ผู้สื่อข่าวรายงาน ขณะที่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและติดตามการปฏิบัติราชการในพื้นที่เขตสำนักนายกรัฐมนตรี กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน พื้นที่จังหวัดพังงา ได้แสดงความคิดเห็นกรณีการแก้ไขเพิ่มเติมร่างรัฐธรรมนูญ ว่า รัฐธรรมนูญได้ผ่านความเห็นชอบรัฐสภาเมื่อวันที่ 10 ก.ย.2564 นี้ หลังจากนี้ภายใน 15 วัน รอว่าจะมีผู้ใดยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความชอบหรือไม่ชอบของร่างรัฐธรรมนูญที่ผ่านไป หากพ้น 15 วัน ไม่มีผู้ใดยื่นเสนอศาลรัฐธรรมนูญตีความ ก็จะนำร่างดังกล่าวขึ้นทูลเกล้าฯเพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย เพื่อบังคับใช้เป็นกฎหมายและออกกฎหมายลูกโดยระบบการเลือกตั้งจะเปลี่ยนจากบัตรลงคะแนนเสียงเลือกตั้งใบเดียวเป็นใช้บัตรลงคะแนน 2 ใบ เดิมเลือกคนกับพรรคการเมืองเป็นใบเดียว แต่หลังจากบังคับใช้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขสามารถแยกเลือกบุคคลกับพรรคได้ ใบหนึ่งเลือกบุคคล อีกใบเลือกพรรคการเมือง ประเด็นต่อมาคือเรื่องการปรับเปลี่ยนอัตราส่วนของ สส.เขต กับบัญชีรายชื่อ เดิม อัตราส่วน สส.เขต 350 บัญชีรายชื่อ 150 ซึ่งจะปรับเปลี่ยนเป็น สส.เขต จำนวน 400 คน สส.บัญชีรายชื่อ 100 คน และประเด็นสุดท้ายเรื่องของการคำนวณ จะดูจากสัดส่วนการลงคะแนนที่เลือกพรรคการเมือง หากพรรคไหนมีประชาชนเลือกพรรค 100 เปอร์เซ็นต์ จะมีผู้แทนฯได้ 100 คน จากบัญชีรายชื่อ ตามสัดส่วนลดหลั่นกันไป
หากร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่าน จังหวัดพังงาจะมีผู้แทนฯเพิ่มขึ้น 1 คน หรือ เพิ่ม สส.เขต จาก 1 คน เป็น 2 คน ทำให้แต่ละพรรคการเมือง ต้องหาผู้สมัครเพิ่มขึ้นอีก 1 คน โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พิจารณาเห็นว่า ทางพรรคประชาธิปัตย์ส่งนางกันตวรรณตันเถียร สส.เขตพังงา ซึ่งเป็น สส.ปัจจุบัน และ สส. 5 สมัยของจ.พังงา ลงสมัคร ส่วนอีกรายต้องรอพิจารณาหลังจากกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญให้เสร็จสิ้นก่อนเพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายลูกหรือกฎหมายเลือกตั้ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี