18 ธันวาคม 2563 เฟชบุ๊กของผู้ที่ใช้ชื่อว่า ทิพย์อุสา จันทกุล โพสต์จดหมายเปิดผนึกจากกลุ่มอาสาสมัครพิทักษ์ดุหยงเกาะลิบง…สุดสะเทือนใจและขอประณามการกระทำของคนหรือกลุ่มคนที่ร่วมกันฆ่าแม่และลูกพะยูนคู่นี้ (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : โทษหนัก! 'วราวุธ'สั่งสอบด่วน กรณี'พะยูนท้องแก่'ทะเลตรังถูกฆ่าตัดเขี้ยว )
ข่าวการตายของพะยูนเพศเมียที่พบร่างลอยในทะเลระหว่างเกาะแหวนกับเกาะกระดาน ในพื้นที่หมู่ 2 เกาะลิบง จ.ตรัง เมื่อวานนี้ (วันที่ 17 ธันวาคม 2563) ซึ่งเป็นพะยูนที่มีขนาดโตเต็มวัยความยาวเกือบ 3 เมตร น้ำหนักเกือบ 300 กก. จากผลการชันสูตรของสัตวแพทย์กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ยืนยันว่าเป็นการตายจากฝีมือมนุษย์ด้วยมีรอยแผลถูกแทงด้วยของแหลมคมลึกถึงม้ามจนเป็น สาเหตุให้ตาย แล้วมีการตัดเขี้ยวออกไปโดยพบร่างไม่นานหลังจากถูกตัดเขี้ยว เพราะยังมีเลือดสดๆ ที่ไหลจากปาก แต่ที่น่าสะเทือนใจกว่านั้นคือ เมื่อผ่าซากพะยูนตัวนี้พบว่าเป็นแม่พะยูนท้องแก่ใกล้คลอด ทำให้ลูกในท้องต้องตายไปด้วยรวมเป็น 2 ชีวิตที่ต้องสูญเสียจากน้ำมือมนุษย์ใจร้าย
เขี้ยวพะยูนเป็นของมีราคาในตลาดมืด เหตุการณ์พะยูนตายเกยตื้นและโดนตัดเขี้ยวทั้งขณะมีชีวิตหรือโดนตัดตอนเป็นซากแล้ว เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า กลุ่มอาสาพิทักษ์ดุหยงได้พยายามปกป้องและต่อสู้มาตลอดทั้งกับผู้ร้ายที่ไม่เห็นตัว และผู้ร้ายที่อยู่ในคราบผู้มีอิทธิพล ซึ่งทุกครั้งเรื่องราวก็ถูกกลบให้เงียบหายไปในสายลม
การตายทั้งกลมของพะยูนแม่ลูกคู่นี้ก็เช่นเดียวกัน แต่ครั้งนี้เป็นการตายที่มันช่างสะเทือนใจ สะท้อนใจกับภาพที่เห็นเสียเหลือเกิน เป็นการสูญเสียที่ประมาณค่ามิได้เพราะพะยูนฝูงใหญ่ที่เกาะลิบงนี้ ลดจำนวนลงเพิ่มขึ้นทุกปี จนเสี่ยงที่สูญพันธุ์ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า การที่แม่พะยูนตัวหนึ่งจะให้กำเนิด ลูกน้อยแต่ละครั้งใช้เวลาเป็นรอบนานมากอาจ 7-10 ปี ที่จะเป็นความหวังให้สัตว์ทะเลหายากชนิดนี้คงอยู่คู่กับลิบงและคู่กับโลก การตายครั้งนี้ไม่ใช่เกิดจากสาเหตุธรรมชาติแต่เกิดจากการจงใจฆ่าด้วยฝีมือมนุษย์
ชุมชนเกาะลิบงและอาสาสมัครพิทักษ์ดุหยงได้ทำหน้าที่ปกป้องและอนุรักษ์พะยูนรอบเกาะลิบง เสริมกำลังให้กับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ด้วยความรักความผูกพันกับพะยูนโดยถือเป็นหน้าที่ของชาวลิบงทุกคน ไม่ว่าจะคอยเป็นหูเป็นตานำเรือออกลาดตระเวณพื้นที่ ดูเครื่องมือประมงผิดกฎหมาย คอยดูแลติดตามแปลงหญ้าทะเลว่าจะตายมากตายน้อย แม้แต่ร่องรอยพะยูนสัตว์หรือทะเลหายากอื่นๆในแนวหญ้าทะเลที่เก็บเป็นฐานข้อมูลเพื่องานอนุรักษ์ รวมไปถึงการวางทุ่นเพื่อกำหนดโซนนิ่ง เขตที่พะยูนกินหญ้า ทุกอย่างที่กลุ่มฯ สามารถทำได้ได้ทำหมดแล้วด้วยพละกำลังและทุนทรัพย์ของตัวเอง
การตายของแม่ลูกพะยูนในครั้งนี้ เป็นสิ่งที่ชุมชนเกาะลิบงเสียใจอย่างสุดซึ้ง และจำเป็นต้องตั้งคำถามกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า ถ้าชาวบ้านได้ทำหน้าที่มากมายขนาดนั้น พวกท่านเหล่านั้นได้ทำอะไรกันบ้าง จึงยังเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า รวมทั้งชาวเกาะลิบงทุกคนขอประณามและสาปแช่ง กลุ่มคนที่จงใจฆ่าพะยูนตัดเอาเขี้ยวเพื่อแลกกับเงินให้พบกับความวิบัติในทุกสถาน และเราจะสืบหาคนทำเอามาให้กฎหมายลงโทษให้จงได้
ขอบคุณข้อมูล กลุ่มอาสาสมัครพิทักษ์ดุหยงเกาะลิบง,ทิพย์อุสา จันทกุล
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี