"บิ๊กป้อม"ลุยสั่งระดมทุกหน่วย แก้ปัญหายาเสพติด เร่งฟื้นฟูทั้งระบบ ย้ำ"ผู้ติดยาคือผู้ป่วย" ร่วมมือ"คืนคนดีสู่สังคม"
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 6 พฤษภาคม 2565 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงาน เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติด ในสถานการณ์โควิด-19 ได้เรียกประชุมคณะกรรมการฯ พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อหารือและสั่งการ เตรียมดำเนินการช่วยเหลือผู้ติดยาเสพติด ในภาวะวิกฤติการแพร่ระบาดของโควิด-19 ณ อาคารอเนกประสงค์ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม (ศรีสมาน)
ทั้งนี้ ได้มีคำสั่ง สำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 20/2565 ลง 20 ม.ค.65 แต่งตั้ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะกรรมการประสานงาน เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติด ในสถานการณ์โควิด-19 โดยให้มีการประชุมเตรียมการอย่างต่อเนื่อง ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรการกุศลต่างๆ เพื่อกำหนดแนวทางการให้ความช่วยเหลือ ผู้ติดยาเสพติด ให้ครอบคลุมทั้งระบบกระทั่งสามารถกลับคืนสู่สังคมได้ ต่อไป
ก่อนการประชุม พล.อ.ประวิตร ได้เข้าเยี่ยมชมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานของศูนย์รับแจ้ง (สายด่วน) พร้อมทั้งเยี่ยมชมนิทรรศการของส่วนราชการ เอกชน และองค์กรการกุศลต่างๆ รวม 17 หน่วยงาน ทั้งนี้ ยังมีภาคประชาสังคมจิตอาสา ซึ่งให้ความสำคัญเข้าร่วมโครงการนี้ด้วยอย่างพร้อมเพรียงกัน
ในการประชุมครั้งนี้ คณะกรรมการฯ ได้รับทราบการดำเนินงานเพื่อเตรียมความพร้อม ได้แก่ แนวทางกระบวนการ แก้ไขปัญหายาเสพติด ตั้งแต่ การดำเนินงานของศูนย์รับแจ้ง (สายด่วน) อาทิ สายด่วน 1567 ศูนย์ดำรงค์ธรรม , ศูนย์วิทยุตำรวจ 191 , สายด่วน ป.ป.ส. 1386 และสายด่วน 1669 การแพทย์ฉุกเฉิน เป็นต้น ซึ่งมีบริการตลอด 24 ชม.และการรับตัวผู้ป่วย เดินทางไปเข้ารับการบำบัด รักษา ฟื้นฟู การฝึกอบรมและส่งเสริมอาชีพ อย่างครบวงจร ก่อนการส่งคืนสู่สังคมต่อไป
จากนั้น คณะกรรมการฯ ได้มีการพิจารณาเห็นชอบแนวทางการบูรณาการช่องทางการให้บริการของศูนย์บริการบำบัดรักษายาเสพติด ได้แก่ ขั้นตอนการรับตัวผู้ป่วย การอำนวยความสะดวก แก่ผู้สมัครใจบำบัดรักษา โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ จัดตั้ง "ศูนย์บริการรับ-ส่ง ผู้ขอเข้ารับการบำบัดรักษายาเสพติด" และพื้นที่ กทม.ให้ศูนย์บริการสาธารณสุขที่เป็นศูนย์คัดกรองติดต่อภาคีเครือข่ายภาคเอกชน จัดบริการรถรับ - ส่งผู้ขอเข้าบำบัด ยาเสพติด และเห็นชอบแนวทางการดำเนินงานด้านการบำบัด รักษา และฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายและจิตใจ ของศูนย์คัดกรอง โดยมีการเชื่อมต่อกับระบบแจ้งเหตุด่วน และรับการบำบัด รักษา และนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ มาสนับสนุนการแจ้งเตือนด้วย รวมถึงกระบวนการบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติดโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน (CBTx) โดยมุ่งให้ชุมชนหรือหมู่บ้าน เป็นศูนย์กลางการแก้ปัญหา (One stop service) รวมทั้งได้มีมติเห็นชอบ แนวทางการดำเนินงานของศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคมอีกด้วย เพื่อให้ผู้ติดยาเสพติด ซึ่งถือว่าเป็นผู้ป่วย เมื่อได้รับการรักษา ฟื้นฟู และเยียวยาตามขั้นตอนแล้ว จะสามารถกลับคืนสู่ความอบอุ่นในครอบครัว ชุมชน และสังคมได้ในที่สุดต่อไป
พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวชื่นชมทุกหน่วยงาน โดยเฉพาะภาคเอกชน องค์กรการกุศล จิตอาสาประชาชน ที่ให้ความสำคัญในการเตรียมความพร้อม และร่วมมือ สนับสนุนกับภาครัฐ ที่จะช่วยเหลือผู้ที่ติดยาเสพติดที่ผ่านมา เพื่อไม่ให้เป็นการซ้ำเติมจากภาวะวิกฤติการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในครั้งนี้ ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ยังได้กำชับสั่งการกระทรวงต่างๆ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ให้เร่งดำเนินการตามแผนงาน มีการบูรณาการทำงานอย่างใกล้ชิด และประสานสอดคล้องกัน ควบคู่การประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ความเข้าใจประชาชน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรม นั่นคือ "คืนคนดีกลับสู่สังคม" เพราะผู้ติดยาเสพติด ก็คือ "ผู้ป่วยที่มีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เช่นกัน" ที่จะต้องได้รับการดูแลรักษาอย่างดีที่สุด ซึ่งสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของรัฐบาล ที่จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังโดยเด็ดขาด
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี