รองผู้อำนวยการ รพ.มหาราชนครราชสีมา เผยเคสเด็กน้อยอายุ 6 ขวบที่เสียชีวิตจากโควิดพบเด็กไม่ได้รับวัคซีน มีโรคประจำตัวความผิดปรกติทางสมองและการเคลื่อนไหว ชี้เป็นเคสอุทาหรณ์ที่อยากให้พ่อแม่ผู้ปกครองทุกคนควรให้ความสำคัญในการที่จะเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับบุตรหลาน
วันนี้ (27 พ.ย.65) ที่ศูนย์หน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาลของโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาชั้น 4 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล อ.เมือง จ.นครราชสีมา นพ.เจษฏ์ บุญยวงศ์วิโรจน์ รอง ผอ.รพ.มหาราชนครราชสีมา พร้อมบุคลากรทางการแพทย์บริการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นอย่างต่อเนื่อง โดยได้ไปตรวจเยี่ยมและเปิดจุดบริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 สำหรับเด็กอายุ 6 เดือน ถึง 2-4 ปีเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันเชื้อไวรัสโควิดให้เด็กอายุระหว่าง 2-4 ปี
โดยจุดบริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดสำหรับเด็กอายุ 6 เดือน 2-4 ปี จะให้บริการวันละ 300-400 คนโดยบรรยากาศได้มีบรรดาผู้ปกครองพาบุตรหลานที่มีอายุตั้งแต่ 2-4 ปีเข้ามารับบริการฉีดวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันเชื้อไวรัสโควิดเป็นจำนวนมาก ท่ามกลางเสียงร้องไห้กระจองอแงของบุตรหลานที่เข้ามารับการฉีดวัคซีนเนื่องจากมีอาการตื่นกลัวเข็มจนเจ้าหน้าที่พยาบาลและผู้ปกครองต่างต้องพากันเบี่ยงเบนความสนใจก่อนฉีดและปลอมขวัญหลังถูกเข็มฉีดยา รวมทั้งเปิดให้การฉีดผู้สูงอายุกลุ่ม 608 ได้ทุกคน
นพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รอง ผอ.รพ.มหาราช นครราชสีมา เปิดเผยว่า ขณะนี้ต้องยอมรับว่าผู้ปกครองนำบัตรหลานมาฉีควัคซีนกันน้อยมากโดยเด็ก 6 เดือน – 4 ปีเราพยายามเร่งการฉีดเฉลี่ยมีการฉีดสัปดาห์ละ 300-400 คนทั้งที่ รพ.มหาราชฯ และที่ศูนย์ฉีดที่เซ็นทรัลพลาซ่า โดยในเคสเด็กน้อยอายุ 6 ขวบที่เสียชีวิตเมื่อวันนี้ 23 พ.ย.ที่ผ่านมา 1.เด็กไม่ได้รับวัคซีน 2.เด็กมีโรคประจำตัวความผิดปรกติทางสมองและการเคลื่อนไหว
โดยแพทย์มีการซักประวัติไปมีการติดเชื้อจากคนในครอบครัว ฉะนั้นเด็กมีอาการค่อนข้างรุนแรง เนื่องจากโนคประจำตัวเป็นค่อนข้างมาก ซึ่งจริงๆ แล้วกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่กระทรวงสาธารณสุขแนะนำให้ฉีดในเด็กเพราะเด็กไม่ได้มี 608 ในเด็กแต่เด็กส่วนใหญ่จะมีเรื่องความผิดปรกติทางสมอง ซึ่งตรงนี้กระทรวงฯเองยังแนะนำให้ฉีดในกลุ่มแรกๆ ที่สำคัญเลย ฉะนั้น ตนอยากฝากพ่อแม่ผู้ปกครองทุกคนเพราะเรื่องนี้สำคัญมากที่ควรจะคิดเพิ่มเติมด้วย ซึ่งเด็กที่เสียชีวิตไม่ได้เกิดจากผลลัพท์ที่ฉีควัคซีน แต่เป็นเรื่องของการติดเชื้อโควิด เรื่องนี้คงต้องเป็นเคสอุทาหรณ์ให้กับพ่อแม่ผู้ปกครองคนอื่นๆ ด้วยในการที่จะเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับบุตรหลานเพราะเป็นเรื่องที่สำคัญมาก
นพ.เจษฏ์ กล่าวว่า ตนอยากเพิ่มในส่วนของผู้ต้องขังหรือนักโทษเดี๋ยวนี้ไม่ได้มีการสกีนคนที่ติดโควิดและผู้ต้องขังส่วนใหญ่จะมี 1 วัณโรค 2 HIV 3 การใช้เข็มและเรื่องยาเสพติด กลุ่มนี้ตอนี้มีความน่าเป็นห่วงมากก็คิดว่าน่าจะไม่ได้สกีนนิ่งหรือไม่ได้แยกอะไรตรงนี้เป็นเรื่องที่สำคัญเรื่องหนึ่ง - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี