พลิกแผ่นดินล่า‘พราน’ทมิฬ เผาป่าล่า‘ตัวนิ่ม’ดับสลดกลางเปลวเพลิง
7 มกราคม 2565 ที่บ้านคลองกลอย ต.เกาะช้างใต้ จ.ตราด นายเติมศักดิ์ เสริฐศรี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 พร้อมนายนิพนธ์ ภิญโญ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง เจ้าหน้าที่อุทยานฯ และชาวบ้าน เดินทางไปตรวจสอบความเสียหายของป่าไม้บริเวณพื้นที่รอยต่อเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง และบริเวณบ้านบางเบ้า หลังมีการเผาป่าเพื่อล่าสัตว์ป่าในพื้นที่ตามที่ชาวบ้านแจ้งมา
เมื่อเดินทางขึ้นไปพบต้นไม้ขนาดใหญ่ที่มีโพรงกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง และเพลิงกำลังลุกลามไปยังบริเวณป่าใกล้เคียง จึงเร่งนำน้ำที่อยู่บริเวณด้านล่างขนขึ้นมาดับเพลิง และตรวจสอบบริเวณต้นไม้ พบตัวนิ่มหลบหนีเข้าไปอยู่ในโพรงไม้เสียชีวิต 1 ตัว คาดว่าน่าจะถูกพรานป่าเข้าไปล่า และหลบหนีเข้าไปในโพรงไม้เพื่อเอาตัวรอด แต่ถูกพรานป่าเผาโพรงเพื่อนำตัวมาทำอาหาร ซึ่งเป็นที่สลดใจของทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์
นายเติมศักดิ์ เปิดเผยด้วยเสียงที่ดุดันเนื่องจากโมโหพรานป่าที่เข้าไปเผาป่าเพื่อล่าสัตว์ครั้งนี้ ว่า การกระทำดังกล่าวเป็นเรื่องของจิตสำนึกของมนุษย์ที่ไม่ควรจะมีพฤติกรรมอย่างนี้ ซึ่งตนจะไม่ยอมให้เกิดขึ้นอีก ที่ผ่านมามีเหตุการณ์เพลิงไหม้ป่ามาแล้ว 2 ครั้ง ซึ่งชาวบ้านต้องช่วยกันนำน้ำมาดับ ต้องขนน้ำในระยะทางที่ไกลเพื่อนำมาดับ ครั้งนี้มีสัตว์ป่าสงวนเสียชีวิตด้วย เป็นเหตุการณ์ที่เศร้าสลดอย่างยิ่ง ส่วนเป็นฝีมือใคร หรือเป็นพรานป่าที่อยู่ในเกาะช้าง ตนจะตามมาดำเนินคดี ไม่ว่าจะเป็นใครจะยอมให้เกิดเหตุการณ์ทำนองนี้ไม่ได้เด็ดขาด ซึ่งหัวหน้าอุทยานฯเกาะช้างก็ไม่เห็นด้วยกับเหตุการณ์ครั้งนี้ และได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่อุทยานฯเกาะช้างเฝ้าพื้นที่เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์อีก
“ผมไม่รู้เจตนาของพรานป่าหรือคนที่มาเผาป่า แต่ไม่ควรทำแบบนี้ เพราะสัตว์ทุกตัวก็รักชีวิต และหากเผาป่าเพื่อต้องการล่าสัตว์ป่ามาทำอาหารยิ่งเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง ผมจะไม่ยอมให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก” นายเติมศักดิ์ กล่าว
ต่อมานายเติมศักดิ์ ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กเพื่อประชาสัมพันธ์ให้ชาวบางเบ้าช่วยติดตามและประกาศหาตัวนายพรานแล้ว โดยระบุว่า “ผมเตือนแล้วนะ!ต่อจากนี้ไป ในพื้นที่หมู่ที่1(บ้านบางเบ้า)ถ้าใครพบเห็นไฟป่าหรือนายพรานที่เห็นแก่ตัวและเอาเปรียบทำลายทรัพยากรของพวกเราชาวอำเภอเกาะช้าง จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เผาป่าและเผาต้นไม้ เพื่อเอาสัตว์ป่าและของป่า ในพื้นที่คลองกลอยหมู่ที่1 บ้านบางเบ้า”
“สร้างความเดือดร้อนต่อเจ้าหน้าที่อุทยานฯและฝ่ายปกครอง อย่างมากต้องนอนเฝ้าป่ากันทั้งวันและทั้งคืน ส่งผลให้มีการสูญเสียอย่างมากทั้งทรัพยากรธรรมชาติและสัตว์ป่า นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ถ้าผมพบเห็นการเผาป่าและล่าสัตว์ด้วยวิธีแบบนี้อีก”
“ผมจะขอดำเนินคดีถึงที่สุดครับ.ใครแจ้งผมและจับตัวได้ผมมีเงินรางวัลให้ครับ.ผู้ใหญ่ต้อง ผญบ ม.1 บ้านบางเบ้า ต.เกาะช้างใต้ #หนึ่งชีวิตของสัตว์ป่า และอีก1ต้นไม้ใหญ่6คนโอบ. คือทรัพยากรของพี่น้องชาวเกาะช้าง อย่าเห็นแก่ตัวครับ โรคภัยก็มากมาย เศรษฐกิจก็ตกต่ำ จิตใจของพวกเราต้องไม่ตกต่ำตามครับ ผมพร้อมเคียงข้างทุกๆท่าน ผมเข้ามายืนตรงนี้ได้ก็เพราะความไว้วางใจจากพี่น้องทุกๆท่าน.ผมจะไม่ให้เกียรติคนที่เอาเปรียบทุกๆท่านครับ.ผมจะปกป้องให้ถึงที่สุดครับ ผมขอสัญญาจากลูกผู้ชายคนนี้ครับ”
ขณะที่นายสมคิด สายสังข์ กำนันตำบลเกาะช้างใต้ รับทราบเรื่องนี้เช่นกัน และไม่เห็นด้วยกับการกระทำเช่นนี้ ซึ่งพร้อมสนับสนุนการทำงานขอผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 เต็มที และขอให้จับคนร้ายมาดำเนินคดี
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวโทรศัพท์ไปขอสัมภาษณ์ในรายละเอียดและมาตรการเฝ้าระวังจากนายนิพนธ์ ภิญโญ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้างแล้ว แต่อยู่ระหว่างการประชุมเจ้าหน้าในอุทยานฯเกาะช้าง
ทั้งนี้ เคยเกิดปัญหาทำนองนี้มาครั้งหนึ่งแล้วในช่วงที่นายนิพนธ์ เข้ามารับตำแหน่งฯ เมื่อพบนกเงือกถูกนายพรานยิงที่ป่าในตำบลเกาะช้างใต้ และถูกนำตัวส่งรักษาที่ จ.ชลบุรี สุดท้ายเสียชีวิต
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี