หลักฐานชัด!รู้ตัวมือฆ่า‘หมวดบอล’ ดีเอสไอ-ตร.ภาค4 จ่อออกหมายจับยกแก๊ง
ความคืบหน้ากรณี ร.ท.รุ่งเฉลิม พันธุ์สวัสดิ์ หรือ “หมวดบอล” ตำแหน่งรองผู้บังคับหมวดดุริยางค์ มณฑลทหารบกที่ 210 (มทบ.210) ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตเมื่อวันที่ 10 ก.พ.64 เวลาประมาณ 19.30 น. เหตุเกิดที่ มทบ.210 ค่ายพระยอดเมืองขวาง ต.กุรุคุ อ.เมือง จ.นครพนม ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ (30 มิ.ย.65) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เผยแพร่เอกสารข่าวรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีดังกล่าว โดยระบุว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) อยู่ระหว่างการสืบสวนกรณี “หมวดบอล” ร้อยโท รุ่งเฉลิม พันธุ์สวัสดิ์ รองผู้บังคับหมวดดุริยางค์ มณฑลทหารบก ที่ 210 (มทบ.210) ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิต ในค่ายพระยอดเมืองขวาง ตำบลกุรุคุ อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2564 เวลาประมาณ 19.30 น. ว่ามีเหตุสมควรเสนอคณะกรรมการคดีพิเศษมีมติรับเป็นคดีพิเศษ ตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547 หรือไม่ ซึ่งการสืบสวนมีความคืบหน้าเป็นระยะดังที่ปรากฏข่าวแล้วนั้น
ต่อมานายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะผู้กำกับดูแล ได้สั่งการให้ นายมเหสักข์ พันธ์สง่า ผู้อำนวยการกองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค นายวรพจน์ ไม้หอม รองผู้อำนวยการกองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค ร.ต.ท.เสฎฐวุฒิ สายป้อง ผู้อำนวยการสถาบันการสอบสวนคดีพิเศษ และ คณะพนักงานสืบสวน ร่วมประชุมกับคณะพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองนครพนม ตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม และชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 4 เพื่อแจ้งความคืบหน้าและประสานข้อมูลการสืบสวนระหว่างหน่วยงาน และร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารมณฑลทหารบกที่ 210 ค่ายพระยอดเมืองขวาง จำลองเหตุการณ์และเส้นทาง
ทั้งนี้ จากการสืบสวนเชื่อว่าเป็นเส้นทางในการหลบหนีของคนร้าย โดยผลการสืบสวนสอดคล้องต้องกันว่าคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุครั้งนี้ มีไม่ต่ำกว่า 2 คน มีการวางแผน สร้างเรื่องอำพราง แบ่งหน้าที่ชี้เป้า โดยสะกดรอยติดตามรถผู้ตาย ตั้งแต่ก่อนเข้าค่ายจนถึงจุดเกิดเหตุภายในค่าย และมีการจ้างวานให้คนร้ายอีกคนขับขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบรถจักรยานยนต์ของผู้ตาย โดยให้ขับหลบหนีหลังก่อเหตุเพื่อให้เข้าใจว่าเป็นผู้ลงมือยิง เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของพยานในที่เกิดเหตุ
จากนั้นเปิดโอกาสให้คนร้ายอีกคนที่เป็นผู้ลงมือยิงผู้ตายหลบหนีซึ่งได้ใช้อีกเส้นทางหนึ่ง และมีบุคคลภายนอกที่เข้ามาพักอาศัยในค่ายในวันเกิดเหตุ ช่วยเหลือคนร้ายหลบหนี ซึ่งหลังจากนี้จะได้ประสานข้อมูลเพื่อยื่นคำร้องต่อศาลออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีต่อไป
สำหรับกรณีดังกล่าวเป็นการทำงานแบบบูรณาการ ระหว่างพนักงานสอบสวนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฝ่ายสืบสวน และคณะพนักงานสืบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษที่มีประสิทธิภาพ อันเป็นวิธีการทำงานภายใต้พระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษพ.ศ. 2547 ที่มุ่งร่วมกันใช้ทรัพยากรของรัฐในการปราบปรามอาชญากรรมสำคัญ
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี