เด็ดปีกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ‘บิ๊กโจ๊ก’เปิดสถิติจับอื้อ 'ผบ.ตร.-รองฯรอย'ประสานเขมรล่าไม่ปล่อย
10 พฤษภาคม 2565 พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. และรองผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (รอง ผอ.ศพดส.ตร.) เปิดเผยว่า จากกรณี 2 สาวไทยถูกบังคับไปทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ประเทศกัมพูชานั้น (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ‘บิ๊กโจ๊ก’เร่งช่วย 2 สาวไทยเหยื่อแก๊งค้ามนุษย์คอลเซ็นเตอร์ ขู่จะจับโยนให้สิงโตกิน) ล่าสุด พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รองผบ.ตร.และ ผอ.ศพดส.ตร.ได้มอบหมายให้ตน พร้อมด้วย พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบช.ภ.1 , พล.ต.ต.ศุภเศรษฐ์ โชคชัย รอง ผบช.ทท. เจ้าหน้าที่ทหาร ฝ่ายปกครอง NGOs และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เดินทางมารับตัวเหยื่อคนไทยทั้ง 2 คน พร้อมกับคนไทยที่ได้รับการช่วยเหลือเพิ่มเติมอีก รวมเป็น 5 คน โดยเหยื่อทั้งหมดได้เดินทางกลับถึงเมืองไทยอย่างปลอดภัยแล้ว ผ่านจุดตรวจผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยจะได้เข้าสู่กระบวนการคัดแยกเหยื่อ และมาตรการควบคุมโรคต่อไป
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ยังได้ประชุมชี้แจงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อสรุปผลการปฏิบัติการช่วยเหลือคนไทยที่ถูกเครือข่ายค้ามนุษย์หลอกไปทำงานผิดกฎหมายในประเทศกัมพูชา โดยสามารถสรุปผลการปฏิบัติได้ ดังนี้
1.ช่องทางการช่วยเหลือ จุดตรวจถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จว.สระแก้ว จำนวน 13 ครั้ง รวม 721 คน , จุดตรวจถาวรบ้านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จว.ตราด จำนวน 13 ครั้ง รวม 59 คน รวมช่วยเหลือคนไทยแล้วทั้งสิ้น 26 ครั้ง 780 คน
2.การดำเนินคดีในความผิดฐานค้ามนุษย์ ผู้เสียหายที่เป็นเหยื่อจากการค้ามนุษย์ 219 ราย มีการขยายผลดำเนินคดีทั้งหมด 20 คดี ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งสิ้น 82 หมายจับ , 66 ราย เป็นสัญชาติไทย 48 ราย , ต่างชาติ (จีน,กัมพูชา) 18 ราย จับกุมแล้วอายัดผู้ต้องหาแล้ว 33 หมายจับ 27 ราย อยู่ในระหว่างติดตามจับกุม 49 หมายจับ 39 ราย
นอกจากคดีค้ามนุษย์แล้ว ยังมีการขยายผลดำเนินคดี ออกหมายจับและจับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายนำพาคนไทยข้ามแดนไปทำงานผิดกฎหมาย ในประเทศกัมพูชา รวมทั้งสิ้น 37 คดี ออกหมายจับ 107 หมาย ผู้ต้องหา 19 ราย จับกุมแล้ว 30 หมายจับ ผู้ต้องหา 11 ราย คงเหลือ 8 ราย 77 หมายจับ โดยได้มีการดำเนินคดีผู้ต้องหาในฐานความผิดที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
1.ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 320 ผู้ใดใช้อุบายหลอกลวง ขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้าย ใช้อำนาจครอบงำผิดคลองธรรม หรือใช้วิธีข่มขืนใจด้วยประการอื่นใด พาหรือส่งคนออกไปนอกราชอาณาจักร ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สองปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สี่พันบาทถึงสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
2.พ.ร.บ.จัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ.2528 มาตรา 30 ห้ามมิให้ผู้ใดจัดหางานให้คนหางานเพื่อไปทำงานในต่างประเทศ เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนจัดหางานกลาง ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่หกหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา 82)มาตรา 62 คนหางานซึ่งเดินทางออกไปนอกราชอาณาจักรจะต้องเดินทางออกไปโดยผ่านทางด่าน ตรวจคนหางานและต้องยื่นรายการต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามแบบที่อธิบดีประกาศ กำหนด ณ ด่านดังกล่าว ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา 87) มาตรา 66 การโฆษณาการจัดหางานให้เป็นไปตามระเบียบที่รัฐมนตรีกำหนด ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา 88)
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า เหยื่อคนไทยที่ช่วยเหลือออกมาพร้อมกันนี้ ได้มีการประสานการช่วยเหลือร่วมกับเจ้าหน้าที่กัมพูชามาอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. ประชุมหารือแนวทางปฏิบัติร่วมกันกับ ผบ.ตร.ประเทศกัมพูชา เพื่อกวาดล้างกลุ่มขบวนการคอลเซ็นเตอร์ และมีการจับกุมผู้เกี่ยวข้องมาแล้วจำนวนมาก ขณะเดียวกันได้มีการออกหมายจับและจับกุมผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นกลุ่มนายหน้า และผู้นำพาคนไทยลักลอบข้ามพรมแดนโดยผิดกฎหมาย รวมทั้งกลุ่มที่ใช้สื่อโซเชียลในการประกาศรับสมัครงานโดยไม่ได้รับอนุญาตจากกรมการจัดหางาน และหลอกลวงเหยื่อไปทำงานผิดกฎหมายในประเทศเพื่อนบ้านด้วย แม้ว่าผู้ต้องหาที่เหลือจะหลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้าน แต่จะได้มีการประสานงานกับเจ้าหน้าที่กัมพูชา เพื่อนำตัวกลับมาดำเนินคดีตามกฎหมายที่ประเทศไทยอย่างแน่นอน
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี