สะเทือนใจ!พบแล้ว‘หนูน้อย’วัย2 ขวบ แม่ตามหา7วันพบเป็นศพฝังดินกลางไร่อ้อย
ความคืบหน้ากรณี น.ส.สุรินทร์ แอบเสมา อายุ 30 ปี และนายอัมพล ลือบางใหญ่ อายุ 34 ปี พ่อแม่ ของน้องโมเดล อายุ 4 ปี ลูกครึ่งอังกฤษ และน้องนาเดีย อายุ 2 ปี ที่ออกประกาศตามหาลูกตามช่องทางต่างๆ ซึ่งถูกนางรุ้งลาวัลย์ หรือเจี๊ยบ อายุ 45 ปี ซึ่งเป็นพี่สะใภ้และเป็นพี่เลี้ยง พากันหายไปและขาดการติดต่อ จนไปพบว่ามีภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพได้ขณะพากันขี่รถจักรยานยนต์หายออกจากบ้านไปตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมาจนวันนี้เข้าสู่วันที่ 7 แล้ว
ล่าสุดวันนี้ (22 มิถุนายน 2564) น.ส.สุรินทร์ แจ้งว่า นางเจี๊ยบได้เข้ามอบตัวแล้วและสารภาพว่านำร่างของน้องนาเดีย วัย 2 ขวบ ฝังไว้ที่ใต้กอไผ่ หลังบ้าน
ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปยังบ้านของนางเจี๊ยบ เพื่อติดตามความคืบหน้า โดย พ.ต.อ.ชูเกียรติ ภูกาบพลอย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรี รักษาราชการแทน ผกก.สภ.โพธาราม นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ พนักงานสอบสวยเจ้าของคดี และตำรวจชุดสืบสวน ลงพื้นที่ค้นหา และประสานทางแหล่งข่าวที่พบเห็นผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็นนางเจี๊ยบ ซึ่งมีเด็กผู้หญิงหน้าตาเหมือนในภาพที่ปรากฏเป็นข่าวมาเช่าห้องพักที่ อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ จึงได้ประสานตำรวจท้องที่เข้าคุมตัวทันที และถ่ายภาพส่งผ่านช่องทาง app line เพื่อให้ น.ส.สุรินทร์ ยืนยันว่าใช่บุคคลเดียวกันหรือไม่
พต.อ.ชูเกียรติ กล่าวว่า หลังจากที่ได้คุมตัวนางเจี๊ยบ หรือนางรุ้งลาวัลย์ ได้รับสารภาพว่าเป็นผู้ฝังร่างน้องนาเดียไว้ที่ใต้ก่อไผ่ ในไร่อ้อย ห่างออกจากบ้านมาประมาณ 2 กิโลเมตร เนื่องจากน้องนาเดียจมน้ำเสียชีวิต ปั้มหัวใจไม่ขึ้น ส่วนน้องโมเดลอยู่กับตนเอง โดยมีลูกสาวคนโตวัย 12 ขวบคอยดูแล ภายหลังจากที่นางเจี๊ยบได้แจ้งพิกัดมา จึงได้นำกำลัง พร้อมด้วยชาวบ้านในพื้นที่ออกติดตามหาจากคำบอกของนางเจี๊ยบ
เจ้าหน้าที่ได้พยายามตามหาจุดที่ซ่อนเร้นศพ โดยที่นางเจี๊ยบสารภาพว่า ในวันที่ 15 มิถุนายน ก่อนที่จะหายออกมาจากบ้าน ตนได้เลี้ยงดูวัวอยู่ และปล่อยให้น้องนาเดียเล่นอยู่กับพี่สาว จากนั้นได้กลับมาปรากฏว่าน้องนาเดียจมน้ำในลองให้น้ำวัว จึงรีบนำขึ้นมาและปั๊มหัวใจ และได้เสียชีวิต จึงเกิดความกลัวไม่กล้าบอกใคร และกลัวความผิด ได้นำร่างของน้องนาเดียใส่ในถุงปุ๋ย จักรยานยนต์พ่วงข้าง นำไปขุดดินฝังดินใต้กอไผ่ในไร่อ้อยซึ่งอยู่ห่างจากบ้านไปประมาณ 2 กิโลเมตร หมู่ที่ 2 ต.คลองข่อย อ.โพธาราม จากนั้นได้พาน้องโมเดล พี่สาวของร้องนาเดีย ขี่รถจักรยานยนต์ไปกับลูกสาววัย 12 ปี ออกจากบ้านไปตามเส้นทางจังหวัดทางภาคเหนือแบบไม่มีจุดหมาย โดยการไปเช่าห้องพักอยู่ โดยมีผู้พบเห็นได้แจ้งเบาะแสมาว่า นางเจี๊ยบได้ไปเช่าบ้านอยู่ในพื้นที่ของ อ.บึงสามพัน จังหวัดเพชรบูรณ์
จากนั้นวินาทีบีบหัวใจของผู้เป็นแม่ ก็เริ่มขึ้น โดยได้รับสัญญาณจากชาวบ้านที่ช่วยกันค้นหาตามแผนที่ที่นางเจี๊ยบระบุ โดยไปพบถูกฝังอยู่จริง ทำให้นางสุรินทร์ร้องไห้หัวใจแทบจะขาด ซึ่งมีญาติดูอยู่ใกล้ ส่วนทางนายอัมพล ผู้เป็นพ่อยืนไม่พูดคุยกับใคร น้ำตาคลอเบ้าตลอดเวลา ด้วยอาการเศร้าโศกเสียใจ
จากนั้น พ.ต.อ.ชูเกียรติ ได้วีดีโอคลอ กับทางนางเจี๊ยบที่ถูกสอบปากคำอยู่ สภ.บึงสามพัน เพื่อยืนยันว่าใช่จุดที่ตนได้ฝังศพหรือไม่ และ ถุงปุ๋ยที่เห็นใช่ร่างของน้องนาเดียหรือไม่ ซึ่งนางเจี๊ยบ ตอบว่า “ใช่ค่ะ” ยืนยันว่าในถุงปุ๋ยคือศพของน้องนาเดีย
ต่อมา น.ส.สุรินทร์ ผู้เป็นแม่ได้จุดธูป 1 ดอก พร้อมทั้งนำนมกล่องและน้ำดื่ม ให้น้องนาเดีย โดยพูดบอกว่า “ นาเดียแม่นำนมกับน้ำมาให้นะลูก มากินนมนะลูกนะ กลับไปอยู่กลับแม่นะลูก” จากนั้นได้มีการพูดคุยกับทางแม่ว่าจากนี้จะดำเนินการอย่างไรต่อ ซึ่ง น.ส.สุรินทร์ ตอบว่า ถามว่าตนโกรธไม้ ก็ต้องบอกว่าโกรธลูกเราตายแต่ แต่ไม่รู้ว่าหนูบอกไม่ถูกตอนนี้ ให้ตำรวจเขาทำตามกฎหมายไป ตนก็คิดตลอดว่าทำไมไม่เอาลูกไปโรงพยาบาล ตอนนี้ แม่อยากจะบอกลูกว่า “แม่ขอโทษ ที่ดูแลหนูไม่ดี” ส่วนศพของลูกต้องปรึกษากับทางพ่อของของน้องนาเดียก่อน เพราะเขาเกิดที่ดำเนินสะดวก
ทั้งนี้ หากผลชันสูตรพลิกศพพบว่าตายผิดธรรมชาติ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะตั้งข้อหาเพิ่ม แต่ถ้าจมน้ำเสียชีวิตตามที่นางเจี๊ยบกล่าวอ้างก็ว่ากันไปตามข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยทั้งนี้ต้องอยู่ที่การแจ้งความของทางพ่อและแม่ด้วย ส่วนตอนนี้ตั้งข้อหา ซ่อนเร้นอำพรางศพไว้ก่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี