ศบค.ประเมินมาตรการคุมโควิด
ลุ้น17-31ม.ค.
ยอดติดเชื้อลดไม่ต้องใช้ยาแรง
ป่วยใหม่วันเดียว271ตายเพิ่ม2
กทม.งัดระบบBKK COVID
คัดกรองปชช.เข้าออกพื้นที่
ห่วงระบาดในบ้าน-ออฟฟิศ
ไทยติดเชื้อโควิดเพิ่ม 271 ราย เสียชีวิตอีก 2 ราย มีโรคประจำตัวเบาหวาน ชี้กราฟเริ่มลด “จันทบุรี-นครปฐม” ไม่มีผู้ป่วยเพิ่ม ด้าน 4 จว.“ชลบุรี-ระยอง-กทม.-สมุทรปราการ”แนวโน้มลดลง เปิดตัว“หมอเบิร์ท”จิตแพทย์ช่วยงานทีมโฆษกศบค. ย้ำจว.เข้มมาตรการสกัดระบาดเต็มที่ จับตา 17-31 มกราคม ลุ้นยอดลดไม่ต้องใช้ยาแรง กทม.ติดเชื้อใหม่14 โยงพื้นที่เสี่ยง-อาชีพเสี่ยง วางระบบ BKK COVID คัดกรองคนเข้าออกพื้นที่
เมื่อวันที่ 14มกราคม นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค. แถลงสถานการณ์ผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตในประเทศไทยรายวัน
ติดเชื้อใหม่271-ตายเพิ่ม2ราย
โดยผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้มี 271 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 259 ราย ในจำนวนนี้มาจากการค้นหาเชิงรุก 181 ราย เป็นผู้ป่วยใหม่จากการเฝ้าระวังและระบบบริการ 78 ราย นอกจากนี้ พบผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศ 12 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 11,262 ราย หายป่วยสะสม 7,660 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 3,533 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 2 ราย รายแรก เป็นชายชาวอังกฤษ อายุ 71 ปี มีโรคประจำตัวเบาหวาน ไทรอยด์ มะเร็งปอด เดินทางจากอังกฤษวันที่ 5 ธันวาคมถึงไทยวันที่ 7 ธันวาคม เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลวันที่ 17 ธันวาคมแพทย์วินิจฉัยว่าติดเชื้อโควิด-19 อาการแย่ลงเรื่อยๆ และเสียชีวิตวันที่ 13 มกราคม อีกราย เป็นชายไทย อายุ 53 ปี อาชีพรับจ้าง มีโรคประจำตัวเบาหวาน มีประวัติเดินทางไปจ.จันทบุรี ชลบุรี และเพชรบุรีโดยรถยนต์ส่วนตัวระหว่างวันที่ 26-30 ธันวาคม วันที่ 3 มกราคม เริ่มมีไข้ ปวดศีรษะ มีเสมหะ เข้ารักษาตัวที่นนทบุรี ตรวจพบเชื้อโควิด และปอดอักเสบ อาการทรุดลงอย่างรวดเร็วและเสียชีวิตวันที่ 10 มกราคม ทำยอดผู้เสียชีวิตสะสม 69 ราย
จันทบุรี-นครปฐมไม่มีติดเชื้อ
นพ.ทวีศิลป์กล่าวต่อว่า ผู้ติดเชื้อในประเทศระหว่างวันที่ 15 ธันวาคม-14 มกราคม มียอดรวม 7,025 ราย แต่เมื่อแยกย่อยเป็นรายสัปดาห์ จะเห็นว่าสัปดาห์แรกของปี 2564 กราฟยังพุ่งสูงขึ้น มีผู้ติดเชื้อรวม 2,674 รายแต่สัปดาห์นี้กราฟลดลงมา ขณะนี้เหลืออีก 2 วัน แต่ผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 1,209 ราย ถือว่าวางใจได้ระดับหนึ่ง แต่ยังกลัววันเดียวพรวดขึ้นมาแล้วช็อค เราจึงต้องช่วยกันเพื่อลดกราฟลงมาให้ได้ ขณะเดียวกันนี้ มีผู้ติดเชื้อกระจายอยู่ใน 60 จังหวัด และมี 17 จังหวัดที่ยังไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อเลย อยากให้เป็นศูนย์ไปตลอด
ส่วนจังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อมากกว่า 50 ราย ยังอยู่ที่ 10 จังหวัด ซึ่งวันนี้ 2 ใน 10 จังหวัดคือ จันทบุรี และนครปฐม ไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อเพิ่ม และมี 4 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อลดลงคือ ชลบุรี ระยอง กทม. และสมุทรปราการ เพราะเป็นผลมากการค้นหาเชิงรุก หาก 10 จังหวัดนี้ตัวเลขลดลงมาได้จะทำให้ตัวเลขของทั้งประเทศลดลงมาอย่างเห็นได้ชัด
ดาวน์โหลดหมอชนะ7.18คน
โฆษก ศบค.ยังกล่าวถึงยอดดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นหมอชนะ 7.18 ล้านเครื่อง มียอดลงทะเบียนสะสม 5.05 ล้านคน เป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นมาภายในไม่กี่วัน แต่อยากให้มีผู้ลงทะเบียนเพิ่มขึ้นให้ได้ 40 ล้านคนเพื่อเป็นเครื่องมือหนึ่งในการรับมือโควิด-19 ก่อนวัคซีนมา ส่วนที่หลายคนตั้งข้อสังเกตว่าแอปพลิเคชั่นหมอชนะดูนิ่งๆ ไม่เห็นเคลื่อนไหวอะไร และกินแบตเตอรี่ เปลืองอินเตอร์เน็ต ตอนนี้ทีมงานกำลังแก้ไขอยู่
นพ.ทวีศิลป์เปิดเผยอีกว่า ตั้งแต่วันนี้เวลา 14.00 น. ในช่วงรายการ เอ็นบีทีรวมใจสู้ภัยโควิด-19 ซึ่งถ่ายทอดสดจากทำเนียบรัฐบาล จะมีนพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มาพูดคุยหัวข้อเรื่องความหวังคนไทยกับวัคซีน โควิด-19 และช่วงท้ายการแถลงข่าวทุกวันเวลา 14.00 น. จะถ่ายทอดสดเรื่อง โควิด-19 โดยเจาะจงประเด็นเฉพาะเรื่องที่จะนำมาพูดคุยโดยผู้เชี่ยวชาญ ในภาพรวมของประเทศ
เปิดตัว“หมอเบิร์ท”ร่วมทีมโฆษก
ส่วนกรณีมีข่าวพบผู้ติดเชื้อในโรงงานแห่งเดียวที่จ.สมุทรสาครถึง 900 คนนั้น โฆษก ศบค.กล่าวว่า เป็นการติดเชื้อในโรงงานพัทยา ฟู้ด ที่เขาประสานขอตรวจเอง 2 รอบ จนได้ตัวเลขดังกล่าว และแยกผู้ติดเชื้อออกมา อีกทั้ง ยังขอใช้พื้นที่ของตัวเองและออกค่าใช้จ่ายเองตั้งโรงพยาบาลสนาม มีที่นอนถึง 600 เตียง เราจึงต้องขอขอบคุณความคิดสร้างสรรค์และการร่วมแรงร่วมใจรับมือการระบาด
ทั้งนี้ ในตอนท้าย นพ.ทวีศิลป์แนะนำทีมโฆษก ศบค.ที่เข้ามาช่วยงานเพิ่มเติมคือ พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ หรือหมอเบิร์ท จิตแพทย์ โรงพยาบาลศรีธัญญา เป็นอดีตนางสาวไทย อดีตผู้ประกาศข่าว มีทักษะการสื่อสาร จะได้มามีส่วนช่วยทำความเข้าใจกับประชาชน ในส่วนที่ตนจะได้รับผิดชอบภาระต่างๆเพิ่มขึ้น อาจต้องออกภาคสนาม ไปสัมผัสปัญหาจริงมาช่วยทำให้เติมเต็ม
กราฟลด17-31มค.เคาะผ่อนปรน
ผู้สื่อข่าวถามถึงการประเมินสถานการณ์มาตรการ เพื่อเข้าสู่มาตรการผ่อนคลายจะเริ่มได้เมื่อใด นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ล่าสุดประกาศมาตรการออกมาวันที่ 4 มกราคม ที่ประชุมศบค.จึงนับเป็นวันแรกของการออกมาตรการที่สั่งกันทั่วประเทศ หากนับ 14 วันที่ปลอดภัยจากโรค โควิด-19 จะครบวันที่ 17 มกราคม โดยพล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการการศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 ขอให้ทุกจังหวัดสั่งเข้มออกข้อกำหนดทั้งหลายให้เต็มที่ถึงวันที่ 17 มกราคม และต้องประเมินกันอีกครั้งใน 2 สัปดาห์ถัดไป ซึ่งการสิ้นสุดการใช้มาตรการชุดนี้วันที่ 31 มกราคม เป็นช่วงการดูผลของการออกฤทธิ์ หากตัวเลขลดลงเรื่อยๆท่ากับเราใช้ยาได้ผล หลังวันที่ 31 มกราคม ก็ไม่ต้องยกระดับมาตรการขั้นที่ 2 อย่างไรก็ตาม ตลอดเดือนมกราคม ขอแรงทุกคนช่วยทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลง จะได้ไม่ต้องเห็นภาพจากการใช้ยาแรง
จับตาระบาดครอบครัว-ที่ทำงาน
นพ.วิชาญ ปาวัญ ผู้อำนวยการสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง (สปคม.) กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงสถานการณ์โควิด 19 ในกทม.ว่า การระบาดระลอกใหม่ของกทม.แตกต่างจากระลอกแรก โดยผู้ป่วยระลอกใหม่ไม่สูงเท่าระลอกแรก ทั้งที่จำนวนคนผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค (PUI) ไม่ได้ต่ำกว่า แสดงว่าระบบเฝ้าระวังในพื้นที่ยังทำงาน ไม่ได้ลดเฝ้าระวัง และการระบาดระลอกแรกเป็นการติดเชื้อไม่มีอาการ 29% ส่วนระลอกใหม่ติดเชื้อไม่มีอาการ 49%
“คลัสเตอร์สำคัญในกทม.คือ กรณีเชื่อมโยงสมุทรสาคร ซึ่งพบมากช่วงปลายธันวาคม 2563 และค่อยๆ ลดลง จนเริ่มพบมากขึ้นจากการเข้าไปค้นหาเชิงรุก และกรณีสถานบันเทิง เกิดขึ้น 3 เวฟ คือ เวฟแรกย่านปิ่นเกล้า เวฟสองย่านธนบุรี และเวฟสามแถวบางนา แต่ที่ต้องเฝ้าระวังคือ เริ่มพบระบาดในครอบครัว สถานประกอบการ และองค์กรต่อเนื่อง จึงต้องย้ำมาตรการเฝ้าระวังในสถานประกอบการอย่างเข้มข้น เพื่อยุติการระบาดให้เร็วที่สุด ภาพรวมถือว่าสถานการณ์คงตัว แต่ไม่อาจวางใจได้ ต้องเฝ้าระวังเข้มข้นสูงสุด”นพ.วิชาญกล่าว
เด็ก3เดือนติดจากเพื่อนพ่อ
ผู้สื่อข่าวถามถึงการติดเชื้อของเด็กอายุ 3 เดือนใน กทม.นพ.วิชาญกล่าวว่า เป็นการติดเชื้อในครอบครัวในเขตพื้นที่บางบอน ซึ่งครอบครัวมี 5 คน ติดกัน 3คน คือ แม่อายุ 40 ปี และลูกชาย 2 คน อายุ 7 ขวบ และ 3 เดือน เป็นจุดพื้นที่ใกล้สมุทรสาคร สอบสวนโรคพบว่าเพื่อนของสามีมากินหมูกระทะที่บ้าน เพื่อนที่มาเยี่ยมมีอาการจมูกไม่ได้กลิ่น ไปตรวจพบการติดเชื้อ จึงแจ้งมาที่ครอบครัวและไปตรวจ ซึ่งทั้งสามรายไม่มีอาการ แต่เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง จึงตรวจและค้นพบนำเข้าสู่การรักษาแล้ว
กทม.ติดเชื้อ14โยงพื้นที่เสี่ยง
วันเดียวกัน ศบค.รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในกรุงเทพมหานคร (กทม.) พบมีผู้ติดเชื้อใหม่ 14 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศจากการไปพื้นที่เสี่ยง มีอาชีพเสี่ยง หรือสัมผัสกับผู้ติดเชื้อทั้งหมด โดยผู้ติดเชื้อทั้งหมดเป็นเพศชาย 5 ราย อายุ 12 – 49 ปี เพศหญิง 9 ราย อายุ 18 – 66 ปี สัญชาติไทย 10 ราย เมียนมา 3 ราย และอินเดีย 1 ราย มีอาการป่วย 10 ราย และไม่มีอาการ 4 ราย รักษาตัวที่รพ.เวชศาสตร์เขตร้อน 1 ราย รพ.ศิริราช 1 ราย รพ.เอกชนใน กทม. 11 ราย และรอประสานงาน 1 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมระหว่างวันที่ 18 ธันวาคม 2563 – 14 มกราคม 2564 อยู่ที่ 526 ราย
ขณะที่แฟนเพจ “เอิร์ธ พงศกร ขวัญเมือง” โฆษกกรุงเทพมหานคร เปิดเผย ไทม์ไลน์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มเติม 19 คนที่น่าสนใจคือ ผู้ป่วยชาย เป็นพ่อค้าออนไลน์ ช่วงวันที่ 31 ธันวาคมไปซื้อกุ้ง ที่ตลาดบางขุนเทียน 1 มกราคม ไปทำบุญที่วัดหัวลำโพง ไปสยามพารากอน และ สยามสแควร์ วันรุ่งขึ้นไปไอคอนสยาม 3 วันต่อมาเริ่มมีอาการลิ้นไม่รับรส จมูกไม่ได้กลิ่น จึงไปตรวจหาเชื้อผลคือติดเชื้อ แต่จากไทม์ไลน์ ยังไม่พบติดเชื้อจากที่ใด ต้องสอบสวนโรคเพิ่มเติม อีกคน เป็นผู้ป่วยชาย อาชีพอิสระ มีประวัติเสี่ยงเดินทางไปจ.เชียงใหม่ ช่วงวันที่ 31 ธันวาคมไปเที่ยวสถานบันเทิง “วอร์มอัพ คาเฟ่” ก่อนกลับกทม. และเกิดอาการปวดศีรษะ ไอ มีน้ำมูก จึงไปตรวจยืนยันติดเชื้อ
กทม.ใช้BKK COVIDคัดกรองเข้าออก
ทั้งนี้ จากการพบผู้ติดเชื้อใน กทม. ที่มีรายงานมาต่อเนื่อง ล่าสุดกทม.จัดทำระบบ BKK COVID-19 สำหรับผ่านด่านคัดกรองในกรุงเทพมหานคร การทำงานของระบบดังกล่าวนั้น ประชาชนต้องกรอกข้อมูล เพื่อบันทึกการเดินทางเข้าออก เริ่มจากสแกน QR CODEและกรอกแบบฟอร์มข้อมูลส่วนบุคคล กรอกข้อมูลการเดินทาง เส้นทางสัญจร เดินทางเที่ยวเดียว หรือไปกลับ และต้องระบุความจำเป็นของการเดินทาง จากนั้นให้แสดงข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ ที่ด่านคัดกรอง วิธีนี้จะช่วยเก็บข้อมูลผู้เดินทางเข้าออกกรุงเทพมหานครได้เป็นอย่างดี ควบคู่กับการใช้แอปพลิเคชัน “หมอชนะ” ที่ช่วยติดตามการเดินทางเคลื่อนย้าย
ปิดตลาดคลองเตย3วันผู้ค้าติดเชื้อ
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ตลาดคลองเตยว่า นายวัลลภ สุวรรณดี ประธานที่ปรึกษาของผู้ว่าฯ กทม. พร้อมด้วย น.ส.ปิยธิดา นิยม ผอ.เขตคลองเตยนำเจ้าหน้าที่ทำกิจกรรม ล้างตลาดคลองเตย สกัดโควิด หลังมีประกาศปิดตลาด 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 13 มกราคม และจะเปิดให้บริการอีกครั้งวันที่ 16 มกราคม เวลา 20.00 น. สืบเนื่องจากการตรวจหาเชื้อเชิงรุก ทำให้พบผู้ค้าแผงผักมีผลเป็นบวก 1 ราย ตามมาตรการผู้ว่าฯกทม. ทั้งนี้ การลงพื้นที่ค้นหาเชิงรุกในตลาด ได้ตรวจคัดกรองน้ำลายผู้ค้าในตลาดทั้ง 3 รอบ รวม 3,800 ราย พบผู้ค้าแผงผัก 1 ราย มีผลเป็นบวก ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 14 ราย อยู่ระหว่างกักตัว สังเกตอาการแล้ว
ระยองแจ้งเดินตลาดสวนมุกรายงานตัว
เช่นเดียวกับ ที่จ.ระยอง นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง แถลงยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิด 11 คน รวมผู้ติดเชื้อสะสม 552 คน เสียชีวิต 1 ราย รักษาหายแล้ว 404 คน ตรวจหาเชื้อกลุ่มเสี่ยงแล้ว 14,341 คน จากการสอบสวนโรคตั้งแต่ปีใหม่เป็นต้นมา พบว่าติดมาจาก 3 กลุ่มใหญ่ กลุ่มแรกติดมาจากโรงเบียร์ป๋าแดง ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี รวม 5 ราย กลุ่มที่ 2 ติดมาจากบ่อนการพนันที่ลักลอบเล่นจนสามารถจับกุมได้ถึง 129 คดี และกลุ่มที่ 3 ติดมาจากครอบครัว ที่เกิดจากกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อแล้ว แต่ยังไม่แสดงอาการ และยังไม่ยอมเข้ามารับการตรวจหาเชื้อ ส่วนประชาชนคนใดที่ไปตลาดสวนมุก ถ.สายกลางทุ่ง ต.เนินพระ อ.เมือง จ.ระยอง ระหว่างวันที่ 8-12 มกราคมให้รีบมารายตัว เพราะผู้ติดเชื้อไปเดินตลาดดังกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี