กทม.ไฟเขียวเปิดได้22ม.ค.
13กิจการเฮ
ฟิตเนส-นวดแผนไทย-สปา
โคราช-จันทบุรีเตรียมผ่อนผัน
ติดเชื้ออีก142คน/ลุกลาม63จว.
ยอดติดเชื้อโควิดสวิงกลับมาอยู่ 3 หลัก ติดเชื้อใหม่ 142 ราย ติดในประเทศ 125 ราย ป่วยสะสม 12,795 ราย กระจาย 63 จังหวัด เชียงรายติดบัญชีล่าสุด ยันเดินหน้าตรวจเชิงรุกต่อเนื่อง โดยสมุทรสาครตรวจวันละ 60 โรงงานให้ได้ 2-3 พันราย รับห้ามเดินทางไม่ได้ 100% จึงเน้นตรวจเชื้อเจอเร็วสำคัญกว่าห้าม
ลดผลกระทบเศรษฐกิจ โฆษก ศบค.เผยยังสรุปไมได้ กรณีดีเจมะตูมเป็นซุเปอร์สเปรดเดอร์วงการบันเทิง ชี้การใช้เฟซชิลด์อย่างเดียวไม่ช่วยป้องกันเชื้อ ชี้แนวโน้มสถานการณ์ยังทรง วางใจไม่ได้ ขอปชช.เคร่งครัดป้องกันตัวเองยกการ์ดสูงจนถึงสิ้นมกราคม เดือนหน้าจะได้สบาย ด้านกทม.ตรวจเชิงรุกไปแล้วกว่า 4 หมื่นคน เจอติดเชื้อ 60 ล่าสุดพบติดเพิ่ม 16 คน ขณะที่คณะกรรมการโรคติดต่อกทม.ไฟเขียวผ่อนปรน 13 กิจการเปิดบริการได้ มีผล 22 มค. อาบอบนวดยังอด
เมื่อวันที่ 21 มกราคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงสถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิด-19 ถึงจำนวนผู้ติดเชื้อประจำวันว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 142 ราย ติดเชื้อในประเทศ 125 ราย และติดเชื้อจากต่างประเทศ 17 ราย มีผู้ติดเชื้อสะสม 12,795 ราย เสียชีวิตสะสม 71 ราย เฉพาะระลอกใหม่ ติดเชื้อสะสม 8,558 ราย หายแล้ว 5,902 ราย ยังรักษา 2,645 ราย เสียชีวิตสะสม 11 ราย สถานการณ์ยังวางใจไม่ได้ จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่แต่ละวันยังขึ้นๆลงๆ อยู่ในสถานการณ์พยายามควบคุมโรคให้ลดลง
ติดเชื้อ142ลาม63จว.เชียงรายล่าสุด
สำหรับผู้ติดเชื้อใหม่ในประเทศวันนี้ 142 รายนั้น แยกเป็นตรวจพบในส่วนผู้เข้าระบบเฝ้าระวังและรักษาในรพ. 88 ราย ในจ.สมุทรสาคร 63 ราย กทม. 14 ราย(ยังไม่รวมดีเจมะตูม) อ่างทอง 4 ราย นนทบุรี 2 ราย เชียงราย ปทุมธานี ระยอง ชลบุรีและจันทบุรี จังหวัดละ 1 ราย และเจอจากค้นหาเชิงรุก 37 ราย ในจ.สมุทรสาคร 29 ราย กทม.2 ราย ปทุมธานี3 รายและจันทบุรี 3 ราย สะท้อนให้เห็นว่าเป็นการพบในผู้เข้ารักษารพ.มากกว่าการค้นหาเชิงรุก โดยเจอผู้ติดเชื้อแล้วใน 63 จังหวัด เชียงรายเป็นจังหวัดล่าสุด
หาเชิงรุกสมุทรสาคร60รง.2-3พันคน
อย่างไรก็ตาม การค้นหาเชิงรุกยังต้องดำเนินการต่อเนื่อง ซึ่งในส่วนจ.สมุทรสาครนั้น มีเป้าหมายตรวจเชิงรุกให้ได้วันละ 2,000-3,000 คน โดยอย่างน้อยวันละ 50 คนต่อโรงงาน จากที่ตนเคยบอกว่าต้องตรวจให้ได้ 600 โรงงานต่อวัน ขอแก้ไขเป็นวันละ 60 โรงงาน เพราะต้องตรวจให้ได้วันละ 2-3 พันราย ถ้า 600 โรงงานต่อวันจะตรวจไม่ทัน เนื่องโรงงานในจังหวัดมีกว่า 1 หมื่นแห่ง
ตรวจเจอเร็วสำคัญกว่ามาตรการห้าม
นพ.ทวีศิลป์กล่าวอีกว่า อีกประเด็นที่มีการพูดคุยกันคือ ในพื้นที่สมุทรสาครมีแรงงานจากจังหวัดใกล้เคียงเดินทางเข้ามาทำงานแบบเช้าไปเย็นกลับ แล้วทำให้จังหวัดนั้นมีการติดเชื้อ เช่น ราชบุรีติดเชื้อเพราะมีแรงงานทำงานในสมุทรสาครแบบกลับไปกลับมา จึงหารือกันถึงขอบเขตการเดินทางแม้พยายามเต็มที แต่ไม่ได้100% เพราะบางคนมีใบอนุญาตทำงาน ฉะนั้น ขอความร่วมมือผู้ที่มีอาการหรือไม่มีอาการแต่สงสัยว่าอาจติดเชื้อให้รีบไปตรวจในสถานพยาบาลใกล้บ้าน การตรวจเจอเร็วมีความสำคัญกว่าการห้าม เพราะจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม
กทม.ตรวจเชิงรุก4.1หมื่นติดเชื้อ60คน
โฆษก ศบค.ยังกล่าวถึงกรณีการระบาดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.)ว่า กทม.มีคนจำนวนมากและเดินทางง่าย ร่วมถึงพบปะกันง่าย จึงไม่แปลกที่จะพบคนติดเชื้อจำนวนมาก และกระจายไปทั่ว จึงต้องควบคุมโรค พื้นที่จำกัดใกล้ชิด ซึ่งในการตรวจค้นหาเชิงรุกนั้น กทม.ดำเนินการอยู่แล้ว จากการตรวจเชิงรุกสะสมตั้งแต่กลางเดือนธันวาคม 2563- 20 มกราคม แล้ว 41,508 ราย เจอติดเชื้อจากการค้นหาเชิงรุก 60 ราย ซึ่งเป็นการติดเชื้อกลุ่มก้อนมีลักษณะคละมากทั้งเชื่อมโยงสมุทรสาคร บ่อนพนัน สถานบันเทิง ในครอบครัว และวินจักรยานยนต์รับจ้าง ดังนั้น ต้องมาเข้มที่มาตรการสุขลักษณะนิสัยส่วนตัว ในการเข้มมาตรการป้องกันโรคส่วนบุคคล ทั้งใส่หน้ากาก ล้างมือบ่อยๆ เว้นระยะห่าง และใข้แอปไทยชนะ หมอชนะ
ขอยกการ์ดสูงจะได้สบายเดือนกพ.
“แนวโน้มสถานการณ์ยังทรงๆจะวางใจไม่ได้ แต่มีเวลาถึง 31 มกราคมนี้ ที่จะดำเนินการตามมาตรการต่างๆอย่างเข้มข้น จึงขอความร่วมมือของประชาชน ตอนนี้ครบรอบการแพร่เชื้อของคนติดรุ่นแรกแล้ว แต่ยังมีการแพร่ต่อในรุ่นต่อๆมา ต้องช่วยให้ติดน้อยที่สุด แต่คงไม่ได้ถึง 0 ราย แต่ให้อยู่ในจำนวนที่จะเพียงพอยอมรับได้ เหมือนกับวัณโรคที่ตอนนี้ในไทยก็ยังมีอยู่และเฝ้าระวังอยู่ตลอดเวลา แต่ไม่ได้ระบาดยังคุมกันอยู่ เมื่อเจอผู้ติดเชื้อก็เข้ารับการรักษา และหากสถานการณ์ถึงสิ้นเดือนนี้เป็นอย่างไร ชุดข้อมูลต่าง จะนำมาสู่การออกแบบพื้นที่ควบคุมสูงสุด พื้นที่ควบคุมและพื้นที่เสี่ยง ซึ่งศบค.จะประชุมก่อนถึงสิ้นเดือนนี้ โดยกระทรวงสาธารณศุขและศบค.ชุดเล็กจะพิจารณาก่อนเสนอว่าจะผ่อนหรือเข้มขึ้น ขอให้ทุกคนทุกฝ่ายร่วมมือกันเข้มตอนนี้จะได้สบายเดือนหน้า”นพ.ทวีศิลป์กล่าว
รอบใหม่เบากว่า-คนตายมีโรคประจำตัว
ส่วนที่ถามกันมาถึงความรุนแรงระลอกใหม่กับระลอกแรกนั้น ระลอกใหม่ความแรงน้อยกว่าระลอกแรก โดยระลอกแรกมีผู้ติดเชื้อ 4,237 ราย เสียชีวิต 60 ราย อัตราป่วยตาย 1.42 % ขณะที่ระลอกใหม่ติดเชื้อสะสมถึงวันที่ 20 มกราคม 8,416 ราย เสียชีวิต 11 ราย อัตราป่วยตาย 0.13 % ส่วนผู้เสียชีวิตประวัติมีโรคประจำตัว ทั้งสองระลอกไม่แตกต่างกันมากคือ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง โรคปอด มะเร็งปอดและไตวาย
แรงงานไทยในมาเลย์ยังไม่แห่กลับปท.
นพ.ทวีศิลป์กล่าวอีกด้วยว่า ศบค.ยังหารือเกี่ยวกับคนไทยที่จะเดินทางกลับจากมาเลเซียหลังมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่วันละหลายพันคนและประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินและปิดการเดินทางในหลายรัฐ แต่ให้แรงงานต่างด้าวยังอยู่ในประเทศได้ รวมถึงคนไทยด้วย ฉะนั้น แนวโน้มทุกคนยังอยู่ในที่ตั้ง เพราะมีการห้ามเดินทางข้ามรัฐ คนไทยจึงไม่น่าจะแห่กลับประเทศจนมีภาพมารอข้ามแดนที่ด่านจำนวนมากเหมือนการระบาดระลอกแรก แต่กระทรวงการต่างประเทศได้สื่อสารติดตามคนไทยและรายงานอย่างต่อเนื่อง
สรุปไม่ไ’มะตูม’ซูเปอร์สเปรดเดอร์
นพ.ทวีศิลป์ยังกล่าวถึงกรณีนายเตชินท์ พลอยเพชรหรือดีเจมะตูมออกมาเปิดเผยว่า ติดโควิด-19 จะกลายเป็นซูเปอร์สเปรดเดอร์ในวงการบันเทิงหรือไม่ว่า อาจจะเร็วไปที่จะสรุป เบื้องต้น ดีเจคนดังกล่าวออกมาเปิดเผยไทม์ไลน์ของตนเองตั้งแต่วันที่ 7 มกราคมถึงปัจจุบัน จะทำให้ผู้เกี่ยวข้องกับไทม์ไลน์รู้ได้ว่าตัวเองมีความเสี่ยงระดับใด เช่น ถ้าใกล้ชิดมากในระยะไม่เกิน 1 เมตรก็ถือว่าเสี่ยงสูง หรือพูดคุยกันโดยไม่ใส่หน้ากากนานเกิน 5 นาที จะทำให้คนที่สัมผัสใกล้ชิดตื่นตัวและแยกกักตนเอง เป็นความรับผิดชอบ ต้องช่วยกัน ฉะนั้น ถ้าคนสัมผัสเสี่ยงสูงและมีโอกาสรับเชื้อมากก็เฝ้าระวังตนเอง หากสงสัยก็ไปตรวจหาเชื้อ หรือมีข้อสงสัยสอบถามได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422
เตือนเฟซชิลล์ไม่ช่วยป้องกันโควิด
“การใส่เฟซชิลด์อย่างเดียวไม่เพียงพอในการช่วยป้องกันโรค เพราะถึงจะคลุมทั้งใบหน้า แต่ไม่แนบชิดเหมือนการสวมหน้ากาก ยังสามารถรับและแพร่เชื้อให้ผู้อื่นได้ แม้ใส่เฟซชิลด์ หากยังนั่งใกล้กันมากยังมีโอกาสได้รับละอองฝอยน้ำลายเต็มที่ สิ่งที่จะช่วยคือ เว้นระยะห่าง แต่มีการศึกษาเช่นกันว่าแม้ห่างแต่อยู่ในห้องที่อากาศปิดก็ยังรับเชื้อได้ จึงไม่มีอะไร100% หากอยู่ร่วมกันนานในที่อากาศปิดควรใส่หน้ากาก” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
ผู้ว่าฯสมุทรสาครปอดอักเสบยังไม่ดีขึ้น
ด้านศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลแถลงความคืบหน้าอาการป่วยของนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครในรอบ 24 ชั่วโมงว่า ภาพรวมอาการดีขึ้นเล็กน้อยจากเมื่อวันที่ 20 มกราคม เนื่องจากไม่ต้องให้ยาความดันโลหิต และยากระตุ้นหัวใจ การทำงานของอวัยวะอื่นอยู่ในเกณฑ์ปกติ เพียงแต่การติดเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้ปอดอักเสบยังไม่ดีขึ้น ต้องให้ยาปฏิชีวนะต่อเนื่อง อาการทางคลินิกถือว่ายาคุมเชื้อได้ดี ไม่มีการดื้อยาเพิ่ม แต่ต้องจัดการการติดเชื้อให้เร็ว เพื่อไม่ให้ดื้อยาเพิ่ม นอกจากนี้ ยังต้องให้ยาคลายกล้ามเนื้อ ยานอนหลับ เพื่อให้ผู้ว่าฯนอนหลับไม่ต้านเครื่องช่วยหายใจ เวลารู้สึกตัว และต้องให้สารอาหารเพิ่มทางเส้นเลือด เพราะการใส่ท่อช่วยหายใจมีผลกับทางเดินอาหารบางส่วน นอกจากนี้ คณะแพทย์ยังพิจารณาแนวทางรักษาในอนาคต และดูว่าปอดจะให้กลับมาหายใจได้เองตามปกติ โดยต้องประเมินเนื้อปอดที่เหลือว่าจะทำงานได้แค่ไหน เพราะจากการถอดเครื่องหายใจที่ผ่านมา หรือการปรับท่านอนได้ไม่นาน ผู้ว่าฯก็ดีขึ้น แต่ก็กลับมาเหนื่อยและต้องใช้เครื่องช่วยหายอีกครั้ง โจทย์สำคัญที่ต้องประเมินและพิจารณาหาคำตอบเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด ส่วนการติดเชื้อของปอด หากไม่มีไข้ แสดงว่าตอบสนองต่อยาดี
นักข่าวทำเนียบฯโล่งผลตรวจเป็นลบ
ผู้สื่อข่าวรายงานผลการตรวจหาเชื้อในสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล ตามที่สำนักโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีประสานกระทรวงสาธารณสุขส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจคัดกรองเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธีเก็บตัวอย่างสารคัดหลั่งจากโพรงจมูก หรือ Swab เมื่อวันที่ 20 มกราคม เนื่องจากทำงานใกล้ชิดนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีรวมถึงข้าราชการ ปรากฏว่า ช่วงเช้าวันนี้ น.ส.นัทรียา ทวีวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรีแจ้งผลการตรวจเชื้อของสื่อมวลชนว่า เป็นลบทุกราย ไม่พบเชื้อโควิด ซึ่งทั้งหจะได้รับสติ๊กเกอร์เป็นสัญลักษณ์ว่าผ่านการตรวจแล้ว และทำเนียบฯจะอนุญาตเฉพาะสื่อมวลชนที่มีสติ๊กเกอร์ดังกล่าว ที่ดักรอสัมภาษณ์นายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี ได้เท่านั้น
ชลบุรีเจออีก1เป็นชาวต่างด้าว
นพ.วิชัย ธนาโสภน รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า จ.ชลบุรีมีผู้ติดเชื้อโควิดใหม่ 1 ราย เป็นคนต่างด้าวเพศชาย อายุ 32 ปี ในเขตอ.เมือง ข้อมูลที่ได้จากการสอบสวนโรคเบื้องต้น ติดเชื้อโควิดที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดชลบุรี จากนั้นสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรีและสำนักงานสาธารณสุขอำเภอเมืองชลบุรี ได้เข้าสอบสวนควบคุมโรค ติดตามผู้สัมผัสผู้ติดเชื้อให้ได้รับการตรวจหาเชื้อไปแล้ว 75 คนและค้นหาเชิงรุก เพื่อค้นหาผู้ติดเชื้อให้ได้มากที่สุด เพื่อนำมารักษากักตัวไว้ไม่ให้แพร่ระบาดต่อไป โดยขอให้ผู้เดินทางไปสำนักงานจัดหางานจังหวัดชลบุรี และร้านค้าหน้าสำนักงาน และหน้าองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี ตั้งแต่วันที่ 4 มกราคมที่ผ่านมา ไปตรวจหาเชื้อโควิด โดยยอดผู้ป่วยโควิดสะสม 648 ราย รักษาหายแล้ว 567 ราย กำลังรักษา 80 ราย และเสียชีวิต 1 ราย
กทม.ติดเพิ่ม16-สะสม635ราย
สำหรับพื้นที่กรุงเทพมหานคร มีรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่ 16 ราย แบ่งได้ 2 กลุ่มคือ กลุ่มแรก ติดเชื้อในประเทศจากการไปพื้นที่เสี่ยง มีอาชีพเสี่ยง หรือสัมผัสกับผู้ติดเชื้อก่อนหน้า 16 ราย ประกอบด้วย เพศชาย 7 ราย อายุ 5 เดือน-56 ปี เพศหญิง 7 ราย อายุ 24-62 ปี สัญชาติไทย 13 ราย และแรงงานข้ามชาติ อีก 1 ราย ไม่มีอาการ 7 ราย และมีอาการไข้ 7 ราย รักษาตัวที่รพ.เอกชนในกทม. 8 ราย รพ.จุฬาลงกรณ์ 1 ราย รพ.กลาง 1 ราย รพ.เจริญกรุง ประชารักษ์ 1 ราย รพ.ผู้สูงอายุบางขุนเทียน 1 ราย และรอประสาน 2 ราย และกลุ่มที่สอง พบจากการคัดกรองเชิงรุกอีก 2 ราย เป็นเพศชาย 2 ราย อายุ 37 และ 39 ปี แรงงานข้ามชาติ 2 ราย พบไม่มีอาการป่วย 2 ราย รักษาตัวที่รพ.เอกชน 1 ราย และรพ.ผู้สูงอายุบางขุนเทียน 1 ราย ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 635 ราย
ผ่อนปรน13กิจการเปิดบริการได้
อีกด้านหนึ่งมีความเคลื่อนไหวในหลายพื้นที่เริ่มผ่อนปรนใหนสถานประกอบการหลายแห่งเริ่มดำเนินการได้ หลังต้องหยุดดำเนินการ เพื่อสกัดการระบาดของไวรัสโควิด โดยร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร (กทม.) แถลงหลังประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อ กทม. ถึงมาตรการผ่อนปรนมาตรการจากการระบาดของโควิดระลอกใหม่ว่า วันนี้คณะกรรมการโรคติดต่อ กทม.พิจารณาผ่อนปรน 13 สถานที่ให้กลับมาเปิดได้ เริ่มตั้งแต่วันที่ 22 มกราคมเป็นต้นไป ประกอบด้วย
เริ่ม22มค.-‘อาบอบนวด’ยังอด
1.ตู้เกม แต่ต้องทำความสะอาดและสวมหน้ากาก 2.ร้านเกม ต้องทำความสะอาดและสวมหน้ากาก 3.สถานที่ดูแลผู้สูงอายุ แต่ต้องมีมาตรการป้องกัน 4.สนามแข่งขัน ยกเว้นสนามมวยและสนามม้า 5.ห้องจัดเลี้ยง แต่ต้องมีมาตรการป้องกัน ถ้ามีผู้ร่วมงานมากกว่า 300 คนต้องขออนุญาตเจ้าหน้าที่ 6.สนามพระเครื่อง เปิดได้ แต่ต้องไม่แออัด 7.สถานเสริมความงาม และสถานที่เจาะและสักผิวหนัง 8.ฟิตเนส และสถานที่ออกกำลังกาย ยกเว้นอบตัว 9.สปาและนวดแผนไทย แต่ต้องใส่หน้ากาก ไม่รวมอาบอบนวด 10.โรงยิม ค่ายมวย แต่ต้องไม่มีคู่ชกและแข่งขัน 11.สนามโบว์ลิ่งและสเกต แต่ห้ามแข่งขัน 12.สถาบันสอนลีลาศ แต่ห้ามแข่งขัน 13.โรงเรียนสอนการต่อสู้ แต่ห้ามแข่งขัน โดยจะเริ่มตั้งแต่เที่ยงคืนวันเดียวกันนี้เป็นต้นไป
ศบค.เห็นชอบไทยลีกเริ่มแข่งก.พ.
เช่นเดียวกับ คณะกรรมการเฉพาะกิจ พิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกัน และยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) ที่มีพล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เป็นประธาน ได้หารือกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุขและสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย บริษัท ไทยลีก จำกัด เข้าร่วม ซึ่งในการประชุมดังกล่าว ตัวแทนจากไทยลีก ได้นำเสนอมาตรการแข่งขันแบบปิด ในรูปแบบเหย้า-เยือน มีรายละเอียด 3 ส่วนสำคัญ ได้แก่ การแข่งขันแบบไม่มีผู้เข้าชม การเพิ่มมาตรการเดินทางข้ามจังหวัด และตรวจเชื้อโควิด-19 เพื่อติดตามผลระหว่างการแข่งขัน ซึ่งในที่ประชุมเห็นชอบให้เริ่มแข่งขันได้เต็มรูปแบบต้นเดือนกุมภาพันธ์ โดยมีข้อจำกัดบางประการ สำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (แดงเข้ม) นอกจากนี้ ศบค.ฝากให้สโมสร นักกีฬา และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ต้องให้ความร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีต่อสาธารณชน รวมถึงกีฬาประเภทอื่น และป้องกันการกระจาย ของเชื้อโควิด-19
จันทบุรีจ่อร้านอาหาร-ห้างเปิดสิ้นมค.
เช่นเดียวกับ จ.จันทบุรี นายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีรายงานข้อมูลจากศูนย์ปฏิบัติการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โควิด-19 จันทบุรีว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ จากการคัดกรองกลุ่มเสี่ยงเชิงรุก 4 ราย ทำให้ยอดสะสมผู้ติดเชื้อรวม 220 ราย รักษาหายแล้ว 208 ราย อยู่ระหว่างรักษา 11 ราย ซึ่งตลอด 3 วันไม่มีผู้ติดเชื้อเพิ่ม เพิ่งมาพบผู้ติดเชื้อใหม่วันนี้ 4 ราย คาดการณ์ว่า แนวโน้มเริ่มเข้าสู่ภาวะคลี่คลาย แต่ยังกำชับให้ประชาชนเคร่งครัดสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ เว้นระยะห่าง ทั้งนี้ คาดว่าภายในสิ้นเดือนมกราคม สถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติ จังหวัดออกประกาศผ่อนคลายข้อกำหนด ให้ดำเนินกิจกรรมบางประเภท ได้แก่ ให้เปิดจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มได้ตามเวลาปกติของสถานที่นั้น แต่ห้ามบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกประเภทในสถานที่ดังกล่าว รวมถึงห้างสรรพสินค้า ซุปเปอร์สโตร์ ศูนย์แสดงสินค้าให้เปิดดำเนินการได้ตามเวลาปกติของสถานที่นั้น โดยร้านอาหารและห้างสรรพสินค้าค้าต้องจัดระเบียบการเข้าใช้บริการ จำนวนลูกค้า ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2ปีหรือปรับไม่เกิน 4หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
โคราชคลายล็อคเว้น5จว.สีแดงยังเข้ม
นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ออกประกาศจากคณะกรรมการโรคติตต่อจังหวัดนครราชสีมา เรื่อง มาตรการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 สำหรับบุคคลที่เดินทามาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด พื้นที่ควบคุมสูงสุด และการจัดกิจกรรม มีเนื้อหาสรุปว่า นักท่องเที่ยว เดินทางท่องเที่ยวได้ ไม่ต้องกักตัวแล้ว แต่ให้ทำตามมาตรการของของสถานที่นั้น ยกเว้นพื้นที่สีแดง 5 จังหวัดเท่านั้น ที่ต้องกักตัว 14 วัน ถ้าเข้าพื้นที่จ.นครราชสีมา ประกอบด้วย จ.สมุทรสาคร จ.ชลบุรี จ.ระยอง จ.ตราด และจ.จันทบุรี ต้องรายงานตัวต่ออสม. ผู้นำชุมชน พร้อมแนบเอกสารความจำเป็นในการเดินทางต่อหน่วยงาน องค์กร สถานที่ที่เดินทางไป การจัดกิจกรรมที่รวมตัว“ผ่อนคลาย”ให้ภาครัฐและเอกชนจัดกิจกรรมที่มีผู้เข้าร่วมน้อยกว่า 300 คน แต่ต้องแจ้งสำนักงานสาธารณสุขอำเภอหรือเทศบาลในพื้นที่ โดยเคร่งครัดการปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรค กรณีผู้เข้าร่วมกิจกรรมมากกว่า 300คน ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี