nn ช่วงนี้เป็นช่วงการหาเสียงการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล (สท.) และนายกเทศมนตรี ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งในวันที่ 28 มีนาคม 2564 นี้ ทำให้พื้นที่ตรอก ซอก ซอย หมู่บ้าน ในช่วงเวลานี้มีผู้สมัครต่างหมุนเวียนพาเหรดกันเข้ามาขอคะแนนเสียงกันอย่างคึกคัก ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยได้เห็นหน้าค่าตาหรือได้มีการลงพื้นที่สอบถามสารทุกข์สุกดิบชาวบ้านแต่ประการใด จะเห็นหน้าค่าตากันก็ต่อเมื่อต้องการคะแนนเสียงสนับสนุนเท่านั้น นี่แหละ “ปาหี่” การเมืองของแท้ nn แต่แม้ว่าบรรยากาศการหาเสียงของฝ่ายผู้สมัครจะคึกคัก แต่สำหรับชาวบ้านชาวตลาดร้านช่องแล้วต้องบอกว่า เงียบเหงา วังเวง หดหู่ สุดบรรยาย เหตุเพราะผู้คนกำลังประสบภาวะตกระกำลำบากจากพิษเศรษฐกิจจนกระอัก ที่เรียกได้ว่าจะกินเข้าไปยังไม่มี ค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเทอมลูก ค่าเช่าแผงขายของ ไม่ต้องพูดถึง เดือดร้อนกันสาหัสเหลือทน ทำให้หลายคนหมดอาลัยตายอยาก เพราะไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร เพราะความช่วยเหลือจากรัฐไม่ได้เข้าไปอย่างทั่วถึง เงินเยียวยาทุกสิ่งอย่างต้องลงทะเบียน แต่คนที่ไม่มีสมาร์ทโฟน คนแก่ คนไร้ญาติขาดที่พึ่ง จึงเป็นอันจบเห่ nn สำหรับคนที่ได้เงินเยียวยาก็ไม่ใช่ว่าจะต่อชีวิตได้สักเท่าไหร่ เพราะราคาข้าวของดันทะลึ่งขึ้นไปรอพรวดเสียแล้วนี่คือ สันดานของผู้ประกอบการ พ่อค้า ที่เอาเปรียบประชาชนทุกเม็ดโดยที่รัฐตามไม่ทัน nn ยังมีความเดือดร้อนอีกมากมายนานัปการที่ผู้คนสะท้อนออกมาให้ได้ยินได้ฟัง เช่น ค่าสมัครสอบทั้งหลายของนักเรียนที่กำลังจะจบชั้น ม.6 ทั้งสอบ Onet Gat Pat สามัญ 9 วิชา ฯลฯ นักเรียนต้องเสียกันเป็นรายวิชา รวมๆ แล้วเป็นเงินหลักพัน นึกถึงพ่อแม่ผู้ปกครองและน้องๆ แล้วก็ได้แต่เหนื่อยหน่ายกับกระทรวงศึกษาธิการ ที่ผลักภาระให้กับพวกเขา ทั้งที่ควรเป็นการสอบฟรี เป็นสวัสดิการด้านการศึกษาจากรัฐที่ต้องมอบให้กับผู้เรียนสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งสะท้อนฝีมือการบริหารงานของรัฐบาลและบรรดารัฐมนตรี ที่ต้องบอกดังๆ ว่าสุดห่วย และไม่คิดจะหาทางปรับปรุงเปลี่ยนแปลงแก้ไขให้มันดีขึ้น มีแต่จะกระทืบซ้ำประชาชน นักเรียนหลายคนบ่นหนัก ไม่อยากสอบเยอะ เพราะเปลืองเงินพ่อแม่ผู้ปกครอง สงสารและเห็นใจจริงๆ บางบ้านลูกคนโตสอบเรียนต่อ ลูกคนรองต้องซื้อเสื้อผ้าชุดนักเรียนใหม่ ทำเอาพ่อแม่แทบขายไตกันเลยทีเดียว ไม่นับพวกชุดลูกเสือ เนตรนารี ที่สัปดาห์หนึ่งใส่ครั้งเดียวและต้องซื้อใหม่กันทุกปี ชุดละหลายร้อยบาท ทั้งที่ยุคสมัยนี้ควรต้องปรับปรุงหลักสูตรการเรียนการสอนให้ทันสมัย ใช้ได้จริงกับสถานการณ์ปัจจุบัน ไม่ใช่เอะอะก็อนุรักษ์ของเก่าแก่โบราณ โดยไม่มองโลกความเป็นจริง ไม่แปลกใจที่เด็กประเทศอื่นต้องทำงานพิเศษกันเป็นปกติ แต่เด็กไทยเรียนอย่างเดียวยันปริญญาตรีโดยที่ไม่เคยทำงานพิเศษเลย แถมยังต้องเรียนกวดวิชาตั้งแต่อนุบาล นี่คือ สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนของสังคมไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน หนำซ้ำหนักขึ้นเรื่อยๆ nn
มันแกว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี