วันพุธ ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
ก้นร้อนนั่งไม่ติด! 'สมศักดิ์'นำทีมราชทัณฑ์โต้เดือด ไม่เคยปกปิดข้อมูลเชื้อโควิดบุกคุก

ก้นร้อนนั่งไม่ติด! 'สมศักดิ์'นำทีมราชทัณฑ์โต้เดือด ไม่เคยปกปิดข้อมูลเชื้อโควิดบุกคุก

วันพฤหัสบดี ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2564, 17.49 น.
Tag : กรมราชทัณฑ์ โควิด ติดเชื้อโควิด ผู้ต้องขัง ศบค.
  •  

"สมศักดิ์"ยันไม่มีการปกปิดข้อมูล แจงผู้ติดเชื้อโควิดรักษารพ.ราขทัณฑ์ 1,295 คน เป็นกลุ่มสีเหลือง 145 คน อาการหนัก 4 ราย โดยใช้เครื่องช่วยหายใจ 1 ราย ประสานสธ.ซื้อยา คาด มิ.ย.ได้วัคซีนฉีดให้ผู้ต้องขัง

เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2564 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อม นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และ นพ.วีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์  ร่วมแถลงข่าวแนวทางแก้ปัญหาการแพร่ระบาดเชื้อโควิด 19 ในเรือนจำที่มีผู้ต้องขังติดเชื้อจำนวนมาก


โดยนายสมศักดิ์ กล่าวว่า การตรวจคัดกรองหาเชื้อโควิดในเรือนจำ เราทำได้อย่างรวดเร็ว เพราะได้รถพระราชทานตรวจโควิด ทำให้ตรวจได้เร็ว ซึ่งเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างล้นพ้น และเรามีการส่งข่าวให้ญาติทั้งหมดทราบ แต่ผู้ติดเชื้อมีจำนวนมากไม่สามารถทำได้เร็ว ซึ่งตามมาตรฐานสากล ผู้คุม 1 คนจะดูแลผู้ต้องขัง 6 คน แต่สำหรับประเทศไทย  อัตราส่วนคือ 1 ต่อ 33 เพราะเรามีบุคคลากรน้อย แต่เราทำงานเต็มที่ ปัจจุบันทุกคนเริ่มเข้าใจการทำงานของข้าราชการ และทุกเรือนจำข้างในเข้มงวดมาก แต่ 2 เรือนจำที่ติดเชื้อ เป็นเรือนจำที่รับผู้ต้องขังใหม่อยู่ตลอด ต่างจากเรือนจำอื่นๆ ส่วนการออกไปศาล เราได้ประสานกับศาลแต่ละจังหวัดแล้ว ขอให้งดไปศาลในระยะนี้ โดยจะขอให้ใช้วีดิโอคอนเฟอร์เร้นซ์ในการไต่สวนแทน

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ช่วงที่ตนเริ่มเข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรียุติธรรม ตอนนั้นมีผู้ต้องขัง 390,000 คนทั่วประเทศ ตนได้ใช้นโยบายลดแออัดแก้ปัญหาผู้ต้องขังล้นคุกจนขณะนี้เหลือผู้ต้องขังไม่ถึง 310,000 คน  โดยจากเดิมผู้ต้องขัง 1 คนมีพื้นที่ไม่ถึง 1 ตร.ม. หากมีผู้ติดเชื้อโควิดเข้าไปจะยุ่งยาก ซึ่งตอนนี้เราปรับจนได้ 1.2 ตร.ม.ตามมาตรฐานสากล

นอกจากนี้ กรมราชทัณฑ์ ได้ขอพระราชทานอภัยโทษให้กับผู้ต้องขังประพฤติดี ข้อหาไม่ร้ายแรงอีกหลายหมื่นคน และใช้การพักโทษพิเศษ สวมกำไลEM 50,000 คน ซึ่งตอนนี้ติดกำไลแล้ว 20,000 คน รวมทั้งยังมีประมวลกฎหมายยาเสพติด ที่อยู่ระหว่างพิจารณารัฐสภา ซึ่งจะปรับอัตราโทษผู้ต้องขังยาเสพติดให้เหมาะสม จะลดผู้ต้องขังได้เกือบ 50,000 คน นี่คือความพยายามแก้ปัญหาลดความแออัดในเรือนจำ

"ผมขอยืนยันเราไม่มีการปิดข่าว เปิดเผยข้อมูลทุกอย่างมาตลอด โดยรัฐบาลสั่งกำชับ ประสานงานมาตลอด ให้ดูแลผู้ต้องขังทุกคนอย่างดี หากยาที่ได้จากสาธารณสุขหากไม่พอ ทางกรมราชทัณฑ์จะจัดซื้อเองเพื่อรักษาทุกคน ขอให้ญาติผู้ต้องขังทุกคนสบายใจได้ นอกจากนี้ ยังมีการประสานจากแพทย์แผนไทย เรื่องการใช้ฟ้าทลายโจรมาใช้ด้วย ยืนยันเราเตรียมพร้อมป้องกันเบื้องต้นมาตลอด ส่วนกรณีที่มีการโพสรูปหน้ากากอนามัยบางมากในเฟสบุ๊ค ผมได้สั่งการให้สอบข้อเท็จจริงแล้ว  ในส่วนของญาติผู้ต้องขังที่ไม่สบายใจ เรายืนยันดูแลอย่างดี และจะส่งข่าวกับญาติผู้ต้องขังให้รับรู้" นายสมศักดิ์ กล่าว

ด้าน นพ.วีระกิตติ์ กล่าวยืนยันว่า ราชทัณฑ์ไม่เคยมีการปิดบังข้อมูลผู้ติดเชื้อในเรือนจำ ซึ่งศูนย์ตรวจเชื้อโมเลกุลของทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ได้ดำเนินการตรวจหาเชื้อให้ผู้ต้องขังตลอด และทุกครั้งที่ตรวจต้องใส่เลขบัตรประชาชน 13 หลักในระบบ ซึ่งไม่สามารถปกปิดข้อมูลได้ แต่ข้อจำกัดของศูนย์ตรวจเชื้อฯ จะสามารถตรวจได้เพียง 300 รายต่อวัน โดยช่วงปลายเดือนเม.ย.ที่ผ่านมาตรวจพบผู้ติดเชื้อ 10 - 100 ราย ขณะที่สถานการณ์ที่มีผู้ต้องขัง 2 เรือนจำ จำนวน 8 พันราย อาจจะตรวจและสอบสวนโรคล่าช้า เมื่อได้รถพระราชทานมา จึงตรวจได้เร็วขึ้นมีรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อหลักพันคน และสามารถดำเนินการตามหลักการตรวจเชิงรุก 100% เพื่อแยกคนติดเชื้อออกได้ทั้งหมด

ทั้งนี้ จะเห็นว่าการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดสัมพันธ์กับพื้นที่ในจังหวัดสีแดง ซึ่งเรือนจำกลุ่มแรกที่การแพร่ระบาดคือเรือนจำจังหวัดนราธิวาสขณะนี้ควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว เหลือเพียงผู้ติดเชื้อกลุ่มสีเขียวไม่กี่ราย

นายวีระกิตติ์ ยังกล่าวถึงการจำแนกผู้ต้องขังที่ติดเชื้อ โควิดว่า มีข้อมูลของผู้ต้องขังติดเชื้อโควิดที่เข้าสู่ระบบข้อมูลของทัณฑสถาน โรงพยาบาลราชทัณฑ์ ทั้งหมด 1,295 คน  แยกเป็น กลุ่มผู้ติดเชื้อสีเขียว 1,146 คน กลุ่มติดเชื้อระดับสีเหลือง 145 คน และกลุ่มสีแดงหรืออาการหนัก 4 คนในจำนวนนี้ 1 รายใช้เครื่องช่วยหายใจ เนื่องมาจากมีภาวะจากอาการเส้นเลือดอุดตันที่สมอง ส่วนผู้ติดเชื้อที่เหลือรักษาตัวในโรงพยาบาลสนาม

"เราได้มีการปรับเพิ่มการกักโรคเป็น 21 วัน และตรวจเชื้อ 2 ครั้ง คือ วันแรกที่เข้าเรือนจำและหลังกักตัวครบ 21 วัน โดยจะใช้แรพพิดเทสเพื่อความรวดเร็วในการคัดกรองมากขึ้น ส่วนการหาวัคซีนให้ผู้ต้องขัง ขณะนี้อธิบดีกรมราชทัณฑ์ได้ลงนามอนุมัติจัดหาวัคซีนฉีดให้ผู้ต้องขังทั่วประเทศแล้ว คาดว่าจะได้วัคซีนภายในเดือน มิ.ย.นี้ และจะเริ่มฉีดให้กับกลุ่มผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัวก่อน และได้ฉีดวัคซีนให้ข้าราชการจำนวนหนึ่งไปบ้างแล้ว" น.พ.วีระกิตติ์ กล่าว

ขณะที่ นายอายุตม์ กล่าวถึงสาเหตุการติดเชื้อในเรือนจำว่า  จากการสอบสวนโรคในส่วนของทัณฑสถานหญิงกลาง สันนิษฐานว่าเชื้อมาจากผู้ต้องขังเข้าใหม่  ส่วนเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ติดเชื้อจากเจ้าหน้าที่รายหนึ่ง ซึ่งทุกคนที่ตรวจพบเชื้อได้ส่งรักษาแล้ว โดยเรายังใช้แนวทางบับเบิ้ล แอนด์ซีล และใช้แดน 3 - 4 จัดตั้งโรงพยาบาลสนามเพื่อดูแลผู้ติดเชื้อกลุ่มสีเขียว รวมทั้งเร่งให้ยาฟาวิพิราเวียร์ ส่วนวัคซีน ได้ประสาน อธิบดีกรมควบคุมโรคในการจัดหาแล้ว ซึ่งกรมราชทัณฑ์ ได้ร่วมกับ สาธารณสุข ทำงานได้ทันเหตุการณ์ และได้แจ้งไปยังเรือนจำทั่วประเทศให้ควบคุมให้ดี

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • กักโรค‘เปรมชัย’  ผู้ต้องหาเอี่ยวตึกสตง.ถล่ม  เฝ้าดูอาการในแดนพยาบาล กักโรค‘เปรมชัย’ ผู้ต้องหาเอี่ยวตึกสตง.ถล่ม เฝ้าดูอาการในแดนพยาบาล
  • ครม.รับทราบข้อเสนอ กรณีการแต่งกายของผู้ต้องขังที่มีความหลากหลายทางเพศ ครม.รับทราบข้อเสนอ กรณีการแต่งกายของผู้ต้องขังที่มีความหลากหลายทางเพศ
  • ‘ราชทัณฑ์’แจงปมผู้ต้องขัง ย.‘อดีตนางเอกดัง’กดไลก์ไอจีน้องชาย ยันใช้สื่อโซเชียลไม่ได้ ‘ราชทัณฑ์’แจงปมผู้ต้องขัง ย.‘อดีตนางเอกดัง’กดไลก์ไอจีน้องชาย ยันใช้สื่อโซเชียลไม่ได้
  • ‘สนธิญา’บุกยธ.ให้กำลังใจผู้คุมคุก เมินกระแส‘นักสิทธิมนุษยชน’ลั่นอย่าทำผิดกฎหมายก็จบ ‘สนธิญา’บุกยธ.ให้กำลังใจผู้คุมคุก เมินกระแส‘นักสิทธิมนุษยชน’ลั่นอย่าทำผิดกฎหมายก็จบ
  • ทำผิดแต่มาร้องขอความเป็นมนุษย์? ‘สนธิญา’บ่นรำคาญเรื่อง‘ผกก.โจ้’ เตรียมให้กำลังใจผู้คุมคุก ทำผิดแต่มาร้องขอความเป็นมนุษย์? ‘สนธิญา’บ่นรำคาญเรื่อง‘ผกก.โจ้’ เตรียมให้กำลังใจผู้คุมคุก
  • คดี‘ผกก.โจ้’การสอบสวนต้องโปร่งใส ย้ำหลักสากลเรือนจำต้องรับประกันความปลอดภัยผู้ต้องขัง คดี‘ผกก.โจ้’การสอบสวนต้องโปร่งใส ย้ำหลักสากลเรือนจำต้องรับประกันความปลอดภัยผู้ต้องขัง
  •  

Breaking News

'เขมรนิวส์'ยกย่องหญิงเขมรจุดชนวน กล้าโต้ทหารไทย ชาวบ้านฝั่งไทยไม่หวั่นพร้อมรับมือ100%

ลุ้นไทยจบตรงไหน!‘กอบศักดิ์’ยกตัวอย่าง‘อินโดฯ-เวียดนาม’ดีลลด‘ภาษีทรัมป์’สำเร็จ

แนวหน้าวิเคราะห์ : ศึก'แดง-น้ำเงิน'เดือดพลั่ก ชิงเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ศรีสะเกษ เขต 5 รักษาเก้าอี้‘รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ’?

‘อดีตผู้พิพากษา’ยกฎีกาคดีเลือกสมาชิกวุฒิสภา ชี้ช่องถอดถอน 138 สว.

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved