บุคลากรทางการแพทย์โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา อสม. ทหาร ตำรวจ ตม.กาญจนบุรี เข้าคิวฉีดวัคซีนซิโนแวค รอง ผอ.ฝ่ายการแพทย์ฯเผยที่ผ่านมาพบมีผลข้างเคียงแค่วิงเวียนศีรษะเล็กน้อย ไม่นานก็หาย แนะผู้ป่วยรู้ตัวหรือเสี่ยงติดเชื้ออย่าปกปิดไทม์ไลน์ หวั่นบุคลากรต้องถูกกักตัว
เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (26 เม.ย.64) ที่ศาลอเนกประสงค์ พยงค์-สง่า รำลึก โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา จ.กาญจนบุรี บุคลากรทางการแพทย์โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา รวมทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่านปกครอง เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ตชด. เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง รวมทั้งเจ้าหน้าที่เรือนจำ และ อสม.ที่เป็นบุคลากรส่วนหน้าที่สุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ทยอยเดินทางมาฉีดวัคซีนซิโนแวค เพื่อป้องกันเชื้อไวรัส ซึ่งก่อนหน้านี้บุคลากรกลุ่มนี้ได้มาตรวจมาแล้วระหว่างวันที่ 22-23 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยมี นพ.สมเจตน์ เหล่าลือเกียรติ ผอ.โรงพยาบาลพหลฯ รวมทั้ง นพ.รักษ์พงศ์ เวียงเจริญ รอง ผอ.ฝ่ายการแพทย์ฯ นายวรัตนถ์ แก้วบุญชู รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารโรงพยาบาลพหลฯ พร้อมคณะผู้บริหารฯ คอยให้การต้อนรับและกล่าวทักทายบุคลากรฯที่มาฉีดวัคซีน
นพ.รักษ์พงศ์ เวียงเจริญ เปิดเผยว่า วัคซีนที่เข้ามาในช่วงนี้ชื่อวัคซีนซิโนแวค ซึ่งมีเข้ามาเรื่อยๆ เริ่มตั้งแต่สองสัปดาห์ก่อน โดยฉีดเข็มที่หนึ่งไปแล้วประมาณ 200 คน ซึ่งการฉีดในวันนี้เป็นการครบรอบที่จะต้องฉีดเข็มที่สอง ซึ่ง 200 คนที่ฉีดเข็มแรกไปแล้วก็จะมาฉีดในวันนี้ซึ่งเป็นเข็มที่สอง
สำหรับวัคซีนในล็อตต่อมาทางจังหวัดกาญจนบุรี ได้มาประมาณ 7,000 ชุดซึ่งได้กระจายไปฉีดให้กับเจ้าหน้าที่ตามโรงพยาบาลต่างๆ ในทุกอำเภอของจังหวัดกาญจนบุรี สำหรับที่โรงพยาบาลพหลฯ ที่ได้มาในรอบนี้ประมาณ 800 ชุดซึ่งได้ทำการฉีดให้กับบุคลากรทางการแพทย์ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ด่านหน้า เช่น เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการลงพื้นที่สอบสวนโรค โดยเริ่มทยอยฉีดมาตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว โดยฉีดไปแล้วประมาณ 500 คน
การฉีดวัคซีนในช่วงนี้ทางโรงพยาบาลพหลฯได้มีการจัดระบบโดยเน้นในเรื่องของความปลอดภัยเพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อเพราะฉะนั้นจำเป็นที่จะต้องจัดระบบให้รัดกุม ซึ่งการฉีดวัคซีน 2-3 วันที่ผ่านมาก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่อาจจะมีผลข้างเคียงเพียงเล็กน้อยเช่นวิงเวียนศรีษะหรือชาที่มือแต่ทุกคนก็หายเป็นปกติภายใน 1-2 วัน
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นในเรื่องของการดูแลทั้งเรื่องของการติดตามดูประสิทธิภาพของวัคซีน ซึ่งผู้ที่ฉีดวัคซีนขอให้สังเกตดูอาการในครึ่งชั่วโมงแรกและเจ้าหน้าที่จะมีการโทรไปสอบถามหลังจากที่ฉีดวัคซีนผ่านไป 3 วัน
สำหรับการฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มต่อไปคือจะฉีดให้กับกลุ่มประชาชนที่มีความเสี่ยง เช่นผู้ที่มีโรคประจำตัวและผู้สูงอายุ ซึ่งจะมีการเปิดให้ลงทะเบียนด้วยตนเองผ่านโรงพญาบาลที่อยู่ใกล้บ้าน ซึ่งคาดว่าจะสามารถลงทะเบียนได้ภายในสัปดาห์หน้า
ในเรื่องนี้ทางกระทรวงสาธารณสุขและโรงพยาบาลต่างๆก็จะประชาสัมพันธ์ซึ่งจะทำให้หน่วยบริการใกล้บ้าน รวมทั้ง อสม.ลงมาช่วยกันชี้แจงให้ประชาชนได้เข้าใจ เพราะในช่วงหนึ่งเดือนข้างหน้าวัคซีนก็จะทยอยส่งมาเรื่อยๆ คาดว่าจนถึงเดือนมิถุนายนนี้จะมีมากถึง 1 ล้านโดส ตามลำดับแล้วน่าจะฉีดวัคซีนให้กับทุกคนได้ สิ่งสำคัญในตอนนี้คือระหว่างการรอวัคซีน ในช่วงที่มีการระบาดในรอบนี้ ก็อยากให้ประชาชนทุกท่านรักษาระยะห่าง ใส่แมสทุกครั้งเมื่อออกนอกบ้านไปพบปะพูดคุยกับคนอื่นหรือพูดคุยกันในระยะใกล้ หมั่นล้างทำความสะอาดมือ ถ้าหากมีอาการไข้ไม่สบายก็ให้ไปปรึกษาหน่วยบริการหรือไปหาหมอที่อยู่ใกล้บ้าน
นพ.รักษ์พงศ์ เวียงเจริญ เปิดเผยต่อว่า สำหรับกรณีคนไข้ติดเชื้อโควิด-19 ที่มาพบหมอและพยาบาลแล้วมีการปิดบังประวัติอย่างเช่นที่เกิดขึ้นที่โรงพยาบาลจังหวัดสุราษฎร์ธานีนั้น เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะว่าเมื่อใดก็ตามที่มีคนไข้ที่ติดเชื้อโควิด-19 แล้วมาที่โรงพยาบาลแต่ไม่ได้แจ้งให้ทางโรงพยาบาลทราบ หากมีการทำอะไรไปบางอย่างเช่นผ่าตัด บุคลาการทางการแพทย์ของเราอาจจะมีการสัมผัสกับท่าน ไม่ว่าจะมีเครื่องป้องกันแล้วก็ตาม แต่ถ้าหากท่านมีการป่วยติดเชื้อโควิด-19 จริง บุคลากรทางการแพทย์ของเราก็จำเป็นที่จะต้องกักตัวทั้งหมด ซึ่งมันจะทำให้การรักษาผู้ป่วยที่จำเป็นมันจะยิ่งชะลอและล่าช้าออกไป
ดังนั้น จึงของฝากไปยังประชาชนทุกคนว่าหากมีอาการไม่สบายหรือมีประวัติเสี่ยงต่อการติดเชื้อ เช่นไปสัมผัสกับผู้ป่วยหรือสัมผัสกับญาติพี่น้องของผู้ป่วยหรือแม้กระทั่งไปงานเลี้ยงสังสรรค์ที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ ก็ขอให้รีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบทันทีซึ่งทางโรงพยาบาลไม่ได้ปฏิเสธ แต่เจ้าหน้าที่จะได้สวมใส่อุปกรณ์ในการป้องกันการแพร่เชื้อให้กับบุคลากรทางการแพทย์ของเรา เพื่อจะต้องไม่ได้กักตัวอย่างเช่นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเดียวกันสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรีได้รายงานความคืบหน้าการฉีดวัคซีนโควิด 19 ระบุว่า จากการที่มีการระบาดเพิ่มขึ้นของโรคโควิด 19 ในรอบปัจจุบัน รัฐบาลได้เร่งรัดนำเข้าวัคซีนบางส่วนมาก่อนเวลา เพื่อฉีดให้กับบุคลากรด่านหน้าทั้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และส่วนงานอื่นๆ นั้น สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี ได้รวบรวมบัญชีรายชื่อจากหน่วยงานต่างๆ ที่ต้องปฏิบัติงานด่านหน้าได้แก่ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ ตำรวจตระเวนชายแดน ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และเรือนจำ ฯลฯ ผ่านทางต้นสังกัดและอำเภอต่างๆ โดยดำเนินการฉีดระหว่างวันที่ 22-23 และวันที่ 26 เม.ย.64 มีโควต้ารวม 3,940 คน หรือประมาณครึ่งหนึ่งของบุคลากรที่มีความเสี่ยง ตามบัญชีรายชื่อของแต่ละหน่วยงานที่ส่งมา
โตยวันแรกเป็นการฉีดให้แก่บุคลากรสาธารณสุข วันที่สองฉีดให้บุคลากรหน่วยงานอื่นๆ และเก็บตกในวันที่สาม ผลการฉีดวัคซีนพบอาการข้างเคียงน้อยกว่า ร้อยละ 20 และไม่มีอาการแพ้รุนแรง อย่างไรก็ดี ขณะนี้ทราบว่าวัคซีนนำร่องอีกชุดหนึ่งกำลังเตรียมการจัดส่งมาเพิ่มอีก ประมาณ 4,000 ชุด ซึ่งจะได้มีการตรวจสอบบัญชีรายชื่อบุคลากรที่มีความเสี่ยงที่เหลือ เพื่อฉีดเพิ่มเติมให้คลอบคลุมมากที่สุด
ทั้งนี้ เพื่อสงวนอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงานให้ครบถ้วนเพื่อความพร้อมในการรับมือกับสถานการณ์ปัจจุบันไต้อย่างเต็มกำลังต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี