27 ก.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 26 ก.ค.ที่ผ่านมา นพ.ณรงค์ สายวงศ์ รองปลัด สธ. ลงนามในหนังสือด่วนที่สุด ที่ สธ ๐๕๑๓.๐๓/๒๕๖๖ เรื่อง การดำเนินคดีกับผู้ไม่ขออนุญาตศึกษาวิจัย หรือส่งออกสมุนไพรควบคุม หรือจำหน่าย หรือแปรรูปสมุนไพรควบคุมเพื่อการค้า ถึง ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมีสาระสำคัญเพื่อขอแจ้งให้ สตช. ร่วมกับพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ.2542 ดำเนินการจับกุมและดำเนินคดีกับบุคคลหรือนิติบุคคลใดที่ไม่ดำเนินการตามมาตรา 46 ในกรณีดังต่อไปนี้ 1.ไม่ขออนุญาตศึกษาวิจัยกัญชา 2.ไม่ขออนุญาตส่งออกกัญชา 3.ไม่ขออนุญาตจำหน่ายกัญชา 4.ไม่ขออนุญาตแปรรูปกัญชาเพื่อการค้า
ทั้งนี้ ตามบทบัญญัติในมาตรา 3 แห่งพ.ร.บ.คุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ. 2542 แปรรูป หมายความว่า การปรุงแต่งหรือการเปลี่ยนแปลงสภาพหรือคุณสมบัติของสมุนไพร ดังนั้น เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปด้วยความเรียบร้อย กรณีที่บุคคลหรือนิติบุคคลใดไม่ดำเนินการตามมาตรา 46 หากพบการกระทำผิดกรณีไม่ขออนุญาตศึกษาวิจัย ไม่ขออนุญาตส่งออก ไม่ขออนุญาตจำหน่าย ไม่ขออนุญาตแปรรูปกัญชาเพื่อการค้า ต้องดำเนินการจับกุมและดำเนินคดีตามมาตรา 78
ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีนพ.ณรงค์ สายวงศ์ รองปลัด สธ. ส่งหนังสือด่วนที่สุดถึง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรณีดำเนินคดีกับผู้ไม่ขออนุญาตศึกษาวิจัย หรือส่งออกสมุนไพรควบคุมหรือจำหน่าย หรือแปรรูปสมุนไพรควบคุมเพื่อการค้าว่า การใช้กัญชาในไทยชัดเจนว่าเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และสุขภาพ ไม่มีอะไรนอกเหนือจากนี้ ร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ ที่อยู่ในกรรมาธิการ ก็ไม่มีเรื่องสันทนาการ ไม่ต้องมาพูดว่าทำให้สังคมเดือดร้อน มอมเมาเยาวชน เพราะเราห้ามเยาวชนใช้ หากกฎหมายบังคับใช้ไม่ได้ ทำไมเมื่อวานจับถึงมีการเตือนมีการดำเนินคดีคนใช้ในทางที่ผิดวัตถุประสงค์ ทั้งนี้ การทำหนังสือที่ออกมาเป็นการควบคุมการใช้ ช่อ ดอก กัญชา ที่จะนำไปแปรรูป การใช้กัญชาไปทำอย่างอื่น อย่างการนำไปตากแห้งมาใช้มวนบุหรี่ ก็เป็นความผิดแล้ว แล้วยังผิดกฎหมายสรรพสามิตที่มีการแปรรูปเป็นบุหรี่
“ยิ่งเอาทำพันลำ เอาไปขายยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ เพราะหากจะขายช่อดอก จะต้องขออนุญาต ซึ่งเราไม่มีทางอนุญาตขายเพื่อการสูบเสพ อย่าทำให้คนด้อยค่ากัญชา แต่คนที่จะใช้ประโยชน์จากกัญชา เช่น ผู้ป่วยมะเร็ง ทางผู้ประกอบการที่รับออเดอร์ สร้างโรงงานแล้ว ถ้าเลิกตอนนี้อะไรจะเกิดขึ้น เพราะกฎหมายไม่ได้ให้ใช้เพื่อสันทนาการ เป็นกฎหมายพื้นฐาน ทุกคนต้องรู้ จะอ้างว่าไม่รู้ไม่ได้” นายอนุทินกล่าว
เมื่อถามถึงกรณีข่าว "นายทอม เครือโสภณ" นำเข้ากัญชาจากต่างประเทศโดยไม่ได้สำแดงข้อเท็จจริงต่อกรมศุลกากร พร้อมกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงการเป็นเพื่อนกับ รมว.สาธารณสุข เป็นเด็กปั้น มีพรรคภูมิใจไทยอยู่เบื้องหลังนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ความเป็นเพื่อน แต่ไม่ได้แปลว่าจะทำผิดกฎหมายได้ ตรงไหนที่ผิดกฎหมาย หน่วยงานกำกับดูแล เช่น การนำเข้ามีกรมศุลกากร ก็ออกมาแถลงว่ามีการกระทำเข้าข่ายผิดกฎหมายอย่างไรบ้าง มี พ.ร.บ.ควบคุมและกักพืช กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ทั้งนี้ นโยบายกัญชงกัญชาทางการแพทย์ เน้นปลูกและใช้ภายในประเทศ มีคุณภาพดีอยู่แล้ว อย่างน้ำมันกัญชาสารสกัดต่างๆ ที่อยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติก็ปลูกในประเทศ ย้ำว่าตามประกาศที่ให้กัญชาพ้นจากยาเสพติด มีข้อห้ามในการนำเข้าเมล็ดพันธุ์และส่วนประกอบของกัญชาชัดเจน การนำเข้าจะต้องได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งระบุว่านำมาใช้เพื่อวิจัยำพัฒนารักษาผู้ป่วย ใช้ในทางการแพทย์ ใครทำเกินกรอบถือว่าทำผิดกฎหมาย
"กรณีระบุว่าเป็นเด็กปั้น เป็นความพยายามที่จะผูกโยงเรื่องให้เกี่ยวข้องกัน ผมมีเพื่อนทุกวงการ แต่เพื่อนคือเพื่อน หน้าที่คือหน้าที่ ทุกคนต้องรับผิดชอบตัวเอง เพื่อนผมทุกคนเป็นผู้บรรลุนิติภาวะ ก็ห่วงใยอยากเห็นเจริญก้าวหน้า แต่หากทำอะไรนอกเหนือกฎหมายก็ต้องรับผิดชอบตัวเอง เหมือนผมโดนอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพื่อนผมก็ได้แต่ให้กำลังใจ แต่ผมก็ต้องแถลงเอง ดังนั้น เรื่องเด็กปั้นของพรรคภูมิใจไทยก็ไม่ใช่ความจริง เพื่อนผมไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค ตอนทำนโยบายก็เชิญมาให้ความรู้ ความสัมพันธ์กับพรรคก็เป็นวิทยากร" นายอนุทินกล่าว
เมื่อถามถึงกรณี นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายไม่ไว้วางใจ รมว.สาธารณสุข ว่ากำหนด KPI ให้ รพ.ทุกแห่งทำคลินิกกัญชาเพื่อระบายกัญชาออกไปใช้ให้มากๆ นายอนุทินกล่าวว่า เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง เป็นข้อมูลเท็จ ถึงไม่ตอบ ย้ำว่าไม่มีการตั้ง KPI หรือให้หมอต้องมาเอาใจรัฐมนตรีเจ้าของนโยบาย ให้เลิกใช้ยาสมัยใหม่มาใช้ยาจากกัญชา คงไม่มีคนทำได้ เนื่องจากแพทย์ต้องใช้ดุลยพินิจในการตรวจรักษาคนไข้ ดูว่าจำเป็นต้องใช้หรือไม่ และต่อให้มีการสั่งไปท่านปลัดหรือแพะทย์ที่ไหนก็คงไม่ทำตาม
-001
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี