‘รมว.อว.’เปิดการประชุมวิชาการระดับชาติ-นานาชาติครั้งที่ 5 เผยเกิดปรากฎการณ์ปฏิรูปอุดมศึกษา 10 ข้อขึ้นแล้ว นักวิจัยจะได้เป็นเจ้าของผลงาน-ได้รับสิทธิบัตร อว.พร้อมให้เงินทุนทำวิจัย พัฒนาหลักสูตร
14 กุมภาพันธ์ 2565 ที่หอประชุมวิชชาอัตศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ศ.ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.การอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (รมว.อว.) เป็นประธานเปิดการประชุมวิชาการระดับชาติและนานาชาติครั้งที่ 5 ประจำปี 2565 เพื่อยกย่อง เชิดชู คุณค่าของผลงานในอดีตที่สืบสานมาจนถึงปัจจุบัน และจะต่อยอดพลิกโฉมมหาวิทยาลัยไปสู่อนาคต เพื่อยืนหยัดให้มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ เป็นแหล่งเรียนรู้ของชุมชนท้องถิ่น ประดุจดัง “ประทีปทองของท้องถิ่น ประเทืองค่าประชาชน” เพื่อการพัฒนาท้องถิ่น สู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง โดยมี ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม , ดร.ตนุช ตันเทิดทิตย์ ผช.รมว.การอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม คณะผู้บริหาร คณาจารย์ เจ้าหน้าที่ และนักศึกษาเข้าร่วมโดยพร้อมเพรียงกัน
ในการประชุมวิชาการระดับชาติและนานาชาติครั้งที่ 5 นี้ มีผู้บริหารจากมหาวิทยาลัยต่างๆ ทั้ง 21 สถาบันการศึกษา จาก 13 ประเทศ ร่วมเป็นเจ้าภาพในการจัดประชุม และได้เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ ผ่านระบบออนไลน์ Zoom Meeting ด้วย
รมว.อว. กล่าวระหว่างการปาฐกถาพิเศษในหัวข้อเรื่อง “บทบาทของมหาวิทยาลัย เพื่อการพัฒนาท้องถิ่น สู่เป้าหมายการพัฒนาตนเองอย่างยั่งยืน” ว่าขณะนี้จะเกิดปรากฎการณ์ปฏิรูปอุดมศึกษา 10 ข้อ ไม่ว่าจะเป็นผู้วิจัยและอาจารย์ เมื่อได้รับทุน เมื่องานวิจัยเสร็จ จะได้เป็นเจ้าของผลงาน ได้รับสิทธิบัตรเป็นทรัพย์สินทางปัญญา จะทำให้งานวิจัยออกจากห้องทดลอง สู่การนำไปใช้จริง ซึ่ง อว.สามารถให้เงินทุนทำวิจัย และพัฒนากับภาคเอกชนได้ การจัดตั้งกองทุนพัฒนาอุดมศึกษา ควบคู่กับกองทุนวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ในการส่งเสริมการทำวิจัย พัฒนาหลักสูตร เพื่อตอบสนองความต้องการพัฒนาของประเทศ ท้องถิ่น เพื่อให้ทันยุคสมัย
นอกจากนี้ จะเห็นได้ว่าประเทศไทยมีมหาวิทยาลัย 5 ประเภท ได้แก่ มหาวิทยาลัยที่โดดเด่นเรื่องการวิจัยและนวัตกรรมแนวหน้า, มหาวิทยาลัยที่มุ่งเน้นการพัฒนาท้องถิ่นอย่างยั่งยืน, มหาวิทยาลัยที่มุ่งเน้นเน้นเทคโนโลยี, มหาวิทยาลัยที่เน้นศาสนา คุณธรรม จริยธรรม, และมหาวิทยาลัยอื่นๆ ซึ่งแต่ละประเภทมีความเป็นเลิศที่แตกต่างกันตามเอกลักษณ์
รมว.อว. กล่าวต่อว่า การปฏิรูปอุดมศึกษารูปแบบใหม่ ยังเปิดทางให้สามารถขอตำแหน่งวิชาการได้ ยกเลิกเวลาจบ สามารถลงเรียนมหาวิทยาลัยอื่น ที่ทำ MOUร่วมกันได้ เพื่อส่งเสริมเส้นทางการเรียนที่ชอบมากที่สุด ,กองทุน กยศ.จะให้ยืมเรียนในสาขาที่ประเทศต้องการ อาจไม่ต้องจ่ายคืนต้น คืนดอก ซึ่งรายละเอียดในส่วนนี้อยู่ในช่วงหารือ , เเซนด์บ็อกซ์อุดมศึกษา หรือการยกเว้นกติกาต่างๆ หลักสูตรอุดมศึกษา และมีการตั้งธัชชา หรือวิทยสถานสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และศิลปกรรมศาสตร์ เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ เช่น เศรษฐกิจเชิงท่องเที่ยว ศิลปกรรม และวิทยสถานทางวิทยาศาสตร์ สำหรับการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี