"อนุทิน"เผย"นายกฯ"ขอบคุณผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำรัฐบาลจนประเทศไทยควบคุมโรคโควิด-19 ได้ ระบุบุคลากรทางการแพทย์และด่านหน้าได้รับวัคซีนเข็มที่ 4 ครบ 100% แล้ว พร้อมขอหน่วยงานเกี่ยวข้องให้การสนับสนุนการกระจายวัคซีนเด็กกลุ่ม 5-11 ปี ย้ำแนวทางจัดการโควิด-19 สู่โรคประจำถิ่นให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตประกอบอาชีพได้
เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2565 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข เปิดเผยระหว่างการเป็นประธานในที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2565 ณ ห้องประชุมชัยนาทนเรนทร ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอขา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้ฝากให้นำคำขอบคุณมายังผู้เชี่ยวชาญและผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ และคณะอนุกรรมการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ที่ได้ให้คำแนะนำชี้แนะนำแก่รัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุข เกี่ยวกับการดำเนินการเพื่อต่อสู้กับโควิด-19 จนประเทศไทยสามารถควบคุมโควิด-19 อยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้
ทั้งนี้ รองนายกฯ ได้กล่าวถึงสถานการณ์การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ว่า ในขณะนี้ได้เพิ่มขึ้นโดยต่อเนื่อง โดยการกระจายวัคซีนรวมแล้วประมาณ 114 ล้านโดส ซึ่งครอบคลุมประชาชนได้ตามเป้าหมาย โดยมีผู้ได้รับได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 - 2 มากกว่า 70% ของจำนวนประชากร โดยเฉพาะใน กทม.ถือว่าเกิน 100% แล้ว เนื่องจากมีประชากรแฝงที่ได้รับวัคซีนใน กทม.ด้วย
ส่วนผู้ได้รับเข็มที่ 3 ยังอยู่ที่ 20% เนื่องจากต้องรอให้ครบรอบการได้รับวัคซีนก่อน ซึ่งแม้ส่วนใหญ่จะยังได้เข็มที่ 2 แต่ภูมิคุ้มกันก็อยู่ระดับสูง เนื่องจากเป็นการได้รับวัคซีนสูตรไขว้ ซึ่งขณะนี้สูตรการฉีดวัคซีนแบบไขว้ของประเทศไทยก็ได้รับการยอมรับมากขึ้น โดยมีการรับรองในวารสารทางการแพทย์ระหว่างประเทศหลายแห่ง ส่วนของบุคลาการทางการแพทย์ บุคลากรด่านหน้าที่ต้องสัมผัสคนจำนวนมาก ขณะนี้ก็ได้รับวัคซีนเข็มที่ 4 ไป 100% แล้ว
นายอนุทิน กล่าวว่า ในปีนี้กระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมวัคซีนโควิด-19 สำหรับเข็มกระตุ้นที่เพียงพอสำหรับประชาชน ทั้งในส่วนของวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า และวัคซีนไฟเซอร์ ก็มีการสั่งเข้ามาต่อเนื่อง ซึ่งในส่วนของวัคซีนไฟเซอร์สำหรับเด็กอายุ 5 - 11 ปี 3 แสนโดสแรก ตอนนี้ก็ได้มาถึงประเทศไทยแล้ว โดยผู้ผลิตจะทยอยส่งสัปดาห์ละ 3 แสนโดส ไปจนกว่าจะครบตามคำสั่งซื้อ ซึ่งจะได้กระจายไปยังกลุ่มเป้าหมายโดยเริ่มจากเด็กกลุ่มโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มก่อน และขยายไปยังเด็กในโรงเรียน ในส่วนนี้จะต้องขอความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในการสนับสนุนการกระจายวัคซีนไปถึงเด็กกลุ่มเป้าหมายให้มากที่สุด
"วัคซีนไฟเซอร์สำหรับเด็กได้รับอนุมัติจาก อย.ให้ฉีดในเด็กอายุ 5 - 11 ปีได้ ส่วนวัคซีนซิโนแวคอยู่ระหว่างการขอขึ้นทะเบียน โดยในปีนี้รัฐบาลมีแผนการจัดหาวัคซีนไฟเซอร์สำหรับเด็ก (Pediatric vaccine) รวม 10 ล้านโดส"
รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข กล่าวว่า แนวทางการดำเนินการของกระทรวงสาธารณสุขในระยะต่อไปจะดำเนินการในด้านต่างๆ เพื่อให้โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น ปรับปรุงมาตรการเพื่อให้ประชาชนกลับไปใช้ชีวิตและประกอบอาชีพได้ ซึ่งเชื่อว่าประชาชนเฝ้ารออยู่ เห็นได้จากที่กระทรวงสาธารณสุขได้เสนอต่อ ศบค.ให้เปิดลงทะเบียนการเข้าประเทศแบบ Test & Go อีกครั้ง ก็ได้รับคำชื่นชมและคำขอบคุณจากผู้ประกอบการอย่างมาก และทุกฝ่ายยินดีที่ปฏิบัติตามมาตรการของทางการ และเข้าใจว่า การประกอบธุรกิจในระยะต่อไปจะต้องเป็นไปแบบ New Normal
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ได้เห็นชอบหลักการเกี่ยวกับการเตรียมการการเพื่อพิจารณาให้โรคโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น และการจัดตั้งคลินิกวัคซีนผู้ใหญ่เพื่ออำนวยความสะดวกในการฉีดวัคซีนโควิด-19 แก่ประชาชน รวมถึงการการสร้างภูมิคุ้มกันโรคอื่นๆ เพื่อความมั่นคงทางสุขภาพ
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี