'บิ๊กหิน'นำทีมทลายแก๊ง‘โรแมนซ์สแกม’กลางโรงแรมเชียงใหม่ แฉพฤติการณ์แสบ แบ่งงานลวงรัก-ลงทุน-เชิดเงิน จับตา 2 จังหวัดภาคเหนือ'เชียงใหม่-เชียงราย'แหล่งซ่อนตัวขบวนการคนร้ายข้ามชาติ เตรียมเวิร์คช็อป-แลกเปลี่ยนข้อมูล มิ.ย.นี้
19 พฤษภาคม 2565 พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปชก.ตร) พร้อมด้วย พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 , พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ , พล.ต.ต.ศุภณัฎฐ์ เจริญเรืองสกุล ผบก.ตม.5 พร้อมด้วยชุดสืบสวน ศปชก.ภ.จว.เชียงใหม่ ร่วมแถลงผลการบุกทลายขบวนการหลอกลงทุนออนไลน์ Hybrid Scam จับกุมผู้กระทำผิดทั้งไทยและต่างชาติ 24 คน กลางรีสอร์ทหรู เชียงใหม่
พล.ต.อ.วิสนุ เปิดเผยว่า จากข้อสั่งการของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. มอบหมายให้ ศปชก.ตร. เร่งสืบสวนกวาดล้างขบวนการคนร้ายต่างชาติในพื้นที่ท่องเที่ยวต่างๆทั่วประเทศ เพื่อรองรับการเปิดประเทศตั้งแต่ 1 พ.ค.2565 เป็นต้นมา ซึ่งชุดสืบสวน ศปชก.ภ.จว.เชียงใหม่ ได้สืบสวนหาข่าวจนพบพฤติการณ์คนไทยและคนต่างชาติมีการรวมตัวเช่าที่พัก มีพฤติกรรมที่เป็นพิรุธผิดปกติ จึงได้นำหมายค้นศาลจังหวัดฝาง นำทีมชุดปฏิบัติการเข้าตรวจค้นโรงแรมในพื้นที่หมู่ 7 ต.แม่สูน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่
จากการตรวจค้นพบคนไทยและต่างชาติ 24 คน เป็นชาย 22 คน และหญิง 2 คน ทั้งหมดเป็นคนสัญชาติจีน 20 คน นอกนั้นเป็นคนท้องถิ่นในพื้นที่ 4 คน ทุกคนกำลังทำงานพร้อมของกลางเครื่องคอมพิวเตอร์โน๊ตบุค 10 เครื่อง จอคอมพ์ 10 จอ ซีพียูคอมพ์ 10 เครื่องและ โทรศัพท์มือถือ 224 เครื่อง ซิมการ์ด 6 อัน และ แฟลซไดร์ฟ 2 อัน ใช้ผ่านสัญญาณอินเตอร์เน็ต
จากการตรวจสอบพบว่ามีการสร้างบัญชีผู้ใช้ปลอมในแอพลิเคชั่นหาคู่ต่างๆ และแอพลิเคชั่นไลน์ เป็นชื่อที่สมมติขึ้นมาเอง และใช้ภาพโปรไฟล์หญิงสาวสวยที่หามาจากช่องทางออนไลน์ เพื่อสนทนาหลอกลวงเหยื่อ ทั้งคนไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่น จากนั้นได้มีการสนทนาหว่านล้อม เพื่อหลอกให้เหยื่อตกหลุมรักหรือไว้วางใจ แล้วจะวางกลอุบายให้เหยื่อร่วมลงทุนโดยให้เปิดบัญชีในแอพลิเคชั่น metatrader เพื่อเข้าสู่กระบวนการหลอกเอาเงินมาลงทุน มีทีมที่สร้างข้อมูลบนแพลตฟอร์มที่สร้างปลอมขึ้นมา เพื่อหลอกให้ผู้เสียหายหลงเชื่อว่ามีการเทรดเงินได้จริง เมื่อผู้เสียหายหลงโอนเงินลงทุน ก็ตัดขาดการติดต่อ สูญเงินฟรี
พล.ต.อ.วิสนุ ระบุว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพว่าพวกตนจะได้ค่าตอบแทนจากการทำงานดังกล่าวจำนวน 25,000-35,000 บาท ต่อเดือน และได้เช่าเหมาพักอาศัยในรีสอร์ทที่เกิดเหตุ โดยจะมารวมตัวกันทำงานที่อาคารออฟฟิศด้านหลังที่พักดังกล่าว ตั้งแต่เวลา 09.00-21.00 น. ในวันจันทร์-ศุกร์ และเวลา 12.00 – 17.00 น. ในวันเสาร์-อาทิตย์
เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหา ว่า “สมคบกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปเป็นซ่องโจรเพื่อร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น , ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” และแจ้งข้อหาเพิ่มเติมในส่วนผู้ต้องหาชาวจีนว่า “เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือการอนุญาตสิ้นสุด”
พล.ต.อ.วิสนุ กล่าวว่า ได้กำชับให้ ศปชก.ภ.5 และ ศปชก.ภ.จว.เชียงใหม่ เร่งขยายผลให้ถึงกลุ่มนายทุน เพื่อดำเนินการจับกุมแบบขุดรากถอนโคนต่อไป ทั้งนี้ ในส่วนของผู้ต้องหาชาวจีนทั้ง 20 คน ได้สั่งการให้ตรวจสอบการเข้าออกราชอาณาจักร และการขอวีซ่าของกลุ่มผู้ต้องหาชาวจีน เพื่อตรวจสอบเส้นทางความเชื่อมโยงของผู้ต้องหาและเครือข่ายขบวนการที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการทางกฎหมายต่อไป
“ในพื้นที่ภาคเหนือ โดยเฉพาะ จ.เชียงใหม่ เชียงราย เป็นพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการแฝงตัวของคนร้ายข้ามชาติ เนื่องจากเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักของภาคเหนือ ซึ่งในช่วงเดือน มิ.ย. นี้ จะจัดเสวนาเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการด้านคนร้ายข้ามชาติในพื้นที่ ภ.5 และ เจ้าหน้าที่ ศปชก.ตร.ส่วนกลาง เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าว และสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับแนวโน้มการเคลื่อนไหวของอาชญากรรมข้ามชาติในพื้นที่ เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการป้องกันปราบปรามทันรองรับการเปิดประเทศของรัฐบาลต่อไป” พล.ต.อ.วิสนุ กล่าว
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี