สนามการเมืองท้องถิ่นระดับ เทศบาลนคร อีกแห่งหนึ่งของจังหวัดสงขลา คือสนามเลือกตั้งเทศบาลนครหาดใหญ่ ที่ก่อนหน้าที่กกต.จะประกาศให้วันที่ 28 มีนาคม 2564 เป็นวันเลือกตั้ง ท้องถิ่นระดับเทศบาลนั้น สนามของเทศบาลนครหาดใหญ่ ก็มีการเตรียมความพร้อมของแต่ละทีม แต่ละกลุ่มการเมืองโดยการ“หาเสียง” ล่วงหน้ารอเพียงสัญญาณ“ระฆัง” จาก กกต.ก็พร้อมที่จะขึ้นเวที“หาเสียง”ในทันที
ผู้สื่อข่าวตรวจสอบสนามเลือกตั้งของเทศบาลนครหาดใหญ่พบว่ามีทีมผู้สมัครเพื่อให้ประชาชนเข้า“คูหา” กาหมายเลขในวันที่ 28 มีนาคม 2564 ถึง 5 ทีม ด้วยกัน ประเดิมด้วยทีมที่ 1 ซึ่งมีความพร้อมตั้งแต่“ไก่ยังไม่โห่” มีการเดินพบปะ แนะนำตัว กับคนในพื้นที่ และขึ้น“คัตเอาท์” ให้เห็นโฉมหน้าของทีมผู้บริหารที่ให้ชื่อว่า “ทีมปลัดแป้น”ซึ่งนำโดย นายณรงค์พร ณ พัทลุง อดีตนายอำเภอหาดใหญ่ อดีตปลัดจังหวัดนครศรีธรรมราชและสงขลา ด้วยนโยบายสั้นๆได้ใจความว่า“เปลี่ยนหาดใหญ่” ให้เป็น“เมืองสวัสดิการ และความสุข”
ทีมที่ 2 ซึ่งความจริงน่าจะ เป็นทีมแรก ที่เคยออกแนะนำตัวกับคนในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ ตั้งแต่ต้นปี 2563 คือทีมของ พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี อดีต ผบช.ตำรวจท่องเที่ยวแต่หลังจากเดินแนะนำตัวในฐานะ“ว่าที่ผู้สมัคร นายกเทศบาลนครหาดใหญ่”ได้ระยะหนึ่ง ก็เบนเข็มไปยังตำแหน่ง “นายก อบจ.” สงขลา แต่สุดท้าย ด้วยเหตุผล“ส่วนตัว” จึงไม่ได้ลงรับสมัครเลือกตั้งในตำแหน่ง “นายกอบจ.”แต่เป็น ประธานที่ปรึกษา นายก อบจ.สงขลาแทน และหลังจากที่มีการตรวจสอบคะแนนนิยมของประชาชนด้วยการ“ทำโพลล์” โดยผลของโพลล์ พบว่า คะแนนนิยมในตัวยังสู้ได้ จึงตัดสินใจกลับมาขึ้น“คัตเอาท์” บอกกับ ชาว“นครหาดใหญ่” ว่า“หลวงคร”พร้อมที่จะลงเลือกตั้ง ด้วยการโชว์ชื่อของ “สมพร ใช้บางยาง” อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ในฐานะเป็นที่ปรึกษาของทีม
ทีมที่ 3 คือทีมของ สมบูรณ์ พงศ์เลิศนภากรณ์ เจ้าของธุรกิจโรงแรม, รีสอร์ท ซึ่งในการเลือกตั้งที่ผ่านมา เคยขึ้น เวที“หาเสียง” กับ “คู่แข่ง” ทีมของ ไพร พัฒโน อดีตนายกเทศบาลนครหาดใหญ่มาแล้ว โดยเข้าวินเป็นที่ 2 และวันนี้ “สมบูรณ์” ได้ รวบรวม พลพรรค ที่มี“ไอเดีย” ในการ “ฟื้นเมืองหาดใหญ่” เพื่อลงเป็น“ตัวเลือก” ในฐานะที่เป็นนักธุรกิจ ที่ย่อมเข้าใจในปัญหา ธุรกิจ ได้ดี โดยเฉพาะ “หาดใหญ่” วันนี้ ได้กลายเป็น“เมืองร้าง” ที่ต้องอาศัย“ผู้รู้” ในการเข้ามาเพื่อแก้ไขสถานการณ์
ทีมที่ 4 ที่ขึ้นป้าย โชว์รูป และ“วิสัยทัศน์” คือ ทีมของ พงษ์ศักดิ์ จิโนภาส นักธุรกิจ ที่อยู่ในเมืองหาดใหญ่มานาน และทุกครั้งที่มีการเลือกตั้ง ก็จะขึ้นเวที“หาเสียง”เพื่อการ“สัปยุทธ์” กับคู่ต่อสู้ โดยที่ไม่ได้สนใจเรื่องของการ แพ้-ชนะ ครั้งนี้มีการหาเสียงด้วยการขายไอเดีย เรื่องการตรวจสอบงบประมาณและการใช้งบประมาณ ของเทศบาล เป็นเรื่องสำคัญ
และทีมสุดท้ายคือทีมของ ไพร พัฒโน อดีตนายกเทศบาลนครหาดใหญ่ ที่ตก“บัลลังก์” ด้วยการลาออกจากตำแหน่งก่อนถึงวันหมดวาระ เพื่อลงสมัครรับเลือกตั้ง สส. ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา แต่หลังจากลาออกจากตำแหน่ง ก็เกิด“อุบัติเหตุ” ทางการเมือง ที่ไม่ได้ลงสมัคร สส.ในครั้งนั้นซึ่งในการเลือกตั้งครั้งนี้ ไพร พัฒโน ยังคงยืนยันกับ “พลพรรค” ที่เป็น สท. และ ผู้สนับสนุนว่า จะอาสาเป็นหัวหน้าทีมในฐานะ ว่าที่ผู้สมัครนายกเทศบาลนครหาดใหญ่ เช่นเดิมไม่ได้ส่ง ศรีภรรยา หรือ น้องชาย ขึ้นเวที “หาเสียง” กับทีมคู่แข่งทั้ง 4 ทีม ในฐานะ“แชมป์เก่า” ที่ดูแลพื้นที่และ“หล่อเลี้ยงชุมชน” มาอย่างยาวนานแต่อย่างใด ก็ถือว่าเป็นโอกาสของคนในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา ที่การเลือกตั้งครั้งนี้เกิดขึ้น ท่ามกลางปัญหาที่ “รุมเร้า” ของคนที่อาศัยอยู่ในเขตเทศบาล ซึ่งส่วนใหญ่เป็น นักธุรกิจ พ่อค้า แม่ค้า ที่ต่างได้รับผลกระทบจากจากเรื่องของ เศรษฐกิจตกต่ำก่อนที่จะมีโรคระบาดของ“โควิด-19” เกิดขึ้นเสียอีก และหลังจากประเทศมาเลเซีย ประกาศปิดประเทศ ตั้งแต่“โควิด-19” ระบาดรอบแรก จนถึงรอบสอง
โดยมาเลเซียจะปิดประเทศถึงวันที่ 1 สิงหาคม 2564 จึงทำให้หาดใหญ่ ที่“ซบเซา”มาเป็นเวลากว่า 3 ปี ขณะนี้ถึงขั้นเป็น“เมืองร้าง” ผู้นำท้องถิ่น อย่าง“นายกเทศบาล” คือ“หัวใจ” สำคัญของการมีหน้าที่ ในการสร้างความเจริญ และแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้อง ให้กับท้องถิ่น ซึ่งวันนี้ คนในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ คงไม่ต้องการถนนหนทาง คู คลอง ไฟฟ้า และ สิ่งสาธารณูปโภคอื่นใด แต่ต้องการผู้บริหารที่มี“วิสัยทัศน์” เข้ามาเพื่อ“กอบกู้” ธุรกิจการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และปัญหา“ปากท้อง” ของ ผู้ที่ “หาเช้ากินเช้า หาค่ำกินค่ำ” ซึ่งมีอยู่จำนวนไม่น้อยในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่
ดังนั้นเมื่อมีผู้เสนอตัวเพื่อเป็นผู้บริหาร เทศบาลนครหาดใหญ่ถึง 5 ทีม ด้วยกัน จึงเป็นโอกาสของคนหาดใหญ่ว่าจะเลือกใครมาเป็นผู้บริหารคนต่อไป เพื่อทำหน้าที่“กอบกู้” หาดใหญ่ ให้กลับมามี“ชีวิตชีวา” อีกครั้ง
ปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี