เช็คด่วน!เริ่มวันนี้‘ลำตะคอง’ปล่อยน้ำเพิ่ม เตือน 11 อำเภอเฝ้าระวัง‘ท่วม’
25 ตุลาคม 2564 ที่ห้องประชุมท้าวสุรนารี ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดนครราชสีมา ศาลสกลางจังหวัดนครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ประธานคณะกรรมการศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานการแกไขปัญหาอุทกภัย โดยวีดีโอคอนฯไปยังนายอำเภอในพื้นที่อุทกภัย 11 อำเภอ พร้อมกันนี้หลังจากประชุมศูนย์บัญชาการฯจะยกไปตั้งวอร์รูมติดตามสถานการณ์น้ำท่วมที่ อ.พิมาย โดยเฉพาะติดตามลุ่มน้ำสำคัญ 4 ลุ่มน้ำที่ไปบรรจบกัน ประกอบด้วย ลุ่มน้ำลำเชียงไกร , ลุ่มน้ำลำตะคอง , ลุ่มน้ำลำพระเพลิง และลุ่มน้ำลุ่มมูล และลงพื้นที่ตรวจติดตามระดับน้ำท่วมสูงจุดเสี่ยงจุดเฝ้าระวังจุดการผลักดันน้ำ เป็นต้น
นายวิเชียร กล่าวว่า ขณะนี้ทางอ่างฯลำตะคองได้มีการปล่อยน้ำออกจากอ่างฯมาแล้ว โดยจะปล่อยน้ำวันละ 8 แสน-1 ล้านคิว มวลน้ำใช้เวลา 3 วันก็จะมาถึงประมาณวันที่ 27 ตุลาคม 2564 น้ำน่าจะมาถึงประตูระบายน้ำละลมหม้อ ต.โคกกรวด อ.เมืองนครราชสีมา เราจะดูและติดตามน้ำตรงนี้ให้ดี ซึ่งน้ำท่วมที่บริเวณวัดช่องอู่ ต.จอหอ ที่ท่วมสูงตอนนี้ลดลงเหลือประมาณ 30 ซม.แล้ว แต่เนื่องจากเมื่อวานนี้มีการระบายน้ำออกมาจาก ต.หนองกระทุ่ม ลงมาที่วัดช่องอู่อีก เราจะเร่งระบายลงไปให้เร็วที่สุด
ส่วนจุดที่เคยท่วมเดิมในเขตเทศบาลนครนครราชสีมาและพื้นที่รอบ อ.เมือง จะหนักเหมือนเดิมนั้น ตนว่าไม่น่าจะถึง เพราะตอนนี้เราจะคุมระดับน้ำให้อยู่ปริ่มๆให้คลองนี้สามารถรับได้ ถ้าจะเอ่อก็เอ่อไม่มาก ยืนยันว่าไม่หนักเท่าเดิม ขอให้พี่น้องประชาชนได้สบายใจและไม่ต้องเป็นกังวล หรืออาจจะไม่ท่วมเลย แต่ขอให้ระมัดระวังที่ยังต้องเตรียมพร้อมอยู่
ทั้งนี้ สถานการณ์น้ำท่วมหลายจุดแห้งหมดแล้ว พื้นที่ ต.หนองกระทุ่ม แห้งแล้ว ตอนนี้เหลือน้ำท่วมที่บริเวณวัดช่องอู่ ต.จอหอ 30 ซม. มี 40 หลังคาเรือนที่ยังท่วมอยู่ ซึ่งภายในช่วงเย็นหรืออย่างช้าพรุ่งนี้บริเวณวัดช่องอู่ น่าจะเรียบร้อย
ส่วนมวลน้ำที่ท่วมบ้านอ้อ อ.โนนสูง รอบที่ 2 และ อ.คง เป็นน้ำที่มาจากลุ่มน้ำลำเชียงไกรเป็นหลัก อ่างฯลำเชียงไกร ตอนล่างน้ำยังไหลเข้ามากก็ต้องระบายออกมามาก ซึ่งเป็นน้ำที่ฝนตกเหมือนอ่างฯจำนวนมากจำเป็นต้องระบายออกมา
ส่วน อ.เฉลิมพระเกียรติ , อ.จักราช ก็มีน้ำท่วมขังบ้างแต่เล็กน้อย แต่ทาง อ.โนนสูง น้ำยังมากอยู่และจะไปยัง อ.พิมาย แต่เนื่องจาก อ.พิมาย น้ำจะกระจายไปพื้นที่การเกษตรท้องทุ่งนาด้วย ซึ่งที่ อ.พิมาย ถ้าไม่มีฝนลงมาอีกตนคิดว่าเราน่าจะคุมได้
ส่วนที่กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเตือนเรื่องฝนมาช่วงปลายเดือนนี้อีกนั้น ตนยังคิดว่าฝนคงจะไม่มาก และเราพยายามจะเร่งน้ำมวลนี้ให้ผ่านในตัวจังหวัดเราไปก่อนและจะพร่องน้ำในอ่างเก็บน้ำที่เก็บน้ำไว้มากเกินความจุทุกอ่างฯที่จะรอรับฝนที่จะมาวันที่ 27-28 ตุลาคม นี้ ถ้าเราพร่องอ่างฯลงไปได้แล้วมวลน้ำจากฝนที่ตกลงมาเราก็จะได้ปิดอ่างฯเพื่อจะเก็บน้ำฝนไม่ให้กระทบด้านล่าง ตอนนี้ทุกลุ่มน้ำเรากังวลและเป็นห่วง เพราะตอนนี้น้ำมันปริ่มเต็มทุ่งไร่ทุ่งนา ดินอุ้มน้ำไว้เต็มที่แล้ว ฉะนั้นฝนตกลงมาอาจจะเกิดให้น้ำท่วมขังในพื้นที่ต่างๆได้ และน้ำไม่ได้ไหลลงเร็วเหมือนเดิมแล้ว เพราะน้ำต่างๆก็เริ่มเต็มหมดและน้ำลำมูลก็เต็มแล้ว จากการติดตามสถานการณ์คาดว่าหลังวันที่ 28 ตุลาคม นี้ ฝนน่าจะหมดไป มวลอากาศเย็นน่าจะแผ่ลงมา จ.นครราชสีมา เราก็จะเร่งระบายน้ำ แล้วเตรียมการณ์เรื่องการชดเชย ซึ่งน่ายจะเข้าสู่ภาวะปรกติได้
ทั้งนี้ กองอำนวยการป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครราชสีมา ได้ออกประกาศแจ้งเตือนประชาชนเฝ้าระวังการระบายน้ำเขื่อนลำตะคอง เนื่องจากปัจจุบันเขื่อนลำตะคอง อำเภอสีคิ้ว มีปริมาณน้ำในเขื่อน 331 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 105% ของความจุเขื่อน และขณะนี้ยังคงมีน้ำไหลเข้าเขื่อนอย่างต่อเนื่องประมาณวันละ 3-5 ล้านลูกบาศก์เมตร อย่างไรก็ตามเขื่อนลำตะคองได้ออกแบบมาให้สามารถรองรับน้ำได้เพิ่มเติมอีกประมาณ 50 ล้านลูกบาศก์เมตร และจากการพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา คาดว่าในช่วงวันที่ 27-28 ตุลาคมนี้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง จะมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักถึงหนักมาก
เขื่อนลำตะคองจึงจำเป็นต้องระบายน้ำออกจากเขื่อน ด้วยอัตรา 10-20 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หรือประมาณ 1-1.5 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน โดยจะเริ่มระบายน้ำตั้งแต่วันนี้ (25 ตุลาคม 2564) เป็นต้นไป และเพื่อให้เกิดความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน ได้แจ้งเตือนให้ประชาชนที่อาศัยอยู่สองฝั่งริมน้ำในพื้นที่ 11 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอสีคิ้ว สูงเนิน ขามทะเลสอ เมืองนครราชสีมา เฉลิมพระเกียรติ จักราช โนนสูง พิมาย ชุมพวง ลำทะเมนชัย และอำเภอเมืองยาง ให้ทราบถึงสถานการณ์น้ำอยู่ในภาวะเฝ้าระวัง โดยให้เจ้าหน้าที่ติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างใกล้ชิดต่อเนื่อง และหากประเมินสถานการณ์แล้วพบว่า จะก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน ให้อพยพประชาชนไปยังจุดปลอดภัยไว้โดยทันที โดยทาง ปภ.นครราชสีมาได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ อัตราการสูบ 54,000 ลิตรต่อนาที ไปดำเนินการติดตั้งที่ประตูระบายน้ำตำบลจอหอ อำเภอเมืองนครราชสีมา เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่
ขณะที่ที่ชุมชนช่องอู่ ต.จอหอ อ.เมืองนครราชสีมา นางณัฐฏินีภรณ์ จันทรโณทัย นายกเหล่ากาชาด จ.นครราชสีมา และคณะกรรมการเหล่ากาชาดฯ พร้อมด้วยภาคเอกชนที่มีน้ำใจ นำโดยนายชินาพัฒน์ พิมพ์ศรีแก้ว ผจก.ทั่วไปปฏิบัติการ ร่วมกับจังหวัดนครราชสีมา เทศบาลนครนครราชสีมา และสาธารณสุขจ.นครราชสีมา ส่งต่อความห่วงใยไปยังพี่น้องชาวโคราช 2 ชุมชน ซอยสำโรงจันทร์ ต.ในเมือง และชุมชนช่องอู่ ต.จอหอ กว่า 500 หลังคาเรือน ที่ยังประสบอุทกภัยระดับน้ำท่วม 30 ซม. การเข้าออกยังลำบาก และหลังจากสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย แต่ยังคงมีชุมชนที่อยู่พื้นที่ลุ่มน้ำซึ่งการเข้าช่วยเหลือยากลำบาก และเดือดร้อนจำนวนมาก ที่ยังคงรอความช่วยเหลือจากทุกภาคส่วน โดยการนำของท่านผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย และนายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมาเป็นผู้นำทีมมอบข้าวกล่อง และข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน รวมถึงยารักษาโรค โดยภาคเอกชนได้เข้าร่วมมอบความช่วยเหลือแก่พี่น้องชาวโคราชเป็นถุงยังชีพจำนวนกว่า 100 ชุดและน้ำดื่ม 130 แพ็ค เป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับพี่น้องประชาชนทั้ง 2 ชุมชนที่ได้รับความช่วยเหลือในครั้งนี้
ทั้งนี้ สรุปสถานการณ์อุทกภัย จ.นครราชสีมา ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยและดินโคลนถล่ม จ.นครราชสีมา รวม 13 อำเภอ ได้แก่ อ.โนนสูง อ.คง อ.เมืองยาง อ.ประทาย อ.โนนไทย อ.โชคชัย อ.พิมาย อ.ปักธงชัย อ.สูงเนิน อ.แก้งสนามนาง อ.เมือง อ.จักราช อ.เฉลิมพระเกียรติ ได้รับผลกระทบ 55 ตำบล 242 หมู่บ้าน 32 ชุมชน 9,246 ครัวเรือน และเขต ทน.นครราชสีมา ได้รับผลกระทบ 22 ชุมชน 5,250 ครัวเรือน ถนน 4 สาย สถานที่ราชการ 10 แห่ง วัด 2 แห่ง ส่วนพื้นที่การเกษตรที่ประสบอุทกภัย 1,060,820 ไร่ คาดว่าจะเสียหาย 855,322 ไร่ ข้าว 590,564 ไร่ มันสำปะหลัง 204,290 ไร่ ข้าวโพด 52,560 ไร่ อ้อย 3,944 ไร่ พืชผักอื่นๆ 2,361 ไร่ ไม้ผล และอื่นๆ 1,604 ไร่
ด้านประมงประสบอุทกภัย รวม 13 อำเภอ 44 ตำบล 200 หมู่บ้าน เกษตรกร 2,672 ราย บ่อปลา จำนวน 4,803.50 ไร่
ด้านปศุสัตว์จำนวนสัตว์ที่อพยพ รวม 8 อำเภอ 17 ตำบล 78 หมู่บ้าน เกษตรกร 1,027 ราย อพยพสัตว์ โค 9,585 ตัว กระบือ 212 ตัว สุกร 36 ตัว แพะ 249 ตัว ไก่ 84 ตัว การให้ความช่วยเหลือ พืชอาหารสัตว์ 44,200 กิโลกรัม อาหารผสมสำเร็จ 18,000 กิโลกรัม
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี