8 มิ.ย.64 นายยศวัจน์ ชัยวัฒนสิริกุล รองประธานกรรมการบริหารฯ คนที่ 1 สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร (กฟก.) เปิดเผยว่าการแก้ไขปัญหาหนี้ให้กับเกษตรกรสมาชิก นับเป็นภารกิจสำคัญของกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ตามพบว่า ยังไม่อาจดําเนินการให้ครอบคลุมหนี้ของเกษตรกรบางกรณี เช่น ไม่อาจรับภาระชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ของเกษตรกรที่ไม่มีทรัพย์สิน เป็นหลักประกันการชำระหนี้ได้
“ดังนั้นกองทุนฯ จึงได้มีการเสนอแก้ไขพระราชบัญญัติแก้ไขกฎหมายกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรให้สอดคล้องกับความเป็นจริง และเกิดประโยชน์ต่อเกษตรกรสมาชิกสูงสุด ตามเจตนารมณ์ของ กฟก. ซึ่งได้มีการดำเนินการแก้ไขมาอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดเป็นครั้งที่ 3 และได้มีราชกิจจานุเบกษา ประกาศ พระราชบัญญัติกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร (ฉบับที่ 3 ) พ.ศ. 2563 ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว”
“โดยในส่วนของที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาหนี้ของเกษตรกรสมาชิก คือ มาตรา 37/9 ได้มีการปรับปรุงแก้ไขวิธีการชำระหนี้แทนเกษตรกร กรณีหลักทรัพย์ค้ำประกันและใช้บุคคลค้ำประกัน โดยเมื่อกองทุนรับภาระชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ของเกษตรกรแล้ว การจัดการหนี้ให้ดำเนินการดังต่อไปนี้ 1.กรณีที่มีทรัพย์สินเป็นหลักประกัน ให้ทรัพย์สินที่ใช้เป็นหลักประกัน ตกเป็นของกองทุน และเกษตรกรจะได้รับทรัพย์สินคืนได้ก็แต่โดยการเช่าซื้อหรือซื้อ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กรรมการกำหนด 2.กรณีมีบุคคลค้ำประกัน ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการกำหนด”
นายยศวัจน์ กล่าวต่อไปว่า การดำเนินการครั้งนี้ ของ กฟก. ได้ก่อให้เกิดประโยชน์โดยตรงต่อเกษตรกรสมาชิกเป็นอย่างมาก เพราะเมื่อเอาหนี้ของเกษตรกรมาไว้ที่กองทุน ส่งผลทำให้เกษตรกรสามารถกำหนดระยะเวลาผ่อนได้ ซึ่งกองทุนฯ มั่นใจว่าเกษตรกรไม่มีทางที่จะไม่ชำระหนี้หรือเบี้ยวหนี้ เมื่อเราไปชำระหนี้แทนเกษตรกรแล้ว ถ้าเกษตรกรรายใดมีทรัพย์สินอยู่ก็จะโอนทรัพย์สินให้เป็นของกองทุนฟื้นฟูฯ อย่างถูกต้องตามกฎหมาย เกษตรกรรายนั้นจะทยอยชำระคืน เมื่อเกษตรกรชำระจนครบตามมูลค่าหนี้ กองทุนฯจะมอบคืนทรัพย์สินที่ใช้เป็นหลักประกันให้แก่เกษตรกร
“ขอยืนยันว่า เกษตรกรได้ประโยชน์อย่างแน่นอน ถึง 2 ด้าน คือ หนึ่ง ด้านการช่วยเหลือแก้ไขปัญหาหนี้ กองทุนฯเข้าไปช่วยแบกรับภาระหนี้สินให้กับเกษตรกรแล้วมาผ่อนชำระคืนกับเราการผ่อนชำระคืนก็จะมีระเบียบกฎหมายไม่ได้กำหนดให้เราคิดดอกเบี้ย ที่ผ่านมาอาจจะคิดดอกเบี้ย 1 - 2 บาท แต่ตอนนี้ไม่มีการคิดดอกเบี้ย นี้ก็เป็นประโยชน์แก่พี่น้องเกษตรกร และสอง เกษตรกรรายใดที่ประสงค์ที่จะให้กองทุนฟื้นฟูชำระหนี้แทน ต้องเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟู หลังจากที่กองทุนฯช่วยไปแล้วเกษตรกรต้องบอกว่าที่ดินผืนนี้จะใช้ทำอะไรที่เกิดประโยชน์ต่อการสร้างอาชีพและรายได้ ทำให้หลุดพ้นวงจรหนี้อย่างยั่งยืน นี่คือสิ่งที่กองทุนฯได้ทุ่มเทเพื่อประโยชน์ของเกษตรกรสมาชิก อีกทั้งในภาพรวมเกี่ยวกับข้อกฎหมายต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาหนี้ มาถึงวันนี้ในภาพรวมแล้วถือว่า ค่อนข้างสมบูรณ์เกิดประโยชน์อย่างมาก สิ่งที่สำคัญต่อไปคือ การสร้างความเชื่อมั่นให้เกษตรกรสมาชิกเท่านั้น”นายยศวัจน์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี