วันอาทิตย์ ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2568
ไม่รอด!!! จับได้แล้วตีนแมวเนรคุณยกเค้าสนามม้าแข่ง"เสี่ยปรีชา"เจ้าสัวใจบุญแจกอั่งเปาคนจน เผยก่อเหตุต่อเนื่องมานาน 8 เดือน ได้ทรัพย์สินมากมากมูลค่าเกือบ 1,00,000 บาท
22 พ.ย.64 เวลา 12.00 น.พ.ต.ท.วีระพล มูลบัวภา สว.สส.สภ.ย่อยโนนสูง องเมืองอุดรธานี ร.ต.องอุดมโชค สิงหกุลศิริ รอง สว.สส.สภ.ย่อยโนนสูง พร้อมด้วยตำรวจชุดสืบสวน ร่วมกันจับกุมตัว นายรังสรรค์ หรือ ดำ คงคาหลวง อายุ 54 ปี บ้านเลขที่ 178 ม.3 ต.หนองบัว อ.เมืองอุดรธานี จับกุมในข้อกล่าวหา”ลักทรัพย์หรือรับของโจรในเวลากลางคืน โดยทำลายสิ่งกีดกั้น และใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกพาทรัพย์นั้นไป , บุกรุกเคหะสถานในเวลากลางคืน , เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 และประเภท 5 (ยาบ้าและกัญชา) โดยผิดกฎหมาย หลังก่อเหตุลักทรัพย์ภายในตึกอำนวยการ และรอบบริเวณ สนามกีฬาแข่งม้าอินเตอร์เกมส์ปาร์ค บ.นาทราย ต.หนองบัว อ.เมืองอุดรธานี
นอกจากนี้ยังยึดของกลางจำนวนหลายรายการ เช่น กล้องส่องทางไกล กล้องวีดีโอ กล้องถ่ายรูปดิจิตอล ฯลฯขาตั้งกล้อง คอมเพสเซอร์แอร์ ถังแก๊ส ปั๊มน้ำ สายไฟ ท่อเหล็ก เครื่องขยายเสียง เครื่องตัดหญ้า เลื่อยยนต์ไฟฟ้า เครื่องมือช่าง แผงวงจรควบคุมระบบไฟฟ้า ทีวีจอแบนขนาด 20-55 นิ้ว แผงโซ่ล่าเซล ฯลฯ และสามล้อเครื่องที่ใช้ก่อเหตุ รวมมูลค่าทรัพย์สินเกือบ 1 ล้านบาท โดยจับกุมตัวได้ที่บ้านพักพร้อมของกลางบ้างส่วน ภายในคอกเลี้ยงม้าแข่งฟ้าลิขิต ม.3 บ.นาทราย ต.หนองบัว อ.เมืองอุดรธานี และตรวจยึดของกลางเพิ่มที่คนร้ายนำไปซุกซ่อนไว้ ภายในบ้านพักคอกเลี้ยงม้าแข่งฟูลออฟเลิฟ ที่อยู่ใกล้กัน ควบคุมตัวมาสอบสวน หลังพบหมวกแก๊ปลายพราง ด้านหน้าปักรูปดาวแดงของคนร้ายทำตกหล่นอยู่ริมถนนหน้าตึกอำนวยการสนามม้าแข่ง จึงเป็นหลักฐานในการสืบสวนจับกุมคนร้าย ควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุ
พ.ต.ท.วีระพล มูลบัวภา สว.สส.สภ.ย่อยโนนสูง เปิดเผยว่า จากการสอบสวน นายรังสรรค์ หรือดำ คนร้ายให้การรับสารภาพว่า เคยทำงานเป็นช่างซ่อมบำรุงทั่วไป ภายในสนามม้าแข่งแห่งนี้รวม 4 ปี เดิมทีเป็นคน จ.สุพรรณบุรี ก่อนมาเป็นเขยเมืองอุดรธานี และเป็นคนขโมยทรัพย์สินภายในสนามม้าแข่งคนเดียว ซึ่งทรัพยสินทั้งหมดเป็นของอดีตนายจ้าง คือ นายปรีชา ชัยรัตน์ เจ้าสัวผู้ใจบุญที่แจกอั่งเปาคนจนในเทศกาลตรุษจนเนประจำ โดยทรัพย์สินที่ได้จะ นำไปขายบางส่วน เพื่อซื้อยาบ้าและกัญชามาเสพ บางส่วนเก็บรวบรวมไว้ เพื่อเตรียมไปขายเอาเงินไปเป็นทุนเปิดร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ โดยลงมือก่อเหตุตั้งแต่เดือนมีนาคม 2564 จนถึงปัจจุบัน รวม 8 เดือน เข้าก่อเหตุสัปดาห์ละ 1 ครั้งอย่างต่อเนื่อง จนถูกตำรวจเข้าจับกุมตัวพร้อมของกลางในที่สุด และประมาณ 8 ปีที่ผ่านมา เคยถูกตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี จับกุมในข้อหาลักทรัพย์ และเสพยาเสพติด ยาบ้าและกัญชา ก่อนที่จะมาทำงานอยู่ที่สนามม้าแข่ง
นายรังสรรค์ ยังให้การว่า ที่ทำไปเพราะไม่มีเงินใช้จ่ายภายในชีวิตประจำวัน ปัจจุบันอยู่ตัวคนเดียว หลังจากแยกทางกับภรรยาไปเมื่อประมาณ 2 ปี ที่ผ่านมา ลุกเมียก็ไม่มาดูแล หลังจากถูกพักงานช่วงโควิดระบาด ปี 2563 เพราะสนามม้าแข่งปิดทำการ เงินที่นายจ้างให้มาก้อนสุดท้ายก็ใช้ไปจนหมด จึงตัดสินใจก่อเหตุครั้งแรกในคืนวันที่ 20 มีนาคม 2564 และขับสามล้อเครื่องคู่ใจเข้ามาทางประตูด้านหลัง ขโมยทรัพย์สินทุกอย่างติดต่อกันมา 8 เดือน กระทั่งครั้งล่าสุดคือวันที่ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ตนรีบจึงทำหมวกตกไวเป็นหลักฐานในที่เกิดเหตุ ตนอยากขอโทษเสี่ยปรีชา ผ่านสื่อว่า ตนไม่มีทางเลือกและที่ตัดสินใจเช่นนั้น เพราะ เสี่ยปรีชาคงไม่เดือดร้อน หากไปขโมยของคนอื่นเขาคงเดือดร้อน ในช่วงสถานการณ์โควิดระบาด ไม่เหมือนกับเสี่ยปรีชาที่ใจบุญและร่ำรวยเงินทอง
ด้าน นายลือชัย เวียงวงค์ อายุ 64 ปี นายทะเบียนสมาคมม้าแข่ง จ.อุดรธานี และเป็นผู้ดูแล เปิดเผยว่า รู้สึกเสียใจที่อดีตลูกน้องมาทำกับผู้มีพระคุณ คือ “เสี่ยปรีชา” เจ้าของสนามม้าแข่งแห่งนี้ หลังจากปิดกิจกรรมแข่งม้าช่วงโควิดระบาดเมื่อปี่ที่ผ่านมา พนักงานบางคนถูกเลิกจ้างแต่ก็ดูแลกันมาตลอด เพราะเสี่ยเป็นคนใจบุญ รวมทั้งผู้จัดการสนามม้าแข่งก็เรียกใช้งานมาตลอดเวลาที่สนามม้าปิด ให้ที่พักอาศัย และให้ค่าอาหารมาตลอด ตั้งแต่เสี่ยท่านเปิดสนามม้าแข่งมาเกือบ 30 ปี ซึ่งตนก็เป็นคนดูแล ไม่เคยมีทรัพย์สินสูญหายหรือถูกขโมย เพราะไม่มีใครกล้าทำ เนื่องจากคนเมืองอุดรธานี รู้จักท่านที่เป็นคนใจบุญไม่มีงานมีเงินท่านก็จะช่วยเหลือ รู้ครั้งแรกว่าทรัพย์สินภายในตึกอำนวยการถูกคนร้ายงัดขโมยทรัพย์สิน จึงรายงานผู้จัดการและเสี่ยปรีชา ท่านก็ไม่เครียด
"พอเสี่ยรู้ก็บอกว่าเขาคงไม่มีกินจึงเป็นขโมย จึงไม่ไปแจ้งความ นับตั้งแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบันรวม 8 เดือน มีทรัพย์สินหายไปอย่างต่อเนื่อง กระทั่งล่าสุดคืนวันที่ 18 พ.ย. ที่ผ่านมา เครื่องปรับอากาศในห้องทำงานของตนและในห้องอำนวยการ รวม 3 เครื่อง รวมทั้งเครื่องคอยร้อนที่อยู่บนชั้นดาดฟ้าด้วย พูดง่ายๆว่าเอาไปครบชุด ขโมยทุกอย่างเท่าที่จะขนไปได้ แบบทยอยมาเอา เพราะนายรังสสรค์รู้ความเคลื่อนไหวในที่เกิดเหตุเป็นอย่างดี ถูกขโมยหนักขึ้นก็คงทนไม่ไหวจึงแจ้งความ และเสี่ยท่านคงเสียความรู้สึกและเสียใจ เพราะท่านดูแลเขาอย่างดี ทำไมเขาถึงทำเช่นนี้ ทรัพย์สินไม่เสียดายเท่ากับเสียความรู้สึก หากตำรวจยังจับตัวไม่ได้ ต่อไปนายดำคงต้องมายกหรือทุบตึกอำนวยการเพื่อเอาเหล็กเส้นไปขายเป็นแน่ และอยากจะขอบคุณตำรวจที่ช่วยติดตามจับกุมคนร้ายได้ เพราะนายดำทำหมวกหล่นไว้ในที่เกิดเหตุ จึงเป็นหลักฐานในการสืบสวนเข้าจับกุมตัวพร้อมของกลางในครั้งนี้”นายลือชัย กล่าว
-001
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี