หนุ่มคลั่งวัย 39 ปีสติคืนมาแล้วหลังอาละวาดหนักฆ่าย่าวัย 79 ปีเสียชีวิต เจ้าตัวเผยตอนเกิดเหตุไม่รู้สึกตัว มีอาการเหมือนกำลังเล่นเกมส์เข้าไปทำลายฐานของคู่ต่อสู้อีกฝ่ายและเห็นย่าเป็นคู่ต่อสู้ อยากไปขอขมาศพย่าอยากบอกดวงวิญญาณย่าว่า "ผมขอโทษ" 

วันที่ 31 ก.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบกรณีนายกัสกร (ขอสงวนนามสกุล) หรือโอ๋ อายุ 39 ปีมีอาการโรคประสาทกำเริบใช้มีดพร้าฟันศีรษะนางทองสุข มันทะลา อายุ 79 ปีพี่สาวย่านายโอ๋ จนเสียชีวิต เหตุเกิดที่หมู่ 2 บ้านโนนสูง ต.โนนสูง อ.เมืองอุดรธานี ซึ่งยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้อีก 5 ราย อาการสาหัส 1 ราย คือนางประภาส นาสินสร้อย หรือ ยายเหี่ยว อายุ 70 ปี เพื่อนบ้านที่อยู่ติดกัน ล่าสุดอาการยังโคม่ามีเลือดออกในสมอง ต้องผ่าตัดเพื่อยื้อชีวิต ส่วนคนเจ็บอีก 4 ราย อาการดีขึ้น สามารถกลับบ้านได้ทั้งหมด โดยเฉพาะนางมะลิ วงษ์ชาลี อายุ 77 ปี ย่าแท้ๆ ของนายโอ๋ รีบกลับมาที่บ้านเพื่อจัดพิธีศพให้กับพี่สาวและมาดูแลบ้าน ส่วนนายโอ๋ ตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานีนำตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติม

ส่วนบรรยกาศที่บ้านเกิดเหตุนางมะลิ วงษ์ชาลี และญาติพี่น้องได้เตรียมจัดงานสวดอภิธรรมให้กับนางทองสุข ได้มีการทำความสะอาดพื้นที่โดยรอบ กางเต็นท์ผ้าใบ จัดเตรียมอาหาร พร้อมกับพูดคุยเรื่องงานพิธี รวมถึงจัดเตรียมเอกสารในการไปรับศพออกจาก รพ.อุดรธานี และเอกสารเรื่องฌาปนกิจศพ โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้าและหลายคนยังตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ หลายคนระบุอยากให้นำตัวนายโอ๋ไปรักษาให้หายและดำเนินการตามกฎหมายให้ถึงที่สุด

นางมะลิ เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุหลานมีอาการไม่ปกติตั้งแต่ช่วงเช้าถือเสียมเดินวนไปมารอบบ้าน จึงได้โทรศัพท์บอกภรรยานายโอ๋ ให้รีบกลับมาหายาให้นายโอ๋กินก่อนจะใช้เสียมทำร้ายตน ฟาดเข้าไปที่แขนขวาจนบาดเจ็บ ระหว่างนั้นนางทองสุข พี่สาวตนที่เสียชีวิตกำลังทำกับข้าวอยู่ได้ออกมาช่วยเหลือ จังหวะนั้นหลานสะใภ้ต่อสู้กันกับนายโอ๋ จนได้รับบาดเจ็บดั้งจมูกหัก จากนั้นก็หันมาจะทำร้ายตนอีก 

ตนพอเห็นท่าไม่ดีเลยรีบอุ้มหลานวัย 3 ขวบ ไปหลบในห้องนอน ล็อคประตูอย่างแน่นหนา ระหว่างนั้นก็รีบโทรแจ้งประธานชุมชนให้พาตำรวจมาช่วยเหลือ ก่อนทราบว่าหลานชายออกไปก่อเหตุทำร้ายคนอื่นที่ร้านอาหารตามสั่ง และกลับมาใช้มีดพร้าฟันนางทองสุข พี่สาวของตนเองจนตาย โดยมีนางประภาสฯ หรือเหี่ยว เพื่อนบ้าน ขี่จักรยานผ่านหน้าบ้านก็ถูกทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัสไปด้วย เมื่อวานนี้หากหลานสะใภ้ไม่ต่อสู้ช่วยเหลือคิดว่าตนคงจะถูกนายโอ๋ ฆ่าตายจนหมดทั้งบ้าน 

"เลี้ยงหลานคนนี้มาตั้งแต่เล็ก หลานเรียกฉันและพี่สาวที่ตายว่าแม่ มีช่วงหนึ่งที่แม่เขาเอาไปเลี้ยงที่ร้อยเอ็ด ไม่นานก็กลับมาอยู่กับย่าที่บ้านหลังนี้อีก ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุรุนแรงแบบนี้ขึ้นในครอบครัว อยากบอกหลานว่าอย่าคิดทำแบบนี้อีก อย่าคิดว่าไม่มีคนรัก มาอยู่กับย่า ย่าก็รัก หาข้าวหาน้ำให้กิน ดูแลทุกอย่าง ไม่มีเงินก็หาให้ใช้ อยากให้นำตัวหลานไปรักษาให้หายปกติ ก็ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายไปให้ถึงที่สุด"

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับนายเจตนิพัทธ์ อักษร หรือเติ้ล อายุ 32 ปี หลานของนางประภาส นาสินสร้อย หรือยายเหี่ยว เพื่อสอบถามอาการล่าสุดของยายเหี่ยว นายเจตนิพัทธ์ เปิดเผยว่า บ้านของครอบครัวตนมี 2 หลัง หลังที่ติดกับบ้านที่เกิดเหตุ เป็นบ้านที่ยายเหี่ยวพักอาศัยอยู่ และตนเปิดเป็นสำนักงานขนส่งพัสดุ วันเกิดเหตุยายเหี่ยวก็ออกไปเลี้ยงวัวตามปกติตั้งแต่ช่วงเช้า ก่อนกลับเข้าบ้านและจะออกไปอีกครั้ง ซึ่งมีภาพจากกล้องวงปิดหน้าบ้านบันทึกภาพช่วงเกิดเหตุไว้ได้ พอได้ยินเสียงเอะอะโวยวายตนก็วิ่งออกไปดูเหตุการณ์ ก่อนนำร่างของยายเหี่ยวไปขึ้นรถกระบะไปส่งโรงพยาบาล ซึ่งจอดอยู่บ้านอีกหลังในซอยถัดไป 

ล่าสุดอาการยายเหี่ยวยังวิกฤติหมอบอกว่า 50 - 50 มีอาการเลือดออกในสมอง ต้องผ่าตัด ส่วนนิ้วที่ขาด 3 นิ้ว หมอทำการต่อไว้แล้ว แต่ไม่รู้จะเชื่อมติดได้เหมือนเดิมหรือไม่ ตกใจและเสียใจมากที่เกิดเรื่องขึ้น

เมื่อเวลา 13.00 น.วันเดียวกัน ที่ สภ.เมืองอุดรธานี ตำรวจชุดสอบสวนได้นำตัว นายโอ๋ มาสอบปากคำเพิ่มเติม โดยระหว่างที่ออกมาจากห้องควบคุม นายโอ๋ ได้พูดกับผู้สื่อข่าวว่า ตนไม่รู้สติกับเหตุการณ์เมื่อวานที่ตนทำอะไรลงไปและจำอะไรไม่ได้เลย ในตอนนี้รู้ว่าย่าทองสุข เสียชีวิตแล้ว ความรู้สึกของตนในตอนนี้รู้สึกเสียใจ เมื่อวานนี้ตนก็ยังกินยาอยู่ แต่ได้เกิดอาการขึ้นมาในลักษณะเหมือนตนเองเล่นเกมส์เข้าไปทำลายฐานของคู่ต่อสู้อีกฝ่ายหนึ่ง ตอนนั้นเห็นย่าเป็นคู่ต่อสู้ แต่ตนก็อยากไปขอขมาศพย่าอยากบอกดวงวิญญาณย่าว่า "ผมขอโทษ" - 003