เปิดแผนขนต่างด้าว‘แก๊งเจ๊เพชร’ หิ้วสมุนชี้เส้นทางลอบเข้าออก-จุดจ่าย‘ค่าหัว’ (คลิป)
ความคืบหน้ากรณี พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) แถลงผลปฏิบัติการกวาดล้างขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามาในประเทศไทย ห้วงระหว่างวันที่ 1 มกราคม-11 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา โดยจับกุมขบวนการหรือเครือข่ายนำพาแรงงานต่างด้าวมากกว่า 10 เครือข่าย หนึ่งในนั้น คือ เครือข่ายของนางราตรี เวชสุวรรณ หรือ “เจ๊เพชร” อายุ 45 ปี ซึ่งเป็นตัวการสำคัญและเครือข่ายที่ใหญ่ที่สุดในการนำเข้าและส่งออกแรงงานชาวเมียนมาเข้าสู่ตลาดกลางกุ้ง จ.สมุทรสาคร และเกี่ยวพันต่อการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่ โดย “เจ๊เพชร” ทำหน้าที่เป็นเอเย่นต์ฝั่งไทย ประสานกับเอเย่นต์ฝั่งประเทศเมียนมา (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : จับ'เจ๊เพชร'เอเย่นต์ใหญ่ฝั่งไทย ขนแรงงานเมียนมาส่งตลาดกลางกุ้ง)
ล่าสุดเมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2564 พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมคณะ และพนักงานสอบสวนเดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มาลงจอดที่ลานหน้าอาคารด่านศุลกากร บ้านพุน้ำร้อน หมู่ 12 ต.บ้านเก่า เพื่อนำตัวนายเอมีล อายุ 30 ปี แรงงานชาวเมียนมาที่เป็นสมุนของ “เจ๊เพชร” ที่ทางเจ้าหน้าที่กันเอาไว้เป็นพยานในคดีมาชี้ทำแผนตามจุดต่างๆ เพื่อประกอบในสำนวนคดี หลังจากที่ศาลอาญารัชดาออกหมายจับ “เจ๊เพชร”
จากนั้นคณะเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายเอมีล ไปชี้จุดเส้นทางเข้าออกระหว่างประเทศบริเวณชายแดนติดกับฐานกองร้อยทหารพรานที่ 1111 ที่อยู่ตรงข้ามกับบ้านทิกิ ประเทศเมียนมา ใช้เวลาประมาณ 30 นาที จึงแล้วเสร็จ จากนั้นนำไปชี้บริเวณบริเวณจุดตรวจเอกสารผ่านเข้า ตม.กาญจนบุรี และนำพาไปชี้จุดที่หน้าบ้านพักของ “เจ๊เพชร” ท้องที่หมู่ 14 ต.บ้านเก่า และที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ซึ่งทั้ง 2 จุด เป็นจุดที่มีการจ่ายเงินค่าหัว รวมทั้งเปลี่ยนรถยนต์เพื่อนำแรงงานไปที่ จ.สมุทรสาคร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้คณะพนักงานสอบสวนได้นำตัวนายเอมีล ไปชี้จุดเต็นท์ในพื้นที่ อ.ท่ามะกา 2 แห่ง และนำพาไปชี้จุดบริเวณภายในบ้านเช่าที่อยู่พื้นที่ ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี รวมชี้จุดเพื่อทำแผนที่ประกอบสำนวนในคดี 7 จุด
พล.ต.ท.จารุวัฒน์ เปิดเผยว่า วันนี้เรานำพยานที่ให้การว่ากลุ่มของ “เจ๊เพชร” มีการนำแรงงานหรือคนต่างชาติเข้ามาในประเทศไทยตามช่องทางไหน และมีลักษณะแบบไหน และทำอย่างไร ซึ่งเราก็จะทำเป็นแผนประกอบพร้อมอธิบายเพื่อประกอบในสำนวนการสอบสวน ซึ่งช่วงที่แรงงานเข้ามาในประเทศไทยนั้น เขาจะมีเอกสารผ่านแดน หรือ Border pass เพราะฉะนั้นเราจะถามว่าเมื่อผ่านเข้าไปแล้วได้มีการไปกระทำผิดกฎหมายอย่างอื่นหรือไม่ อันนี้เป็นเพียงแค่สเต็ปแรก หลังจากนี้จะไปทำแผน โดยให้พยานชี้ตามจุดต่างๆว่าแผนประทุษกรรมของ “เจ๊เพชร” ทำอย่างไรบ้าง
จากการสอบสวนพบว่าแรงงานชาวเมียนมาเข้ามาภายในประเทศก่อนที่เชื้อไวรัสโควิด-19 จะระบาดในรอบแรก แต่ขณะนี้การสอบสวนพยานยังไม่ครบในทุกประเด็น จึงยังสรุปไม่ได้ ต้องรอให้จนกระทั่งการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบทุกประเด็นเสียก่อน จึงจะสามารถสรุปได้ แต่มีความผิดอย่างแน่นอน ไม่เช่นนั้นศาลอาญาคงไม่อนุมัติออกหมายจับได้
เมื่อถามว่าการระบาดของโควิด-19 ที่ จ.สมุทรสาคร เกี่ยวกับแรงงานที่ไปจาก จ.กาญจนบุรีหรือไม่ ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวว่า มันเกี่ยวพันกันหมด เพราะส่วนหนึ่งที่ไป จ.สมุทรสาคร ก็ไปจากที่นี่ มีไป จ.นครปฐม ราชบุรี กระจายไปในหลายพื้นที่
“การระบาดของเชื้อโควิด-19 จะเกี่ยวกับแรงงานที่ลักลอบจากชายแดน จ.กาญจนบุรี หรือไม่ ถือว่าเกี่ยวข้องเพราะมีการนำเข้าอยู่ แต่ไม่ได้เข้าช่องทางด่านถาวรบ้านพุน้ำร้อนแล้ว แต่จะมีการลักลอบเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติที่เป็นช่องทางอื่น ซึ่งชาวเมียนมาไม่สามารถหลบหนีเข้มาได้ด้วยตนเอง ไม่สามารถที่จะเดินไปมหาชัยได้ ดังนั้นขาไปมันต้องมีใครคอยอำนวยความสะดวก ส่วนขบวนการนำพายังไม่ปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง ถ้ามีเมื่อไร ผมจับทันที และยังไม่พบว่ามีการจ่ายส่วยให้ใคร ถ้ามีขอให้นำตัวมาให้ ผมจะจัดการทันที” พล.ต.ท.จารุวัฒน์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี