DE ร่วมกับตำรวจ PCT ประสานกัมพูชา ลุยค้น 5 จุด‘เมืองพระสีหนุ’ ทลาย 4 แก๊งใหญ่คอลเซ็นเตอร์ รวบผู้ต้องหา 74 คน ส่งกลับไทยดำเนินคดี
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 11 กรกฎาคม 2565 ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) หรือตำรวจ PCT เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจาก พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ให้เดินทางมาพร้อมกับคณะของนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (รมว.ดีอีเอส) เพื่อร่วมหารือและทำบันทึกความเข้าใจ (MOU) ในการแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์และอาชญากรรมาทางไซเบอร์ แบบทวิภาคีกับรัฐบาลกัมพูชา รวมทั้งติดตามผลการปฏิบัติการจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 4 แก๊งใหญ่ ผู้ต้องหา 74 คน เพื่อนำตัวไปดำเนินคดียังประเทศไทยต่อไป
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้ส่งชุดปฏิบัติการ PCT จำนวนกว่า 20 นาย ชุดที่ 1 นำโดย พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.ภ.8/หน.ชุดฯ, พล.ต.ต.ธนิต ไทยวัชรามาศ ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชย พานะกิจ ผกก.สอบสวน บก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชิตเดชา สองห้อง ผกก.1 บก.สส.สตม. และชุดที่ 5 นำโดย พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธี ผบก.สส.ภ.2/หน.ชุดฯ, พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง ผกก.สอบสวน กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.ภ.2, พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.สืบสวน ภ.จว.ระยอง พร้อมกำลังเข้ามาประสานงานกับตำรวจกับพูชาเพื่อให้ช่วยติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ จนนำไปสู่ปฏิบัติการเข้าตรวจค้นจำนวน 5 จุด
จุดที่ 1 เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.65 ที่เมืองพระสีหนุ โรงแรมจิงเฉิง อาคาร 12 ชั้น ถ.สองธนู จับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จำนวน 21 หมายจับ ใช้รูปโปรไฟล์คนหน้าตาดีผ่านแอปพลิเคชั่นหาคู่ Tinder หลอกลวงให้หลงรัก และชวนลงทุนใน MetaTrader 5 (ฟอเร็กซ์) หรือซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล โดยจะให้ทำการเทรด การวิเคราะห์ทางเทคนิค ตามคำแนะนำ และชักชวนให้ลงทุนกับโบรกเกอร์ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อหลอกให้ลงเงินแต่ไม่มีการลงทุนจริง
จุดที่ 2 วันเดียวกัน ที่เมืองพระสีหนุ คาสิโนโป๋ไหล ถ.ปุโลไว 300 ไม่พบผู้ต้องหา
จุดที่ 3 เมื่อวันที่ 6 ก.ค.65 ที่เมืองพระสีหนุ ประตูแดง จับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จำนวน 18 หมายจับ อยู่ระหว่างการพิสูจน์ทราบตัวบุคคล ที่น่าสนใจสามารถจับกุมตัวนายจิรายุ แอบอ้างเป็น ผกก.สภ.แหลมฉบัง ซึ่งถือเป็นผู้ต้องหาสำคัญในคดี
จุดที่ 4 วันเดียวกัน ที่เมืองพระสีหนุ จับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกให้กู้เงินออนไลน์ จำนวน 10 หมายจับ
จุดที่ 5 วันที่ 7 ก.ค.65 ที่เมืองปอยเปต จับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้างเป็นบริษัทส่งพัสดุ DHL มีจำนวน 25 หมายจับ
ทั้งนี้ รวมจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ 74 คน โดยขณะเข้าตรวจค้นพบคนไทยกำลังทำงานร่วมกับกลุ่มผู้ต้องหา จึงได้นำตัวออกมาสอบสวนดำเนินคดีอีกจำนวน 15 คน รวมควบคุมตัวทั้งสิ้น 89 คน
รอง ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า การจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ทั้ง 4 แก๊งนี้ ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ผู้ช่วยทูตตำรวจ และตำรวจกัมพูชา โดยวันนี้เป็นการเดินทางมาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจกัมพูชาเท่านั้น เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งหมดยังอยู่ระหว่างการดำเนินคดีตามกฎหมายกัมพูชา เช่นกฎหมายคนเข้าเมือง ซึ่งเมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการแล้ว ทางกัมพูชาก็จะส่งตัวผู้ต้องหาทั้งหมดให้กับไทย ซึ่งตนและเจ้าหน้าที่ PCT จะเดินทางมารับตัวที่ จ.สระแก้ว เพื่อนำตัวไปสอบสวนดำเนินคดีต่อไป ที่ผ่านมาเราสามารถออกหมายจับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้จำนวน 237 หมายจับ จับกุมได้แล้ว 138 หมาย และอยู่ระหว่างประสานงานติดตามจับกุมอีก 99 หมาย
ผอ.PCT กล่าวว่า การป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางออนไลน์ โดยเฉพาะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และการหลอกลงทุน (Hybrid Scam) เป็นนโยบายเร่งด่วนของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เนื่องจากเป็นปัญหาที่สร้างความเสียหายให้กับประชาชนอย่างมากในขณะนี้ โดยมอบหมายให้ MDEs และ ตร. ร่วมกันหามาตรการป้องกันและปราบปรามอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ทั้งนี้ ประชาชนสามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ สายด่วน บช.สอท. 1441 หรือ ศูนย์ ศปอส.ตร. 081-8663000 ผู้เสียหายสามารถแจ้งความผ่านระบบออนไลน์ได้ที่ www.thaipoliceonline.com นอกจากนี้ยังได้จัดทำรูปแบบแผนประทุษกรรมของคนร้าย เพื่อให้ประชาชนรับรู้ โดยสามารถเข้าไปติดตามได้ที่ www.pctpr.police.go.th
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี