วันที่ 2 เมษายน 2565 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มอบหมายให้กองบังคับการปราบปรามเข้าตรวจสอบ คนสนิทของสมเด็จพระวันรัตอดีตเจ้าอาวาสวัดบวรฯ มรณภาพเมื่อเดือน มีนาคม ที่ผ่านมา

จนทราบว่ามีการยักยอกเงินของสมเด็จพระวันรัต ในส่วนของการบูรณะวัดบวรนิเวศและวัดสาขา ตามที่คณะกรรมการวัดได้ประสานให้ดำเนินการตรวจสอบในทางลับซึ่งเป็นลูกศิษย์คนสนิทรายหนึ่ง ที่มีความใกล้ชิดกับสมเด็จพระวันรัต ก่อนจะติดตามจับกุมตัวมาได้เมื่อช่วงประมาณวันที่ 23-25 มีนาคม ที่ผ่านมา เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหาฉ้อโกง อีกข้อหาคือปลอมและใช้เอกสารสิทธิ์ปลอม

ส่วนพฤติกรรมคือ ปลอมแปลมเอกสารสิทธิ์ เพื่อลักเงินจากบัญชีเงินฝาก ซึ่งการตรวจสอบขณะนี้พบบัญชีแรกมีการลักเงินออกไป ประมาณ 80 กว่าล้าน ส่วนอีกบัญชีลักไป 120 กว่าล้าน รวมเงินที่สูญหายไปเท่าที่ตรวจสอบพบในขณะนี้ก็ประมาณ 200 ล้านบาท แต่การตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินทั้งหมดยังไม่เสร็จสิ้น

ทั้งนี้ สามารถติดตามกลับคืนมาได้แล้วจำนวนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งเป็นการอายัดบัญชีที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ไปถึงทรัพย์สินที่ต้องสงสัยมีการอายัดเอาไว้ตรวจสอบว่าได้มาจากเงินลักไปหรือไม่ด้วย ซึ่งขณะนี้มีของกลางที่ยึดและอายัดเอาไว้ตรวจสอบหลายร้อยรายการ

สำหรับพฤติการณ์การก่อเหตุว่า ผู้ต้องหาไม่ได้กระทำการในครั้งเดียว แต่อาศัยความใกล้ชิดเขาถึงข้อมูล เอกสารสิทธิต่างๆ และปลอมแปลงเอกสารสิทธิ ทำธุรกรรมการเงิน ลักเงินออกไปหลายครั้ง โดยการสืบสวนณขณะนี้ ไม่พบว่ามีผู้อื่นเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด แต่การสืบสวนสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ตำรวจอยู่ระหว่างสืบสวนขยายผลว่า มีผู้อื่นให้ความช่วยเหลือ หรือร่วมก่อเหตุกระทำความผิดด้วยหรือไม่

สำหรับทรัพย์สินของสมเด็จพระวันรัต เบื้องต้นตรวจสอบไม่พบว่ามีการทำพินัยกรรมไว้ ซึ่งตามกฎหมายทรัพย์สินที่ได้มาในระหว่างที่ครองสมณเพศ เมื่อมรณภาพไปโดยไม่มีการจำหน่ายจ่ายโอนเอาไว้ ทรัพย์สินทั้งหมดก็จะตกเป็นของวัด