เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2565 ผศ.ดร.ศิรดล ศิริธร อาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึงกรณีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของประชาชนเกี่ยวกับถนนหนทางในหลายพื้นที่ ซึ่งแม้จะซ่อมแซมแล้วแต่ก็ยังมีสภาพไม่เรียบ เป็นหลุมร่องบ้าง เนินนูนบ้าง จนเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุโดยเฉพาะกับผู้ใช้จักรยานยนต์ ว่า ถนนนั้นมี 2 แบบ คือถนนคอนกรีต กับถนนยางมะตอยหรือแอสฟัสต์ (Asphalt)
โดยการก่อสร้างถนนคอนกรีตจะใช้งบประมาณสูงกว่าถนนยางมะตอย แต่ข้อดีคือมีความทนทานสูง ไม่ต้องซ่อมแซมบ่อยๆ จึงเหมาะสมกับพื้นที่ที่มีการจราจรหนาแน่น เช่น ในกรุงเทพมหานคร (กทม.) แต่ก็มีข้อเสียคือเมื่อจะซ่อมกันทีขั้นตอนค่อนข้างยุ่งยาก เนื่องจากต้องตัดแผ่นคอนกรีตแล้วยกออก มีการเทปูนประสาน ไม่ต่างจากการก่อสร้างอาคาร ซึ่งต้องใช้เวลาพอสมควร คำถามคือผู้ขับขี่ยานพาหนะในกรุงเทพฯ รอไหวหรือไม่
“ปิดถนนซ่อม ปิดนานขนาดไหน ปิดไม่ไหว เราก็เลยใช้วิธีเอายางมะตอยหรือแอสฟัสต์มาช่วยในการซ่อม แทนที่จะซ่อมดีๆ ทีเดียว เราก็จะซ่อมแบบชั่วคราว มันก็จะมีเทคนิคต่างๆ ในการซ่อม เอายางมะตอยมาอุดตามรอยที่มันแตก หรือไม่ก็ผสมยางมะตอยร้อนมาโปะเอาไว้ อะไรทำนองนั้น มันก็จะมีหน้าตาแบบนี้ หรือไม่บางทีก็เอายางมะตอยมาราดทับตัวคอนกรีตเข้าไปอีกทีหนึ่ง ทีนี้ยางมะตอยแป๊บเดียวมันก็แห้ง มันก็เปิดใช้ได้เลย แต่การทำแบบนั้นมันก็เหมือนเป็นการทำชั่วคราว แต่เราทำกันจนเหมือนเป็นวิธีการทำโดยถูกต้องกันไปแล้ว” ผศ.ดร.ศิรดล กล่าว
ผศ.ดร.ศิรดล กล่าวต่อไปว่า ส่วนที่เห็นว่าเหตุใดบริเวณที่มีการซ่อมถนนบางจุดปรากฏเป็นเนินนูนขึ้นมาไม่เรียบเสมอพื้นถนน อาจเป็นเพราะแต่เดิมจุดนั้นเป็นหลุมลึกลงไป แล้วผู้ซ่อมถนนเห็นว่าเมื่อเทยางมะตอยไปแล้วก็เป็นไปได้ที่ยางมะตอยจะยุบตัวลงไปได้อีกหากเทให้เสมอพื้นถนน เพราะยางมะตอยไม่ใช่วัสดุที่รับน้ำหนักได้มาเมื่อเทียบกับคอนกรีต เมื่อรถแล่นทับมากๆ เข้าก็อาจจะยุบลงไปอีก ก็จะต้องกลับมาซ่อมกันใหม่อีก จึงเทแบบเผื่อไว้
ส่วนถนนประเภทที่สร้างด้วยยางมะตอยจริงๆ การก่อสร้างต้องใช้วิถีถมความหนาเข้าสู้ แต่ข้อเสียคือหากเจอน้ำซึมก็จะเกิดรอยแตก โดยมากแล้วการก่อสร้างถนนยางมะตอยจึงมักเป็นถนนสายรอง ซึ่งกรุงเทพฯ หรือประเทศไทย โอกาสเจอน้ำท่วมมีได้ตลอดเวลา โดยเป็นรอยแตกลักษณะลวดลายแบบหนังจระเข้ (Crocodile Crack) น้ำที่ซึมเข้าไปทำให้ดินที่รองอยู่ด้านล่างไหลออก ถนนจึงเกิดรอยแตกและทรุดตัว จนกลายเป็นหลุมบ่อในที่สุด สำหรับวิธีซ่อมแซมอย่างรวดเร็วคือการเทยางมะตอยกลบลงไป
“ถ้าทำดีๆ มันต้องมานั่งดูว่าน้ำมันเข้าไปอย่างไร มันจะต้องไปบล็อกน้ำ ต้องไปอะไรพวกนี้ ซึ่งก็อีกนั่นแหละ เราก็จะหงุดหงิดหน่อยเวลาที่มันใช้เวลานานๆ เลย เขาก็จะใช้อย่างนี้ เอาแอสฟัลต์กลบ ทีนี้มันก็จะมีเทคนิคหลายๆ เทคนิค ถ้ามันเป็นหนักก็จะต้องทำซีล (Seal-ปิดผนึก) แบบหนึ่ง ถ้ามันเป็นน้อยๆ ก็ทำซีลอีกแบบหนึ่ง ซีลก็คือเหมือนเอาแอสฟัลต์ไปอุดรอยตามที่ต่างๆ เป็นเหตุผลที่ทำไมเราจะเห็นแปะๆ ไป จริงๆ หลักๆ มันคือวิธีการทำให้เร็ว เพื่อสามารถเปิดถนนให้ใช้ได้เร็วที่สุด” ผศ.ดร.ศิรดล ระบุ
ผศ.ดร.ศิรดล ยังกล่าวอีกว่า เช่นเดียวกับการตีเส้นจราจร หากใช้เพียงการทาสีอย่างเดียวไม่นานสีก็หลุดร่อน จึงใช้วิธีทำให้เป็นร่องลงไป เพื่อให้สีลงไปเติมร่องนั้นจนเต็มโดยหวังให้สีอยู่กับถนนได้นาน ซึ่งปัญหาก็จะวนกลับมาที่จดุเดิม คือหากจะทำให้ดีก็ต้องปิดการจราจรเป็นเวลานาน จึงต้องรีบซ่อมให้เสร็จโดยเร็วเ รวมถึงคนตรวจสอบก็ต้องเร่งตรวจสอบให้เร็ว พื่อเปิดการจราจรให้เร็วที่สุด แต่เปิดแล้วปลอดภัยมาก-น้อยเพียงใดนั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ทั้งนี้ เมื่อไปดูต่างประเทศ เช่น เกาะฮ่องกง เมื่อจะมีการก่อสร้างหรือซ่อมแซมถนนหรือทางเท้า จะมีการวางแผนละเอียดมาก อาทิ ต้องวางกรวยกี่จุด ติดตั้งไฟกี่จุด อีกทั้งหากจำเป็นต้องรบกวนพื้นที่ทางเท้า ก็จะต้องวางแผนสร้างพื้นที่ให้คนเดินเท้าสามารถสัญจรได้อย่างสะดวกในระหว่างการก่อสร้างด้วย อนึ่ง สำหรับพื้นที่ต่างจังหวัดตนไม่ค่อยมีข้อมูลมากนัก แต่ก็เชื่อว่าขึ้นอยู่กับงบประมาณและความเอาจริงเอาจังในการตรวจสอบ
“คู่มือการบำรุงรักษาถนนมันมีอยู่ทุกระดับ ตั้งแต่กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท แขวงทาง เทศบาล แล้วก็ กทม. จะเป็นสำนักโยธา เขามีคู่มือทุกๆ ที่ หรือถ้าไม่ใช้คู่มือก็มีคู่มือกลางของกรมทางหลวงหรือกรมทางหลวงชนบท ว่าถ้าเกิดการพังแบบนี้ให้ทำอย่างไร แต่ทีนี้การจ้าง หลักการประกวดราคาตามสัญญาการจ้าง ในรายละเอียดมันก็คงหลากหลาย คู่มือก็คือเรื่องหนึ่ง แต่การเขียนทีโออาร์ (TOR) หรือเขียนข้อกำหนด หรือขอบเขตของงานมันก็อีกเรื่องหนึ่ง แล้วแต่ว่าใครเขียนอะไร” ผศ.ดร.ศิรดล กล่าว
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี