“ผกก.ตม.เลย” สนองนโยบาย “ผบช.สตม.- ผบก.ตม.4” บูรณาการร่วมกวาดล้างอาชญากรรมในพื้นที่ จับกุม 2 เวียดนาม นั่งเรือจากลาวลอบเข้าเมือง- “หนุ่มอินเดีย” อยู่เกินกำหนด 464 วัน
10 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเลย (ตม.จว.เลย) พ.ต.อ.ชนะพณ สุวรรณศรีนนท์ ผกก.ตม.จว.เลย แถลงผลการจับกุมต่างด้าวกระทำผิดกฎหมาย ว่า ภายใต้การอำนวยการสั่งการของ พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ รอง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.กฤษฎา กาญจนอลงกรณ์ ผบก.ตม.4 , พ.ต.อ.วีรยศ การุณยธร รอง ผบก.ตม.4 ทาง ตม.จว.เลย โดยตน , พ.ต.ท.กันต์พจน์ แจ่มปรางค์ทอง รอง ผกก.ตม.จว.เลย , ว่าที่ พ.ต.ต.อนันต์ ช่วยแก้ว สว.ตม.จว.เลย บก.ตม.4 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตม.จว.เลย ร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ บูรณาการร่วมกันระดมกวาดล้างอาชญากรรม และออกตรวจสอบผู้กระทำความผิดในพื้นที่รับผิดชอบ
ต่อมาเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2564 เวลาประมาณ 07.00 น. ที่บริเวณ ริมถนนสาธารณะเส้นทางจากสี่แยกไฟแดง อ.ปากชม ไป ต.เชียงกลม ต.ปากชม อ.ปากชม จ.เลย พบชาย 2 คนเดินอยู่บนถนน จึงได้แสดงตัวและขอตรวจสอบ พบว่าเป็นคนต่างด้าวสัญชาติเวียดนาม และไม่มีเอกสารหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทาง มาแสดง จึงได้จับกุมตัวบุคคลต่างด้าว โดยกล่าวหาว่า “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต (หลบหนีเข้าเมือง)”
จากการสอบถามเบื้องต้นทั้ง 2 คน รับว่าหลบหนีเข้าเมืองมาทางประเทศลาว ข้ามแม่น้ำโขงด้วยเรือเพลาหางยาว เข้ามาบริเวณเขตรอยต่อ จ.เลย และ จ.หนองคาย เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาและควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปากชม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ต่อมาในเวลา 15.30 น. เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตม.จว.เลย ร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ได้ออกปฏิบัติหน้าที่ตามเขตพื้นที่รับผิดชอบ เมื่อไปถึงบริเวณริมถนนในหมู่บ้านแหล่งควาย หมู่ 3 ต.นาอาน อ.เมืองเลย จ.เลย พบบุคคลคล้ายคนต่างด้าว กำลังเดินอยู่ริมถนนในหมู่บ้านแหล่งควาย จึงได้ขอตรวจสอบเอกสารประจำตัวหรือหนังสือเดินทาง หรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทาง และคนต่างด้าวไม่สามารถนำหนังสือเดินทางมาแสดงแก่เจ้าหน้าที่ได้ จึงได้ทำการจับกุมตัว ทราบชื่อคือ นายชันนี่ นิชาด อายุ 23 ปี สัญชาติอินเดีย โดยกล่าวหาว่า “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด (Overstay) จำนวน 464 วัน” ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522
จากการตรวจสอบข้อมูลการเดินทางในระบบสารสนเทศของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (PIBICS) ในรถยนต์ไฟฟ้าตรวจการณ์อัจฉริยะ BMW ทราบว่านายชันนี่ เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2562 ทางช่องทางด่าน ตม.ทอ.ภูเก็ต ได้รับการตรวจลงตราประเภทนักท่องเที่ยว อนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรถึงวันที่ 2 พฤศจิกายน 2562 ซึ่งเป็นการอยู่เกินกำหนดอนุญาต 464 วัน จากการสอบถามรับว่าก่อนถูกจับกุมได้พักอาศัยอยู่ที่ จ.มหาสารคาม และเดินทางมาในพื้นที่ จ.เลย ได้ 7 วัน เพื่อมาหางานทำ แต่ยังไม่ได้ทำงานแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงจับกุมตัวและแจ้งข้อกล่าวหา พร้อมควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเลย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พ.ต.อ.ชนะพณ กล่าวเพิ่มเติมว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นนโยบายและข้อสั่งการของ พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.กฤษฎา กาญจนอลงกรณ์ ผบก.ตม.4 ที่สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดระดมกวาดล้างอาชญากรรม และบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยให้ใช้ความเข้มงวดกวดขันจับกุมบุคคลต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ซึ่งไม่ผ่านการตรวจคัดกรองตามขั้นตอน และอาจนำเชื้อโควิด-19 เข้ามาแพร่ระบาดภายในประเทศได้ รวมถึงบังคับใช้กฎหมายในการตรวจสอบคนต่างด้าวที่เข้ามาพักอาศัยออยู่ในประเทศไทยต้องยึดถือปฏิบัติตามตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง และให้ดำเนินการจับกุมดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดอย่างจริงจังและต่อเนื่อง รวมถึงให้ติดตามความเคลื่อนไหว พร้อมทั้งให้คำแนะนำแรงงานต่างด้าวในพื้นที่ที่รับผิดชอบที่เข้ามาประกอบอาชีพและพักอาศัยอยู่ในประเทศไทย ต้องยึดถือและปฏิบัติตนให้ถูกต้องตามกฎหมาย รวมถึงเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในด้านความปลอดภัยให้กับประชาชน และเพื่อความมั่นคงของประเทศ หากประชาชนต้องการแจ้งเบาะแส หรือพบเห็นการกระทำความผิด สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน สตม.1178 หรือแจ้งได้ที่ตรวจคนเข้าเมือง จังหวัดเลยได้ทุกจุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี