ยึดทรัพย์มโหฬาร‘แก๊งหลงจู๊สมชาย’ 880 ล้าน ทั้ง‘รถ-บ้านหรู-เรือยอร์ช’ ส่อโยง‘ฟอกเงินบ่อน’  

25 มีนาคม 2564 ที่กองปราบปราม มีการแถลงผลการจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพลบ่อนการพนันผิดกฎหมายต่อเนื่อง กรณีสืบเนื่องจากการจับกุมนายสมชาย จุติกิติ์เดชา หรือ “หลงจู๊สมชาย” อายุ 56 ปี เจ้าพ่อบ่อนพนันภาคตะวันออก ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาในคดีจ้างวานฆ่า พร้อมกับกลุ่มเครือญาติและลูกสมุนในคดี ร่วมกันฟอกเงิน ที่ได้มาจากธุรกิจบ่อนพนัน (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : บุกรวบ‘หลงจู๊สมชาย’ สมุนซัดบงการฆ่าปิดปากวินจยย.แฉรูปบ่อน)

สืบเนื่องจากข้อมูลการสืบสวน พบว่า นายสมชาย เป็นหัวหน้าขบวนการและเป็นผู้อยู่เบื้องหลังในการสั่งการให้ลักลอบขนย้ายตู้เครื่องจักรกลไฟฟ้า หรือตู้สล็อตแมชชีนโดยผิดกฎหมาย ที่ถูกจับกุมได้ในพื้นที่ สภ.วัฒนานคร และ สภ.เมืองขอนแก่น และนายสมชาย ยังเป็นเจ้าของบ่อนการพนันในพื้นที่ จ.ระยอง และ จ.ชลบุรี ประกอบด้วย บ่อนอาร์เจ ในพื้นที่ ต.มาบตาพุด , บ่อน บขส.เก่า จ.ระยอง , บ่อนอรุโณทัย ในพื้นที่เมืองพัทยา และบ่อนนำชัย ในพื้นที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

ทั้งนี้ จากการจับกุมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถตรวจยึดพยานหลักฐานที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี และมีความเกี่ยวข้องกับการกระทําความผิดเป็นจํานวนมาก พร้อมตรวจยึดทรัพย์สินอีกจำนวนกว่า 117 รายการ  แบ่งเป็น 1. โฉนดที่ดิน จำนวน 111 รายการ มูลค่าประมาณ 314 ล้านบาท 2. รถยนต์จำนวน 4 คัน มูลค่าประมาณ  5.6 ล้านบาท 3. อาวุธปืน 3 กระบอก มูลค่าประมาณ  1.2 แสนบาท 4. บัญชีธนาคาร 1 บัญชี มูลค่า  9 แสนบาท รวมมูลค่ากว่า 320 ล้านบาท ก่อนจะดำเนินการรวบรวมข้อมูลทรัพย์สินที่ตรวจยึดได้ในครั้งนี้ ส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ดำเนินการตามกฎหมาย โดยมีการดำเนินการยึดทรัพย์ ตาม พ.ร.บ.ฟอกเงินฯ  ได้จำนวนทั้งสิ้น 14 รายการ คิดเป็นมูลค่า 73 ล้านบาท

จากกรณีดังกล่าว กองบังคับการปราบปราม ได้เล็งเห็นแล้วว่า การกระทำของนายสมชาย และบุคคลที่เกี่ยวข้อง มีการสร้างอิทธิพลมาจากการกระทำที่ผิดกฎหมายเกี่ยวกับการพนัน แผ่อิทธิพลและขยายอาณาเขตไปทั่วพื้นที่ภาคตะวันออก และภาคอีสาน หากมีผู้ขัดขวางหรือก่อกวน เครือข่ายของนายสมชาย จะใช้อำนาจอิทธิพลจัดการ โดยเมื่อกลางปี 2563 เกิดเหตุมือปืนยิงนายประทุม สอาดนัก เสียชีวิต ซึ่งทางกองบังคับการปราบปรามได้รวบรวมพยานหลักฐานจนทราบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวมีความเชื่อมโยงกับนายสมชาย

ทั้งนี้ พบพยานหลักฐานอันน่าเชื่อว่านายสมชาย เป็นผู้สั่งการใช้ให้นายถาวร (สงวนนามสกุล) และนายสุพรรณ (สงวนนามสกุล) ทำการจ้างวานมือปืน ได้แก่ นายมนัส (สงวนนามสกุล) และนายนิพนธ์ (สงวนนามสกุล) ให้ลงมือฆ่านายประทุม โดยมีปมสาเหตุมาจากการที่นายประทุม ได้เข้ามาถ่ายรูปและส่งพิกัดตำแหน่งบ่อนการพนันของนายสมชาย ในพื้นที่ จ.ชลบุรี และ จ.ระยอง แจ้งเป็นเบาะเเสให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนบ่อนการพนันของนายสมชาย ถูกสั่งปิด ส่งผลกระทบโดยตรงกับนายสมชาย ทำให้ขาดรายได้จำนวนกว่าหลายล้านบาทต่อวัน เสียผลประโยชน์จากการลักลอบจัดให้มีการเล่นการพนันเป็นอย่างมาก จากสาเหตุดังกล่าวจึงทำให้นายสมชายฯ เกิดความโกรธแค้นและสั่งการจ้างวานฆ่านายประทุม โดยไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมืองแต่อย่างใด

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับนายสมชาย ในความผิดฐาน “ใช้ให้ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน , เป็นผู้จัดให้มีการลักลอบเล่นการพนัน และร่วมกันฟอกเงิน” รวมหมายจับทั้งหมด 35 หมายจับ ผู้ต้องหาจำนวน 22 ราย โดยในวันนี้ (25 มีนาคม 2564) ภายใต้ปฏิบัติการ “หนุมานดับบูรพา” ซึ่งเป็นการสนธิกำลังร่วมกันระหว่าง กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ,  กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 , กองบังคับการปราบปราม และกองบังคับการตำรวจน้ำ ได้มีการปฏิบัติการติดตามจับกุมนายสมชายกับพวกได้ทั้งหมด 8 ราย

ทั้งนี้ สามารถตรวจยึดสิ่งของที่เป็นพยานหลักฐานซึ่งเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีและเกี่ยวข้องกับการกระทําความผิดได้จํานวนกว่า 30  รายการ รวมมูลค่ากว่า 880 ล้านบาท โดยมีรายการของกลางที่ตรวจยึดได้ เช่น 1. โครงการเดอะแคปปิตอล ทาวน์ มาบตาพุด เป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น มี 59 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 4 ล้าน รวมมูลค่าประมาณ 236 ล้านบาท 2. โครงการเดอะแคปปิตอล นิคมพัฒนา ซอย 4 เป็นบ้านเดี่ยว มี 100 ยูนิต ราคาขายเริ่มต้น 1.6 ล้าน รวมมูลค่าประมาณ 160 ล้านบาท 3. โครงการเดอะแคปปิตอล นิคมพัฒนา ซอย 6 เป็นบ้านเดี่ยว มี 100 ยูนิต ราคาขายเริ่มต้น 2 ล้าน รวมมูลค่าประมาณ 200 ล้านบาท

4. โครงการเดอะแคปปิตอล นิคมพัฒนา ซอย 9 เป็นบ้านเดี่ยว มี 95 ยูนิต ราคาขายเริ่มต้น 2 ล้าน รวมมูลค่าประมาณ 190 ล้านบาท        5. โครงการเดอะแคปปิตอล ริมน้ำ เป็นทาวน์โฮม 23 ยูนิต เริ่มต้น 2.8 ล้าน รวมมูลค่าประมาณ 64.4 ล้านบาท 6. รถยนต์ TOYOTA รุ่น ALPHARD มูลค่าประมาณ 4 ล้านบาท 7. รถยนต์ TOYOTA รุ่น วีออส สีดำ มูลค่าประมาณ 7 แสนบาท

8. รถยนต์ TOYOTA รุ่น รีโว่ มูลค่าประมาณ 4.5 แสนบาท 9. รถยนต์ AUDI รุ่น TTS สีดำ ป้ายแดง มูลค่าประมาณ 4.5 ล้านบาท 10. รถยนต์ BMW X4 มูลค่าประมาณ 4 ล้านบาท 11. รถยนต์ BENZ มูลค่าประมาณ 4.5 ล้านบาท 12. เรือยอร์ช บาลาดี 52 จำนวน 1 ลำ (มีชื่อของนายธนา เป็นผู้ครอบครอง) มูลค่าประมาณ 8 ล้านบาท 13. สมุดบัญชีธนาคารจำนวน 12 เล่ม และของกลางรายการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 26 รายการ

จากการกระทำของนายสมชายฯที่ได้กระทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพล จัดให้มีการลักลอบเล่นการพนันโดยผิดกฎหมายในหลายพื้นที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้มีการตรวจสอบเส้นทางการเงินของนายสมชายฯ และบุคคลที่เกี่ยวข้อง โดยต้องสงสัยว่ากลุ่มของผู้ต้องหาได้มีการนำเงินที่ได้จากการกระทำความผิดเกี่ยวกับการพนัน ไปดำเนินการในกิจการต่างๆ เช่น ลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์, บิตคอยน์, กองทุน, ทองคำ, เรือยอร์ช ฯลฯ เพื่ออำพรางลักษณะที่แท้จริงของการได้มาซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด ซึ่งการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายเป็นความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการตรวจสอบทรัพย์สินที่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดที่ยังคงเหลืออยู่ คิดเป็นมูลค่ากว่า 720 ล้านบาท ต่อไป

ทั้งนี้ หลังจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการขยายผลติดตามจับกุมผู้ร่วมกระทำผิดรายอื่นๆ และจะทำการตรวจสอบขยายผลเส้นทางการเงิน ทรัพย์สิน และผู้ที่เกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีก หลังจากนั้นจะดำเนินการส่งรายงานการกระทำความผิดให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อดำเนินการยึดทรัพย์ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดตามกฎหมายต่อไป