“ปัญญาประดิษฐ์” หรือที่ทุกคนเรียกติดปากกันว่า “AI” (Artificial Intelligence)ได้เข้ามามีบทบาทในทุกภาคส่วนช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตประจำวันของมนุษย์ ในหลายองค์กรธุรกิจได้นำ AI เข้ามาใช้เพื่อเสริมศักยภาพระบบการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ในขณะที่นักพัฒนาเทคโนโลยี นักอุตสาหกรรม และนักธุรกิจ กำลังพุ่งเป้าให้ความสำคัญกับ AI แต่เมื่อถามว่า AI คืออะไร คนทั่วไปส่วนใหญ่เกือบจะไม่เคยได้ยินคำว่า AI ด้วยซ้ำ และยังมีอีกหลายคนที่ยังไม่เข้าใจว่าAI คืออะไร และหากเจาะให้ลึกลงไปจะเห็นได้ว่า แต่ละคนมีภาพความเข้าใจของ AI ที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งความไม่เข้าใจเหล่านี้ ล้วนส่งผลต่อทิศทางการขับเคลื่อน AI ของประเทศไทยในอนาคต
ด้วยเหตุนี้ สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) โดยหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนากำลังคน และทุนด้านการพัฒนาสถาบันอุดมศึกษา การวิจัยและการสร้างนวัตกรรม (บพค.)ภายใต้ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จึงได้ให้การสนับสนุนสถาบันการศึกษา เดินหน้าจัด โครงการ “AI for All”โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ ให้ประชาชนและผู้ที่เกี่ยวข้องได้เห็นถึงความสำคัญของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่กำลังเข้ามามีบทบาทมากขึ้นและส่งเสริมให้มีการพัฒนาศักยภาพของกำลังคนในประเทศ ให้สามารถนำเอาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์และหุ่นยนต์ไปประยุกต์ใช้ได้
ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม(อว.) ให้ความเห็นว่า เมื่อ AIมีความสำคัญทั้งในเชิงเทคโนโลยีและในเชิงการใช้งาน สำคัญในเรื่องของการช่วยพัฒนาประเทศไทยและพัฒนาโลกจนทำให้หลายฝ่ายกังวลว่า คนจะตกงานเพราะถูก AI เข้ามาแทนที่ ดังนั้นประเทศไทยจึงต้องเตรียมพร้อมทุกด้าน ตั้งแต่เยาวชนไทย ไปจนถึงเทคโนโลยี ระบบการจัดการ และกฏหมายที่เกี่ยวข้อง นี่จึงเป็นที่มาของการขับเคลื่อนโครงการ AI For All โดยอว.ได้บูรณาการร่วมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ในการสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ AI แก่ประชาชน ผ่าน 5 โครงการย่อย ที่มุ่งส่งเสริมให้เกิดการนำ AIมาประยุกต์ใช้ในสาขาวิชาชีพต่างๆ รวมไปถึงชุมชนและสังคม เป็นการจุดประกายให้ทุกภาคส่วนได้เห็นความสำคัญของ AI การขับเคลื่อนโครงการในระยะเริ่มต้นจะมุ่งเน้นการสร้างองค์ความรู้ให้กลุ่มเป้าหมายได้เห็นความสำคัญ และได้ทราบว่าประโยชน์ของ AI เป็นอย่างไร รวมไปถึงมีประเด็นใดบ้างที่ต้องระมัดระวังที่สำคัญคือเราไม่เป็นเพียงแค่ผู้รองรับการพัฒนาเท่านั้น แต่สามารถอยู่ในแนวหน้าของภูมิภาคได้
ภายใต้โครงการ AI For ALL แบ่งออกเป็น 5 โครงการย่อย ได้แก่ 1.โครงการ AI ไทยสามารถ มุ่งสร้างกระแสความสนใจ ความรู้ และความเข้าใจเรื่องปัญญาประดิษฐ์เบื้องต้น สำหรับประชาชนทั่วไปที่ไม่รู้จักหรือยังไม่เข้าใจ โดยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
2.โครงการ AI@School มุ่งพัฒนาศักยภาพเยาวชนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ให้มีความรู้และความเข้าใจพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์ข้อมูลและเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ โดยศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ
3.โครงการ Super AI Engineer มุ่งพัฒนานวัตกร/วิศวกร/นักวิจัย/วิสาหกิจเริ่มต้น ด้านปัญญาประดิษฐ์ เพื่อป้อนเข้าสู่ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม โดยสมาคมปัญญาประดิษฐ์ประเทศไทย และสถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธรมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
4.โครงการ AI/ROBOTICS FOR ALL มุ่งพัฒนานวัตกร/นักวิจัย/วิศวกร/วิสาหกิจเริ่มต้นให้เกิดความตระหนัก และมีความรู้ความสามารถด้านปัญญาประดิษฐ์ โดยสถาบันวิทยาการหุ่นยนต์ภาคสนาม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
5.โครงการ SMART Agricultural Robot Contest 2020 มุ่งส่งเสริมให้นิสิต/นักศึกษาพัฒนาสิ่งประดิษฐ์ที่ใช้เทคโนโลยีหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์เพื่อแก้ปัญหาจากภาคการเกษตร และต่อยอดผลงานเข้าสู่เชิงพาณิชย์ต่อไป โดยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และสมาคมวิชาการหุ่นยนต์แห่ง
ประเทศไทย นอกจากนี้ยังมีมุมมองเกี่ยวกับ AI ที่น่าสนใจจากผู้ที่อยู่ในแวดวงไอทีและการสื่อสาร ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมีความเห็นตรงกันว่า ประเทศไทยและคนไทยต้องเตรียมพร้อมรับมือและรู้เท่าทันAI ให้มากที่สุด
แม้จะมีข้อกังวลเกี่ยวกับ AI มากมาย แต่นับเป็นการเริ่มต้นที่ดีที่ทุกภาคส่วนหันมาร่วมกันขับเคลื่อนให้โครงการเดินหน้า เพื่อพร้อมรับกับอนาคตในยุคของ AI เต็มรูปแบบ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี