สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ร่วมแถลงผลตรวจค้นเป้าหมายแพลตฟอร์มจำหน่ายสลากออนไลน์เกินราคาทุกแห่งทั่วประเทศ พบสลากรวมกว่า 10 ล้านฉบับ ชี้บริษัทมังกรฟ้าฯ มีโครงสร้างและเครือข่ายซับซ้อนที่สุด เบื้องต้นเตรียมเสนอหลักฐานปิดทุกแพลตฟอร์ม ต่อไป
เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2565 พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รองประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา พร้อมด้วยนายทวีป วุฒิบาทุกาจิตต์ รองผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล แถลงผลการตรวจค้นเป้าหมาย 33 จุด ใน 12 จังหวัด โดยอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร มากที่สุด 14 จุด นอกจากนั้นกระจายอยู่ในจังหวัดในพื้นที่ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ ซึ่งเป็นคนกลางจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลออนไลน์เกินราคาที่กฎหมายกำหนด จาก 14 แพลตฟอร์ม เช่น กองสลากพลัส, กรุงไทย ลอตเตอรี่, แม่จำเนียร ลอตเตอรี่, ลอตเตอรี่ 80.com, มังกรทองลอตเตอรี่ออนไลน์ ตรวจพบสลาก ทั้งงวดเก่าและงวดใหม่ รวมกว่า 10 ล้านฉบับ
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า จากปฏิบัติการครั้งนี้ ถือว่า เป็นการดำเนินการได้ทั้งหมด 17 แพลตฟอร์มออนไลน์ ที่มีอยู่ในประเทศไทยแล้ว พร้อมชี้แจงว่า แม้สลากที่อยู่ในแพลตฟอร์มทั้งหมด จะมีเพียงประมาณร้อยละ 10 ของสลากทั้งหมด แต่มีส่วนทำให้กลไกราคาของสลากแพงกว่ากฎหมายกำหนด เนื่องจาก เดิมการจำหน่ายแบบเดิม สำนักงานสลากฯ จะส่งสลากให้ผู้ค้ารายย่อยไปรับที่ไปรษณีย์ไทย ก่อนนำไปจำหน่ายตรง แต่เมื่อมีแพลตฟอร์มออนไลน์ จึงเป็นตัวเร่ง ให้มีการซื้อได้เร็วและจำหน่ายเร็วขึ้น ส่งผลให้ราคาเพิ่มสูงเร็วมากขึ้น
สำหรับแพลตฟอร์มทั้งหมด จะแบ่งการดำเนินงานได้ 4 รูปแบบหลัก โดยรูปแบบแรก เช่น จะมีการดำเนินงาน ด้วยการกว้านซื้อสลากของผู้ค้ารายย่อย ก่อนนำมาสแกนจำหน่ายบนแพลตฟอร์มของตัวเอง โดยปิดบังบาร์โค้ด และสัญลักษณ์ของสลาก แม้บางแพลตฟอร์ม จะเบี่ยงบาลี โดยจำหน่ายที่ราคา 80 บาท และบวกค่าบริการเพิ่มเติม อาจเข้าข่ายผิดกฎหมายเช่นกัน ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบว่า สลากทั้งหมด มีการนำมาจำหน่ายวนซ้ำหรือไม่ / รูปแบบที่ 2 จะมีการลักษณะเช่นเดียวกับรูปแบบแรก แต่จะขายผ่านผู้ค้าสลากรายย่อย หรือ ดาวน์ไลน์ เพิ่มเติม / รูปแบบที่ 3 แม้จะจำหน่ายไม่เกินราคาที่กฎหมายกำหนด แต่มีการปิดบังบาร์โค้ดและสัญลักษณ์ / และ รูปแบบที่ 4 มีการกำหนดราคาสลากเอง โดยไม่มีการปิดบังบาร์โค้ดหรือสัญลักษณ์
ทั้งนี้ แพลตฟอร์มทั้งหมด พบว่า มีลักษณะไม่ซับซ้อน เพียงรับสลากมาและจำหน่ายต่อ แต่จะพบว่า บริษัท มังกรฟ้า ลอตเตอรี่ จำกัด มีโครงการจำหน่ายสลากที่ซับซ้อนที่สุด รวมทั้ง สร้างเครือข่ายผู้ค้ารายย่อยจำนวนมาก โดยระบุว่า บริษัท มังกรฟ้าฯ มีสลาก จำนวนกว่า 2 ล้าน 2 แสนฉบับ มีผู้ค้าที่มีโควต้า นำสลากไปสแกน จำนวน 464 คน หรือประมาณกว่า 2 แสนฉบับเท่านั้น แต่สลากส่วนใหญ่อีกกว่า 1 ล้าน 8 แสนฉบับ จะอยู่ใน 3 บริษัทย่อยของมังกรฟ้าฯ ซึ่งมีการจัดชุดและนำมาจัดสรร กระจายให้กับผู้ค้ารายย่อยหรือดาวน์ไลน์ต่าง ๆ กว่า 39,000 ร้านค้า ทำให้ราคาสลากที่ลงไปแต่ละดาวน์ไลน์ จะมีราคาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งตำรวจจะมีการตรวจสอบเพิ่มเติมว่า สาเหตุที่ปิดบังบาร์โค้ด มีการนำสลากมาวนจำหน่ายหรือไม่ หากกระทำลักษณะนี้ อาจเข้าข่ายร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ก็จะเข้ามูลฐานความผิดฐานฟอกเงิน จะนำไปสู่การยึดทรัพย์ต่อไป รวมทั้ง ตรวจสอบว่า มีการจัดชุดแทนสำนักงานสลากฯ หรือไม่ และการกระทำผิดอื่น เพิ่มเติมหรือไม่
โดยแนวทางแก้ไขเบื้องต้น ตำรวจจะเสนอไปยังกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส เสนอศาลปิดเว็บไซต์และแพลตฟอร์มทั้งหมด เมื่อไม่มีการจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์แล้ว การจำหน่ายสลาก ก็จะเข้าสู่ระบบเดิม ทำให้กลไกราคาเป็นไปตามปกติ
ด้าน รองผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า ปัจจุบันผู้ค้ารายย่อย จะได้รับการจัดสรรให้ผู้แทนจำหน่ายรายละ 5 เล่ม หากมีผู้กระทำผิดเงื่อนไขกับสำนักงานสลากฯ ก็จะถูกตัดสิทธิ ไปให้ผู้แทนรายอื่น โดยขณะนี้ มีการตัดโควต้าผู้ค้ารายย่อยที่จำหน่ายกับบริษัท มังกรฟ้าฯ ไปแล้ว ประมาณ 9,000 ราย ซึ่งหากไม่ได้กระทำผิดจริง ก็เปิดโอกาสให้ยื่นอุทธรณ์ เพื่อตรวจสอบข้อมูลได้ พร้อมยืนยันว่า สำนักงานสลากฯ จะเร่งแก้ปัญหาด้วยการเอาน้ำเสียออกก่อน เพื่อเอาน้ำดีเข้ามาแทน รวมทั้ง ขยายช่องทางจำหน่ายสลากผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ราคา 80 บาท เพื่อแก้ปัญหาราคาสลากแพง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี