จับรายวันรถตู้ขน 58 แรงงานเถื่อนเมียนมา แฉจ่อชายแดนรอเดินข้ามอีกนับพัน
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ว่า เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ สนธิกำลังร่วมกับ ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ ชรบ. เจ้าหน้าที่ อส. นำผู้ต้องหาชาวเมียนมา 58 ราย ไปกักตัวที่ศูนย์คัดแยกและช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ด้านหลัง สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ เพื่อตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อนนำตัวไปกัก 14 วัน และดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทั้งนี้ หลังจากเจ้าหน้าที่หลายหน่วยสนธิกำลังร่วมกับผู้ใหญ่บ้านบ้านเนินแก้ว หมู่ 5 ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จับกุมกลุ่มแรงงานชาวเมียนมาลักลอบเดินเท้าข้ามชายแดนไทย ผ่านช่องทางธรรมชาติช่องเขาหลักหมู่ 5 โดยยึดรถตู้รับจ้างไม่ประจำทาง สีบรอนซ์-เงิน ทะเบียนนนทบุรี พร้อมควบคุมตัวคนนำพา ประกอบด้วย นายพิมล อายุ 56 ปี ชาว จ.นนทบุรี , นายชูชาติ อายุ 23 ปี ชาว จ.เชียงใหม่ นำแรงงานชาวเมียนมา 7 ราย จากชายแดนมุ่งหน้า จ.สมุทรสาคร
จากนั้นระหว่างเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบ พบรถตู้อีก 1 คัน ภายหลังถูกเรียกตรวจอาศัยจังหวะเจ้าหน้าที่เผลอขับรถหลบหนีออกมาจากที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้ลาดตระเวนพื้นที่โดยรอบ กระทั่งควบคุมตัวแรงงานชาวเมียนมาชาย-หญิง ที่แอบซุกตัวอยู่ในสวนปาล์ม สวนยางใกล้ชายแดน เพื่อรอนายหน้ามารับได้เพิ่มเติมอีก 17 ราย รวมเป็น 24 ราย โดยก่อนหน้านี้สามารถควบคุมตัว 34 แรงงานชาวเมียนมาแอบลักลอบข้ามแดนผ่านช่องทางธรรมชาติผ่านช่องเขาหลักไปกักตัวที่ สภ.อ่าวน้อย จากการจับกุมตลอดทั้งวัน พบแรงงานเถื่อนรวม 58 ราย เป็นชาย 19 ราย หญิง 39 ราย อายุระหว่าง 18-30 ปี
ผู้ต้องหาทั้งหมดสารภาพว่าเดินทางมาจากหลายจังหวัดในประเทศเมียนมา จากนั้นรวมตัวกันที่บ้านมูด่อง ห่างจากด่านสิงขร 3 กิโลเมตร ก่อนเดินเท้าข้ามแดนมายังฝั่งไทยตามช่องทางธรรมชาติ เพื่อรอนายหน้ามารับ ส่วนหนึ่งอ้างว่าจะไปทำงานในโรงงานสับปะรดใน อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ บางส่วนจะไปทำงานที่โรงงานปลากระป๋อง แพกุ้ง จ.สมุทรสาคร ต้องเสียค่าใช้จ่ายให้แก๊งนายหน้าในการเดินทางถึงที่หมาย 16,000 -18,000 บาทต่อคน
ส่วนนายพิมล คนขับรถนำพาแรงงานหลบหนี กล่าวว่า ขับรถตู้รับจ้างมาจาก จ.ชุมพร เพื่อกลับบ้านระหว่างทางระบบรับงานออนไลน์ได้แจ้งงานให้ พร้อมส่งตำแหน่งจีพีเอส.ให้รับผู้โดยสาร โดยระบุว่าเป็นแรงงานทำไร่สับปะรด จึงเข้าไปรับตามพิกัด เพื่อไปส่งที่ จ.สมุทรสาคร ได้ค่าจ้างหัวละ 1,000 บาท เพิ่งรับเป็นครั้งแรก โดยรับชาวเมียนมาขึ้นรถ 7 คน ส่วนรถตู้อีกคันที่มาด้วยกันได้ขับหลบหนี
ด้านนายคณพศ สายสกล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 บ้านเนินแก้ว กล่าวว่า ก่อนจับกุมสายข่ารายงานว่ามีชาวเมียนมาจำนวนมากลักลอบข้ามแดน จึงนำกำลัง ชรบ.ตรวจสอบ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่หน่วยอื่น สำหรับแรงงานชาวเมียนมาทั้งหมด ที่จับได้เป็นกลุ่มเดียวกัน เดินทางมาพร้อมกัน คาดว่ายังมีตกค้างอยู่ที่ชายแดนรอจังหวะนายหน้ามารับอีกจำนวนมาก และมีจำนวนหนึ่งที่ข้ามแดนแล้ว ซึ่งมีชาวบ้านพบเห็นแต่ยังตามหาไม่พบ
ด้านแหล่งข่าวฝ่ายความมั่นคง ระบุว่า ยังมีแรงงานเถื่อนในฝั่งเมียนมาอีกกว่า 1,000 คน รอเดินเท้าเข้าไทย โดยจ่ายสินบนหัวละ 100 บาท ล่าสุดได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ทหาร ตชด. เข้มงวดบริเวณช่องทางธรรมชาติจากสันแดนเข้ามาในประเทศระยะทาง 3 กิโลเมตร เพื่อผลักดันแรงงานเถื่อนออกนอกประเทศทันที โดยไม่นำมากักตัว 14 วันก่อนดำเนินคดีและผลักดันกลับตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด หลังจากทางการไทยจะนำแรงงานเถื่อนไปจดทะเบียนในระบบ และมีรายงานทางการข่าวแจ้งว่าแรงงานเถื่อนที่เคยถูกจับกุมจำนวนมาก ต่อมาถูกผลักดันกลับ แต่พบว่ามีบางรายลักลอบเข้าไปทำงานในโรงงานสับปะรดแห่งหนึ่งที่มีความต้องการแรงงานสูงมากในสถานการณ์โควิด-19
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี