วันพุธ ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
ศธ.-สธ.พบสมาคมผู้บริหารโรงเรียน เตรียมพร้อมฉีดวัคซีนเด็กก่อนเปิดเทอม

ศธ.-สธ.พบสมาคมผู้บริหารโรงเรียน เตรียมพร้อมฉีดวัคซีนเด็กก่อนเปิดเทอม

วันพุธ ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2564, 16.12 น.
Tag : ฉีดวัคซีนเด็ก เปิดเทอม
  •  

วันที่ 22 กันยายน 2564  นายสุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ปลัดศธ.) นพ.สราวุฒิ บุญสุข รองอธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข  และนายวิสิทธิ ใจเถิง นายกสมาคมผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งประเทศไทย (ส.บ.ม.ท.) ได้ร่วมชี้แจงในรายการ ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงศึกษาธิการ (ศบค.ศธ.) พบสมาคมผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งประเทศไทย (ส.บ.ม.ท.) “3ภาคีร่วมใจเพื่อเปิดเรียนปลอดภัยกับวัคซีนเด็ก” ผ่านระบบประชุมทางไกล ZOOM

 นายสุภัทร กล่าวตอนหนึ่ง ว่า  เนื่องจาก ศบค. ได้แบ่งโซนสีพื้นที่เป็น 3 โซน ได้แก่  พื้นที่ควบคุม หรือสีส้ม 11 จังหวัด ซึ่งสามารถจัดการศึกษาที่สถานศึกษาได้ตามปกติ  ส่วนพื้นที่ควบคุมสุงสุด หรือสีแดง  37 จังหวัด  จะจัดการศึกษาแบบ On site ได้จะต้องขออนุญาตผู้ว่าฯ และต้องปฏิบัติตามมาตรการของ สธ. THAI STOP COVID+, Thai Save Thai ทุกวัน  สำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือสีแดงเข้ม 29 จังหวัด ยังไม่อนุญาตให้เปิดเรียนในโรงเรียนได้ ศธ.และสธ. จึงมีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในโรงเรียน โดยจัดโครงการ  Sandbox Safety Zone in School หรือ SSS โดยนำร่องในโรงเรียนประจำ เพื่อให้นักเรียนสามารถเรียนที่โรงเรียนได้ 


นายสุภัทร กล่าวต่อว่า ขณะนี้ ศธ.และสธ. อยู่ระหว่างวางมาตรการ SSS ร่วมกัน เพื่อให้เปิดเรียนที่โรงเรียนแบบนักเรียนแบบไป-กลับ แต่มีมาตรการที่เข้มงวดมากกว่าโรงเรียนประจำ เช่น การใส่หน้ากาอนามัย หมั่นล้างมือ รักษาระยะห่าง ทำความสะอาดอุปกรณ์ต่าง ๆอยู่เสมอ ใช้ของตัวเองเท่านั้น จัดอาหารปรุงสุก เป็นต้น  ซึ่งมาตรการเหล่านี้ต้องได้รับการตรวจสอบอยู่ตลอดเวลา สถานศึกษาจะต้องดำเนินการตามมาตรการที่ สธ. กำหนดอย่างเข้มงวด เช่น THAI STOP COVID+, Thai Save Thai, การตรวจสอบวัตถุดิบที่นำไปประกอบอาหารให้เป็นไปตามหลักโภชนาการและสุขอนามัย และวางแผนเผชิญเหตุร่วมกับโรงพยาบาลกรณีพบเด็กติดเชื้อ  หากโรงเรียนใดต้องการเปิดเรียนในโรงเรียน ต้องจัดทำแผนโดยยึดตามมาตรการที่ สธ.และศธ.กำหนดอย่างเคร่งครัด และเสนอผ่านศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) เมื่อศธจ.ตรวจสอบแผนแล้วพบว่าโรงเรียนดำเนินการตามมาตรการที่ สธ.และศธ.กำหนด ก็เสนอให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพิจารณาอนุมัติให้เปิดเรียนแบบไปกลับได้

“มาตรการ SSS จะช่วยจัดการปัญหาให้กับพื้นที่สีแดงเข้ม 29 จังหวัด แต่ผมต้องขอให้ผู้บริหารสถานศึกษาทุกแห่งทั่วประเทศ ปฏิบัติตามมาตรการนี้เช่นเดียวกัน  เพราะมีโรงเรียนพักนอนหลายแห่งที่ไม่ได้เข้าโครงการ SSS และไม่ได้ปฏิบัติตามมาตรการที่ ศธ.และสธ.วางไว้อย่างเคร่งครัด  จึงเกิดช่องว่างทำให้เด็กติดเชื้อในสถานศึกษา ดังนั้น จึงขอให้ผู้บริหารสถานศึกษาดำเนินการตามที่ สธ.และศธ.วางไว้อย่างเคร่งครัด ต่อเนื่องและด้วยความรับผิดชอบ” นายสุภัทร กล่าว

ปลัด ศธ. กล่าวอีกว่า ส่วนการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้นักเรียน นักศึกษา อายุ 12-17 ปี 11 เดือน 29 วัน โดยมีกลุ่มเป้าหมาย คือนักเรียน นักศึกษา ที่ศึกษาอยู่ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 หรือประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) หรือเทียบเท่า ซึ่งระหว่างวันที่ 22-24 กันยายน ตนขอให้โรงเรียน สถานศึกษาประชุมทำความเข้าใจกับผู้ปกครอง ให้ผู้ปกครองกรอกเอกสารแสดงความประสงค์ฉีดวัคซีนให้กับนักเรียนเพื่อให้มีภูมิคุ้มกัน และในวันที่ 25 กันยายน โรงเรียนจะส่งข้อมูล จำนวนนักเรียนในแต่ละระดับชั้นส่งไปให้ ศธจ. เพื่อตรวจสอบ  และวันที่ 26 กันยายน ทางจังหวัดจะรวบรวมตัวเลขนักเรียนที่ต้องการฉีดทั้งหมดส่งให้สาธารณสุขจังหวัด (สธจ.)  ในวันที่ 27-30 กันยายน สธจ.จะส่งข้อมูลไปให้กรมควบคุมโรค เพื่อจัดสรรวัคซีนไปให้แต่ละพื้นที่  และในวันที่ 1 ตุลาคม สถานศึกษาจะทราบวันฉีดแน่นอน ว่าจะได้รับการจัดสรรวัคซีนมาให้ฉีดในวันไหน เมื่อทราบวันที่แน่นอนแล้วสถานศึกษาต้องนัดผู้ปกครองให้พาบุตรหลานเข้ามารับการฉีดวัคซีนตรงวันนัด และในวันฉีดวัคซีนสถานศึกษาจะต้องเตรียมสถานที่ให้พร้อมตามมาตการความปลอดภัยที่ สธ.กำหนด

“ดังนั้น การเปิดภาคเรียนที่ 2/2564 น่าจะใช้สองมาตรการใหญ่ คือ  1. Sandbox Safety Zone in School หรือ SSS จะใช้กับโรงเรียนประจำ โรงเรียนไป-กลับ ตามมาตรการที่ ศธ.และสธ.กำหนด และโรงเรียนมัธยม  อาชีวะศึกษา เปิด On site ได้  เมื่อเด็กฉีดวัคซีนครบทุกคน แต่คนที่ไม่ได้ฉีดก็สามารถมาเรียนได้แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรการอย่างเข้มงวด” ปลัดศธ. กล่าว 

ด้าน นายวิสิทธิ ใจเถิง นายก ส.บ.ม.ท. กล่าวว่า การได้รับวัคซีนถือเป็นความหวังของสถานศึกษาที่จะเปิดเรียนแบบปกติ ในภาคเรียนที่ 2/2564 ซึ่งในส่วนของสถานศึกษาจะเตรียมความพร้อม และเตรียมข้อมูลของนักเรียนให้เร็วที่สุด เพื่อรองรับการฉีดวัคซีนให้เด็ก เช่น อาจทำการสำรวจทางออนไลน์ ให้นักเรียนกรอกข้อมูลแสดงความประสงค์ผ่าน google form เป็นต้น นอกจากนี้สถานศึกษาจะประชาสัมพันธ์ชี้แจงให้ผู้ปกครองทราบให้ได้มากที่สุดเพราะผู้ปกครองยังมีความกังวลอยู่ ซึ่งตนในฐานะผู้อำนวยการโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ได้สำรวจความต้องการฉีดวัคซีน พบว่านักเรียนสนใจฉีดวัคซีนถึง 98%               

“เท่าที่ทราบนักเรียนในระดับชั้นมัธยมมีความรู้ ค้นคว้าข้อมูลด้วยตนเอง ซึ่งจากการสอบถามผู้ปกครองส่วนใหญ่บอกว่านักเรียนเป็นคนหาข้อมูลและเป็นผู้ตัดสินใจเองทั้งหมด เพราะเด็กต้องการมาโรงเรียนตามปกติ สรุปแล้วผมเชื่อว่าถ้าเราประชาสัมพันธ์ให้ดี สื่อสารให้ผู้ปกครองเข้าใจ ก็เชื่อว่าผู้ปกครองจะยินยอมให้เด็กฉีดวัคซีน 100% ซึ่งการฉีดวัคซีนทางโรงเรียนไม่ได้บังคับให้เป็นไปตามความสมัครใจ เพราะการฉีดวัคซีนจะทำให้นักเรียนมีภูมิคุ้มกัน และจะมีผลดีกว่าไม่ฉีด” นายวิสิทธิ กล่าว 

ขณะที่ นพ.สราวุฒิ กล่าวว่า สถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ขณะนี้ยังทรงๆอยู่ แต่อัตราการเสียชีวิตลดลงอย่างชัดเจน ซึ่งสาเหตุที่ผู้เสียชีวิตลดลงอาจจะมาจากมาตรการในการฉีดวัคซีน และมาตรการที่คุมเข้ม มีมาตรการล็อกดาวน์ และประชาชนร่วมมือร่วมใจกัน สิ่งเหล่านี้ถือเป็นมาตรการสำคัญที่ช่วยป้องกันและควบคุมไม่ให้โควิด-19 แพร่ระบาด จากข้อมูลตั้งแต่เดือนมิถุนายน - 16 กันยายน พบว่า มีเด็กอายุ 0-19 ปี ติดเชื้อ 188,852 ราย จากข้อมูลนี้ พบว่าเด็กอายุ 13-19 ปี ติดเชื้อกว่า 80,000 ราย เมื่อเทียบกับการติดเชื้อของผู้ใหญ่ พบว่าเด็กติดเชื้อประมาณ 10-15% ซึ่งจะเห็นว่าอัตราการติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ สาเหตุที่อัตราการติดเชื้อในเด็กเพิ่มขึ้น เพราะเด็กส่วนใหญ่ติดเชื้อมาจากผู้ปกครอง คนในครอบครัว และคนใกล้ชิด ส่วนอัตราการเสียชีวิต จากข้อมูลวันที่ 5 มิถุนายน - 16 กันยายน พบนักเรียนเสียชีวิ 5 ราย ครูเสียชีวิด 9 ราย และบุคลากรทางการศึกษาอื่นๆ เสียชีวิต 4 ราย สาเหตุที่เด็กเสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นกลุ่มนักเรียนที่มีโรคประจำตัว มีอัตราที่เด็กเสียชีวิตอยู่ที่ 0.03% 

“การเปิดภาคเรียน หากมีการเรียนในโรงเรียน ขอให้ผู้บริหารสถานศึกษาปฏิบัติตามมาตรการที่ สธ.วางไว้อย่างเคร่งครัด ขอให้มีการควบคุมดูแลการเดินทางเข้า-ออก สถานศึกษาอย่างเข้มงวด แม้อัตราการติดเชื้อจากในโรงเรียนจะน้อย แต่เมื่อเด็กออกไปนอกโรงเรียนแล้วอาจจะติดเชื้อได้ ดังนั้น พื้นที่นอกโรงเรียน การเดิมทางของเด็ก โดยเฉพาะรถรับส่งนักเรียน ต้องทำให้เกิด COVID FREE ZONE  นอกจากนี้ อยากให้ครู นักเรียน ตรวจสอบความเสี่ยงผ่าน Thai Save Thai  ทุกวันก่อนเข้าโรงเรียน หรือมีการตรวจ ATK ก่อนเข้าภายในโรงเรียนเพื่อให้เกิดความมั่นใจ และลดความเสี่ยง สำหรับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้กับนักเรียนที่อายุ 12-18 ปีนั้น มีผลวิจัยว่ามีความปลอดภัย และคณะกรรมการ อย.ของไทยก็รับรองแล้วว่าปลอดภัย จึงมั่นใจได้ว่าเด็กจะสามารถรับวัคซีนไฟเซอร์ได้ ส่วนผู้ปกครองที่ยังกังวลถึงความปลอดภัยนั้น ต่างประเทศและประเทศไทยยังไม่พบผลข้างเคียงที่รุนแรงเลย แต่ระดับภูมิคุ้มกันสามารถยับยั้งเชื้อได้สูงถึง 2 เท่า ซึ่งจะทำให้เด็กนักเรียนไม่ติดเชื้อที่รุนแรงและสามารถมาเรียนที่โรงเรียนได้” นพ.สราวุฒิ กล่าว -007
      

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • สพฐ.กำชับรับเปิดเทอม ห้ามให้ครูอยู่เวร-ลงโทษนักเรียนยึดระเบียบ สพฐ.กำชับรับเปิดเทอม ห้ามให้ครูอยู่เวร-ลงโทษนักเรียนยึดระเบียบ
  • อุบัติเหตุพุ่ง!รัฐบาลกาง 7 กฎเหล็ก คุมเข้ม‘รถรับ-ส่งนักเรียน’ อุบัติเหตุพุ่ง!รัฐบาลกาง 7 กฎเหล็ก คุมเข้ม‘รถรับ-ส่งนักเรียน’
  • เคาะเลื่อน‘ปิดเทอม’เร็วขึ้นเป็น 30 ก.ย. ‘เปิดเรียน’คงเดิม เฝ้าระวังนักเรียน‘วันวาเลนไทน์’ เคาะเลื่อน‘ปิดเทอม’เร็วขึ้นเป็น 30 ก.ย. ‘เปิดเรียน’คงเดิม เฝ้าระวังนักเรียน‘วันวาเลนไทน์’
  • สพฐ.เร่งสรุปความเห็น\'เลื่อนเปิด-ปิดเทอม\' ถ้าเห็นตรงกัน ประกาศภาคเรียน 1 พ.ค.68 ทันที สพฐ.เร่งสรุปความเห็น'เลื่อนเปิด-ปิดเทอม' ถ้าเห็นตรงกัน ประกาศภาคเรียน 1 พ.ค.68 ทันที
  • \'สพฐ.\'กำชับโรงเรียนเปิดเทอมใหม่\'ลดการบ้าน-ลดประเมิน\'สร้างความสุขนักเรียน-ครู 'สพฐ.'กำชับโรงเรียนเปิดเทอมใหม่'ลดการบ้าน-ลดประเมิน'สร้างความสุขนักเรียน-ครู
  • ‘เพิ่มพูน’แจ้งสั่งยกเว้น-ผ่อนผันแต่ง‘เครื่องแบบนักเรียน’ ใส่‘รองเท้าแตะ’มาเรียนได้ ‘เพิ่มพูน’แจ้งสั่งยกเว้น-ผ่อนผันแต่ง‘เครื่องแบบนักเรียน’ ใส่‘รองเท้าแตะ’มาเรียนได้
  •  

Breaking News

แนวหน้าวิเคราะห์ : ศึก'แดง-น้ำเงิน'เดือดพลั่ก ชิงเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ศรีสะเกษ เขต 5 รักษาเก้าอี้‘รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ’?

‘อดีตผู้พิพากษา’ยกฎีกาคดีเลือกสมาชิกวุฒิสภา ชี้ช่องถอดถอน 138 สว.

เปลี่ยนต้นไม้เป็นหลักประกัน เพิ่มโอกาสเกษตรกรเข้าถึงแหล่งเงินทุน

เช็คอากาศวันนี้!‘กรมอุตุนิยมวิทยา’เผยทั่วไทย‘ฝนถล่ม’ เตือน‘9 จังหวัด’ระวังน้ำท่วม-น้ำป่า

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved