ศูนย์วิจัยข้าวพระนครศรีอยุธยา น้อมนำแนวพระราชดำริเกษตรทฤษฎีใหม่ ในหลวงรัชกาลที่ 9 มาปรับใช้โดยการทำงานแบบบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จนเกิดผลของการบริหารจัดการน้ำ ที่มีอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำ มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ช่วยแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำในการผลิตข้าวนาปรัง
จากการประชุมภาคีหน่วยงานภาครัฐร่วมกับกลุ่มผู้นำเกษตรกรแปลงใหญ่ มีการเสนอให้ดำเนินการบริหารจัดการน้ำทุ่งทะเลมหาราช ที่เก็บน้ำได้ประมาณ 25 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยกรมชลประทานมีแผนระบายน้ำออกจากทุ่งดังกล่าว เพื่อให้เกษตรกรปลูกข้าวนาปี เริ่มเก็บเกี่ยวข้าวกลางเดือนกุมภาพันธ์ เป็นต้นไป
นายอนุสรณ์ ตันติวุฒิ รอง ผอ.สำนักงานชลประทานที่ 10 กล่าวว่า เมื่อปลายปี 2563 ต่อเนื่องต้นปี 2564 ขาดแคลนน้ำ ทางศูนย์วิจัยข้าวพระนครศรีอยุธยา ก็เห็นว่าน้ำจากที่หนึ่งที่จะระบายทิ้งเพื่อการเก็บเกี่ยว น่าจะไปช่วยเหลือพื้นที่หนึ่งซึ่งกำลังต้องการใช้น้ำ จึงประสานในแง่ภูมิประเทศ ทางหลักการชลประทาน พบว่ามีศักยภาพสามารถทำได้ ใช้แม่น้ำลพบุรี และอาคารชลประทานผันน้ำ จากฝั่งตะวันตกไปตะวันออก
ขณะที่ นายพิสิฐ พรหมนารท ผอ.ศูนย์วิจัยข้าวพระนครศรีอยุธยา ระบุว่า น้ำทุ่งทะเลมหาราช จะถูกปล่อยทิ้งปีละกว่า 20 ล้านลูกบาศก์เมตร เมื่อรวมกับมวลน้ำในพื้นที่นาลุ่ม จ.พระนครศรีอยุธยา แล้ว เทียบเท่าน้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ราว 1,000 ล้านลูกบาศก์เมตร จึงร่วมมือกับสำนักชลประทานที่ 10 รวบรวมข้อมูลโครงการส่งน้ำชลประทาน เสนอแผนจัดการน้ำเพื่อการผลิตข้าวอย่างมีประสิทธิภาพ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี