ชุดสืบสวนภาค 9 บุกทลายแหล่งรับจำนำรถยนต์เรียกดอกเบี้ยโหด พร้อมยึดรถยนต์ 28 คันส่วนใหญ่เป็นรถที่ยังติดไฟแนนซ์ที่ถูกนำมาจำนำต่อ และจับกุมนายทุนที่รับจำนำรถเอาไว้ เตือนคนที่นำรถที่ยังติดไฟแนนซ์หรือยังผ่อนอยู่มาจำนำต่อมีความผิดฐานยักยอกทรัพย์และเสี่ยงที่รถจะถูกขายต่อตลาดมืดต้องผ่อนลมและถูกดำเนินคดีด้วย
วันนี้ (10 เม.ย.65) พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี รอง ผบช.ภ.9, พ.ต.อ.สมพงษ์ สุวรรณวงค์, พ.ต.อ.ศักดา เจริญกุล และ พ.ต.อ.จักราวุธ บุญเรือง รอง ผบก.สส.ภ.9 ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.วันกิตติ ทินนิมิตร รอง ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.9 และ ร.ต.อ.อรรถพล จันทสงค์ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนกองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 9 นำหมายค้นของศาลจังหวัดสงขลา เข้าตรวจค้นและจับกุมผู้ลักลอบปล่อยเงินกู้โดยเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด
โดยเข้าตรวจค้นภายในบริเวณบ้านในซอยประชาร่วมใจ 1 ถนนขวัญประชา หมู่ 4 ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พบรถยนต์กระบะ และรถยนต์เก๋งจำนวน 28 คันที่จอดอยู่บริเวณบ้านหลังนี้ รวมทั้งภายในโกดังและที่บริเวณบ้านอีกหลังซึ่งอยู่ใกล้เคียงกัน
จากการตรวจสอบรถพบว่าส่วนใหญ่จะเป็นรถที่ติดสัญญาเช่าซื้อกับบริษัทสินเชื่อและยังพบเอกสารการกู้ยืมเงิน ซึ่งเป็นชุดโอนลอยโดยมีรถยนต์เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเงินกู้ จำนวน 32 ชุด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนายอรุณ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี ชาว ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เอาไว้ ซึ่งเป็นลูกเขยของบ้านที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้น
จากการสอบสวนเอกสารพบว่ารับจำนำรถยนต์โดยคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 10 ต่อเดือน หรือคิดเป็นร้อยละ 120 ต่อปี ซึ่งเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกาหนด ร้อยละ 15 ต่อปีสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก โดยนายอรุณ จะนำรถที่รับจำนำไว้มาฝากไว้ที่บ้านแม่ยายและในโกดังที่สร้างเป็นเป็นรั้วสังกะสีปิดทึบ และบางส่วนฝากจอดไว้ที่เพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียงกันและทุกคันถูกมีการนำถุงพลาสติดสีดำมาปิดอำพรางแผ่นป้ายทะเบียนไว้ด้วยเพื่อไม่ให้ใครเห็นและตรวจสอบป้ายทะเบียนรถได้
สอบถามนายอรุณ ให้การรับสารภาพว่าตนเองประกอบธุรกิจรับจำนำรถมาได้ระยะหนึ่งแต่ไม่ได้ขออนุญาตจากนายทะเบียน รถยนต์ที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดได้เป็นรถที่ตนเองรับจำนำไว้ ซึ่งได้ทำสัญญากู้ยืมเงินไว้กับลูกค้า และคิดดอกเบี้ยจากลูกค้าในอัตราร้อยละ 10 ต่อเดือน เจ้าหน้าที่จึงแจ้งควบคุมตัวนายอรุณ พร้อมด้วยของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.หาดใหญ่ เพื่อเนินคดีตามกฎหมาย
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมยังได้ฝากเตือนไปยังผู้ที่นำรถยนต์ที่ยังผ่อนหรือเช่าซื้ออยู่ไปจำนำอาจเข้าข่ายมีความผิดฐานยักยอกทรัพย์ เนื่องจากเจ้าของกรรมสิทธิ์ในตัวรถคือ สถาบันการเงินเจ้าของสินเชื่อ หรือไฟแนนซ์ และปัญหาใหญ่คือหากเจอผู้รับจำนำที่ไม่มีความซื่อสัตย์ หรือมิจฉาชีพที่ตั้งใจมาหลอกลวงเพื่อเอารถไปขายต่อ อาจขายในรูปแบบรถหลุดจำนำ แยกชิ้นส่วนขาย หรือส่งรถทั้งคันออกนอกประเทศ
สุดท้ายสถาบันการเงินเจ้าของกรรมสิทธิ์จะมาไล่เบี้ยค่าเสียหายกับโดยตรงกับผู้ที่นำไปจำนำ และยังคงต้องผ่อนรถต่อไปทั้งที่รถไม่อยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่ควรเอารถที่ติดไฟแนนซ์อยู่ไปจำนำ หรือ ขายนอกระบบ เพราะนอกอาจจะเสียรถไปแล้ว ยังอาจตกเป็นผู้ต้องหาด้วย - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี