ภาคใต้ท่วมหนัก
สุราษฎร์สาหัสน้ำป่าทะลัก
ประกาศภัยพิบัติ13อำเภอ
เมืองคอนแจ้งเตือนสูงสุด
พัทลุงหินภูเขาทับพระดับ
‘เหนือ-อีสาน’หนาวต่ออีก
อุตุฯ เผยประเทศไทยตอนบน อากาศหนาว อุณหภูมิลด 1-4 องศา ใต้ฝนตกหนักร้อยละ 60ส่วนสุราษฎร์ฯฝนถล่ม น้ำป่าทะลักท่วม ผู้ว่าฯประกาศเขตภัยพิบัติแล้ว 13 อำเภอ ด้านเมืองคอนยังปักธงแดงแจ้งเตือนขั้นสูงสุด ขณะพัทลุงท่วมหลายพื้นที่คลี่คลาย สลด! หินภูเขาถล่มทับพระมรณภาพ 1 รูป ด้านนายกฯห่วงใยน้ำท่วมใต้สั่งเร่งช่วย
เมื่อวันที่ 3ธันวาคมนายณัฐพล ณัฏฐสมบูรณ์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยาฉบับที่ 2 เรื่อง อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบน (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 3-5 ธันวาคม 2564)ว่าบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงอีกระลอกจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน
ไทยตอนบนหหนาวเย็นลด1-4องศา
ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง โดยภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกลาง และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาฯ บริเวณยอดดอยและยอดภูในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศหนาวถึงหนาวจัดกับมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 3-12 องศาฯ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็น อนึ่ง คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงกว่า 2 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยบริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นลมแรง ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง หลีกเลี่ยงเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
สำหรับพยากรณ์อากาศ 24ชั่วโมงข้างหน้า ภาคเหนือ อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาฯ อุณหภูมิต่ำสุด 13-19 องศาฯ อุณหภูมิสูงสุด 26-31 องศาฯ บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด กับมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 5-10 องศาฯ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาฯ อุณหภูมิต่ำสุด 12-17 องศาฯ อุณหภูมิสูงสุด 26-29 องศาฯ บริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 7-12 องศาฯ
ภาคกลาง อากาศเย็น กับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาฯ อุณหภูมิต่ำสุด 18-21 องศาฯ อุณหภูมิสูงสุด 27-31 องศาฯ ภาคตะวันออก อากาศเย็น กับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาฯ อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาฯ อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาฯ ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร กทม.และปริมณฑล อากาศเย็น กับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาฯ อุณหภูมิต่ำสุด 20-22 องศาฯ อุณหภูมิสูงสุด 28-31 องศาฯ
ภาคใต้มีฝนตกร้อยละ60
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณ จ.สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาฯ อุณหภูมิสูงสุด 28-30 องศาฯ ตั้งแต่ จ.ชุมพรขึ้นมา ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร ตั้งแต่ จ.สุราษฎร์ธานีลงไป ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณ จ.ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาฯ อุณหภูมิสูงสุด 28-31 องศาฯ ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร
สุราษฎร์อ่วมน้ำป่าทะลักท่วม
ด้านสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเกิดฝนตกหนักบริเวณอุทยานแห่งชาติแก่งกรุง ในพื้นที่หมู่ 7 บ้านเขาหลัก ต.ปากหมาก อ.ไชยา ปริมาณน้ำฝนวัดได้ 150 มิลลิเมตร เป็นเหตุให้น้ำป่าไหลหลากทะลักสู่พื้นที่ด้านล่าง จนเกิดน้ำท่วมหลายพื้นที่ หนักสุดใน5 ตำบลของ อ.ไชยา ได้แก่ ต.ปากฉลุย ต.เวียง ต.ตลาดไชยา ต.เลม็ด และ ต.ทุ่ง โดยเฉพาะบริเวณสี่แยกไชยาและตัวตลาดไชยา และแม้ว่าฝนหยุดตกแล้ว แต่น้ำยังไหลหลากต่อเนื่องท่วมผิวจราจรถนนสายเอเชีย 41 ต.เวียง ต.ตลาดไชยา ต.ทุ่ง อ.ไชยา ระหว่าง กม.ที่ 131+700-132+700โดยระดับน้ำสูงประมาณ 50-70เซนติเมตร ทั้งขาขึ้น ขาล่อง จนมองไม่เห็นเส้นทางจราจร และบางช่วงรถวิ่งได้เพียง1 ช่องทางช่วงขาขึ้น ประมาณ 700-800 เมตร เนื่องจากระดับน้ำสูงประมาณ 30เซนติเมตร ส่งผลให้การจราจรติดขัดอย่างมาก
ผู้ว่าฯประกาศภัยพิบัติ13อำเภอ
นายวิชวุทย์จินโต ผวจ.สุราษฎร์ธานี ลงพื้นที่ อ.ไชยา ก่อนประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนเพื่อติดตามสถานการณ์อุทกภัย พร้อมสั่งการให้เร่งระดมเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เข้าให้การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยพร้อมกับนำยุทโธปกรณ์ ทั้งรถบรรทุก รถยกสูง เรือท้องแบน รถสุขา เข้าช่วยเหลือประชาชนให้ทันท่วงที และเกิดประสิทธิภาพ ขณะนี้ทางจังหวัดได้ประกาศเขตภัยพิบัติแล้ว 13 อำเภอ จากนั้น ผวจ.สุราษฎร์ธานี พร้อมคณะ เข้าสำรวจพื้นที่แยกไชยา พบว่าปริมาณน้ำเริ่มลดลง สามารถใช้เส้นทางสัญจรได้ และลงพื้นที่ย่านเศรษฐกิจ อ.ไชยา ที่ยังมีน้ำท่วมระดับน้ำประมาณ 30 เซนติเมตร
ทางตำรวจ สภ.ไชยา ตำรวจทางหลวง หมวดทางหลวงไชยา ร่วมกับฝ่ายปกครอง และกู้ภัย เร่งอำนวยความสะดวกด้านการจราจร การอพยพประชาชนบริเวณที่ประสบภัยเคลื่อนย้ายไปยังจุดที่ปลอดภัย ขณะที่โครงการชลประทานสุราษฎร์ธานี เดินเครื่องสูบน้ำ ผลักดันน้ำออกจาก อ.ไชยา แล้ว
เมืองคอนหนักเตือนระวังสูงสุด
ส่วนที่ จ.นครศรีธรรมราช วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้ฝนจะทิ้งช่วง หยุดตกไปหลายชั่วโมง แต่ปริมาณน้ำป่ายังไหลบ่ากว่า 350 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)/วินาที จากเทือกเขาหลวง ต้นน้ำท่าดี บ้านคีรีวง ต.กำโลน อ.ลานสกา ก่อนจะเข้าท่วมบ้านเรือนในชุมชนเขต อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ทางเทศบาลฯ ต้องขึ้นธงแดง แจ้งเตือนให้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมขั้นสูงสุด และยังคงมีการเร่งระบายน้ำลงสู่ทะเลที่ปากอ่าวนครศรีธรรมราช ขณะที่ถนนพัฒนาการหน้าตลาดเทศบาลฯ มีน้ำท่วมขัง 10-20 เซนติเมตร
ปิดศูนย์ตรวจโควิดน้ำท่วมสูง
ขณะเดียวกัน ศูนย์ปฏิบัติการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 เชิงรุก สำนักงานสาธารณสุข จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นศูนย์ปฏิบัติการชั่วคราวที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ได้ถูกน้ำท่วมสูงจึงจำเป็นต้องปิดบริการตรวจเชื้อชั่วคราว และโชคดีที่เจ้าหน้าที่ได้ขนย้ายอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องได้ทันก่อนน้ำจะหลากเข้าท่วมจนเกิดความเสียหาย สำหรับผู้ที่ต้องการตรวจหาเชื้อหรือผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ให้ไปตรวจที่โรงพยาบาลใกล้บ้านก่อน
สำหรับพื้นที่ลุ่มต่ำหลายจุดในเขตเทศบาลฯ และชุมชนใกล้กับคลองหน้าเมือง หรือคลองนครน้อย น้ำท่วมโดยมีระดับสูงประมาณ 20-30 เซนติเมตร ชาวบ้านได้รับผลกระทบกว่า 900 ครัวเรือน ทางเทศบาลฯ ได้ตั้งจุดเร่งระบายน้ำผ่านการบล็อกท่อและสูบน้ำด้วยเครื่องขนาดใหญ่ รวมทั้งการผลักดันด้วยเจ็ทไฟฟ้า อย่างต่อเนื่องส่งผลให้การระบายน้ำเป็นไปอย่างรวดเร็ว แต่มีอุปสรรคเล็กน้อยเนื่องบางจุดมีขยะอุดตัน
พัทลุงท่วมหลายพื้นที่เสียหายหมื่นไร่
ที่ จ.พัทลุง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำท่วมในภาพรวมเริ่มคลี่คลายลงแล้ว แต่อีกหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ ต.ปรางหมู่ ต.ชัยบุรี ต.พญาขัน และ ต.ลำปำ อ.เมือง น้ำยังท่วมหนักซึ่งจุดรับน้ำที่ไหลมาจาก อ.กงหรา และ อ.ศรีนครินทร์ ก่อนจะไหลสู่ทะเลสาบ ยังมีปริมาณน้ำท่วมขัง แม้ว่าช่วงคืนที่ผ่านมาฝนจะหยุดตกแล้ว ส่วนบ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วมขังหลายร้อยครัวเรือน พื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วมหลายแห่ง โดยเฉพาะนาข้าวใน 4 ตำบล กว่า 10,000 ไร่ ได้รับความเสียหาย
สลด! หินภูเขาถล่มทับพระมรณะ1รูป
ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตำรวจและหน่วยกู้ภัย ได้รับแจ้งจากพลเมืองดี ว่าเกิดเหตุหินภูเขาในพื้นที่หมู่ 11 ต.ชัยบุรี อ.เมือง จ.พัทลุง พังถล่มลงมาทับใส่กุฏิพระ ส่งผลให้มีพระสงฆ์มรณภาพ 1 รูป ซึ่งภายหลังรับแจ้งจึงเข้าตรวจสอบ โดยพบหินก้อนใหญ่หลายก้อนพังถล่มจากยอดเขาชัยบุรี สูงประมาณ 150 เมตร ลงมาทับใส่กุฏิพระของสำนักสงฆ์เขาเมือง และพบศพพระจรัญ บุญสุวรรณ์ อายุ 71 ปี ถูกหินดังกล่าวทับจนมรณภาพคากุฏิ ทางกู้ภัยจึงเร่งนำศพส่งไปชันสูตรที่โรงพยาบาลพัทลุง ส่วนการตรวจสอบบริเวณโดยรอบ พบว่านอกจากหินจะทับใส่กุฏิดังกล่าว ยังทับบ้านเรือนเสียหายอีก 1 หลัง
นายกฯห่วงใยน้ำท่วมใต้สั่งเร่งช่วย
ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมห่วงใยสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้หลายจังหวัด จากสถานการณ์ฝนตกหนักบริเวณภาคใต้ตอนล่าง รวมทั้งภาวะน้ำทะเลหนุนสูงทำให้หลายพื้นที่การระบายน้ำเป็นไปได้ช้า ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง ถนนหลายเส้นทางไม่สามารถสัญจรได้ นายกฯ ได้เร่งให้จังหวัด กรมทางหลวงชนบท กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และฝ่ายความมั่นคง ตำรวจและทหาร เข้าช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมอย่างเร่งด่วน
นอกจากนี้ ยังให้ซ่อมแซมเส้นทางสัญจรที่ชำรุดกำจัดสิ่งกีดขวาง เปิดเส้นทางสัญจรเพื่อให้ประชาชนใช้รถใช้ถนนด้วยความปลอดภัย โดยเฉพาะถนนสายเอเชีย 41ซึ่งเป็นเส้นทางสายหลักของภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย โดยนายกฯดูแลสถานการณ์น้ำมาตลอด โดยมีทีมงานเฉพาะที่คอยติดตามมอนิเตอร์สถานการณ์น้ำท่วมทุกพื้นที่ ให้รายงานตรงเพื่อนายกฯจะได้มีข้อสั่งการไปยังส่วนราชการที่รับผิดชอบ เพื่อเร่งช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้อย่างทันท่วงที รวมทั้งยังฝากเตือนพี่น้องหลายจังหวัดในภาคใต้ ช่วงปลายปีนี้เป็นฤดูมรสุมของภาคใต้ จึงยังมีฝนตกหนักบริเวณภาคใต้ตอนล่าง รวมถึงภาวะน้ำทะเลหนุนสูง ขอให้ประชาชนติดตามข่าวสาร เตรียมรับมือน้ำท่วมทั้งในส่วนบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตร
บิ๊กป้อม ลงเมืองคอน-ชุมพร13ธค.
ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ให้สัมภาษณ์กรณีน้ำท่วมพื้นที่ภาคใต้ขณะนี้ว่าได้สั่งการและเตรียมการรับมืออย่างไร ว่าเราเตรียมไว้ตลอดและจะลงพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช และชุมพร ในวันที่13ธันวาคมนี้ เมื่อถามว่าวันดังกล่าว พล.อ.ประยุทธ์ จะร่วมลงพื้นที่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็แล้วแต่หากว่างก็ไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี