสันนิษฐานว่า น่าจะติดเชื้อมานานแล้ว และไม่แพร่สู่คนอื่น
เจอติดโควิด2ฝั่งท่าขี้เหล็กคนไทยแห่กลับ
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรค (ศปก.) อ.แม่สาย จ.เชียงราย ประจำด่านพรมแดนจุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพ ไทย-เมียนมา ข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 เชื่อมจ.ท่าขี้เหล็กของเมียนมา มีคนไทยที่อาศัยอยู่ฝั่งเมียนมาแจ้งขอเดินทางกลับประเทศ 4 คน ผ่านด่านพรมแดนตรงจุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพ ไทย-เมียนมา ข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 เป็นแม่ชี 2 คนและเด็ก 2 คน คาดว่าอาจมีผู้ตกค้างขอเดินทางกลับเพิ่มเติมได้ เนื่องจากวันนี้ทางการท้องถิ่นท่าขี้เหล็ก ตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในศูนย์กักดูอาการในท่าขี้เหล็ก 2 ราย อายุ 30-25 ปี เป็นผู้ที่เดินทางมาจากนอกพื้นที่
โดยรายแรกเป็นตำรวจน้ำที่ประจำอยู่ที่ท่าเรือบ้านโป่ง จ.ท่าขี้เหล็ก ห่างสามเหลี่ยมทองคำ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย 20 กิโลเมตร มีประวัติเดินทางจาก จ.ท่าขี้เหล็กไปอบรมที่เมืองย่างกุ้ง และกลับมาท่าขี้เหล็กเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน ถูกกักตัวดูอาการในศูนย์ฯพบป่วยและตรวจพบติดเชื้อโควิด-19 นอกจากนี้ น่าสนใจว่ารายนี้เป็นผู้ที่เคยมีประวัติติดเชื้อโควิด-19 มาแล้ว ครั้งนี้ติดเชื้อรอบที่ 2 ผู้ติดเชื้อรายที่ 2 เป็นชายทำงานรับจ้างก่อสร้าง เดินทางมาจากเมืองมัณฑะเลย์เพื่อทำงานพัฒนาปรับปรุงถนน แต่ก่อนทำงานได้กักตัวในศูนย์ฯตามขั้นตอนและตรวจพบเชื้อโควิด-19 ทั้ง 2 คนถูกส่งรักษาที่โรงพยาบาลท่าขี้เหล็ก
อนุทินแจงซื้อวัคซีนไม่แพง
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข กล่าวถึงกรณีการคำนวนค่าผลิตวัคซีนของไทยที่สูง เมื่อเปรียบเทียบต่างประเทศว่า มีค่าดำเนินการของกรมควบคุมโรค ค่าหลอด ค่าไซริงค์ ค่าเข็มฉีดยา ค่านำวัคซีนไปฉีด เพราะเวลาวัคซีนมาถึงเมืองไทยมาเป็นขวด ต้องมีค่าดำเนินการมากมาย สรุปว่างบประมาณกว่า 6 พันล้านบาทนั้นครอบคลุมไปหมดแล้ว ไม่ใช่แค่ค่าของอย่างเดียว และขอชี้แจงว่า ที่รัฐบาลจัดหาไปแล้วนั้นคือ วัคซีนของบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า
ซื้อจากบ.แอสตร้าราคาทุน151บ./หลอด
ผู้สื่อข่าวถามว่าตัวแทนบริษัท ไฟเซอร์ จะร่วมคณะนักธุรกิจสหรัฐอเมริกามาพบนายกรัฐมนตรีวันที่ 25 พฤศจิกายนจะคุยเรื่องวัคซีนโควิด-19 ด้วยหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า นายกฯเรียกเข้าไปพบเหมือนกัน แต่ขอชี้แจงก่อนว่า เวลานี้ เรามีข้อตกลงร่วมกับบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า และมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดในการร่วมลงทุนพัฒนา ซึ่งสิ่งที่เราได้คือ ราคาอยู่บนหลักการ No Profit No Loss Principle หรือหลักการไม่แสวงหาผลกำไร เขาจะขายราคาต้นทุน อยู่ที่ราคาประมาณ 5 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 151 บาทต่อหลอด เทียบกับวัคซีนจากบริษัทอื่น อาทิ ไฟเซฮร์ หรือบริษัท ซีโน่แว็กก็ปรากฎว่ามีราคาสูงอยู่ ก็เข้าใจได้ว่าที่ราคาสูง เพราะเราไม่ได้ไปร่วมอะไรกับเขา
“ถ้าเราครอบคลุมกลุ่มเสี่ยงได้แล้ว เราก็ไม่จำเป็นต้องไปจองจากที่อื่น และเรื่องวัคซีน mRna เราก็ยังสนับสนุนอยู่ ทั้งการทำงานของคณะแพทย์ศาสตร์จุฬา เรามีช่องทางจัดหาวัคซีนตรงด้วย” นายอนุทินกล่าว และย้ำว่า เวลานี้ยังไม่จำเป็นต้องไปจองวัคซีนจากบริษัทอื่นๆ ของแอสตร้าเซนเนก้านั้น ไม่จำเป็นต้องทำตู้เย็นอยู่ที่ -20 องศาเซลเซียส หรือที่ -70 องศาเซลเซียส ตู้เย็นธรรมดา สามารถจัดเก็บวัคซีนของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี