ไทยพบหญิงวัย22ป่วย‘ฝีดาษลิง’
ติดเชื้อรายที่4
จากสถานบันเทิงในกทม.
กักตัว2คน/เร่งตามกลุ่มเสี่ยง
สหรัฐประกาศภาวะฉุกเฉิน
กรมควบคุมโรค เผยไทยพบผู้ป่วยยืนยัน ติดเชื้อ “ฝีดาษลิง”รายที่ 4 เป็นหญิงวัย 22 ปี ประวัติใกล้ชิดชายต่างชาติที่สถานบันเทิงใน กทม. เริ่มมีไข้ 29 กรกฎาคม มีตุ่มขึ้นตามตัวและอวัยวะเพศ ย้ายมารักษาที่สถาบันบำราศนราดูร พบเสี่ยงสูง 2 ราย กำชับเร่งค้นหาติดตามกลุ่มเสี่ยงต่อไป
ขณะที่ยอดติดเชื้อฝีดาษลิงทั่วโลกพุ่งไปอยู่ที่ 2.6 หมื่นราย ด้านสหรัฐอเมริกา ประกาศให้โรคฝีดาษลิงเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข ซึ่งจะทำให้รัฐบาลกลางสามารถช่วยเหลือด้านเงินทุนและเครื่องมือทางการแพทย์ไปยังทั่วประเทศได้เพิ่มขึ้น
เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2565 นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า กรมควบคุมโรคได้รับรายงานพบผู้ป่วยยืนยันโรคฝีดาษวานร รายที่ 4 ของประเทศไทย เป็นหญิงไทย อายุ 22 ปี มีประวัติเสี่ยงไปเที่ยวสถานบันเทิง ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ย่านที่ชาวต่างชาตินิยมมาเที่ยว เป็นประจำประมาณสัปดาห์ละครั้ง และมีการสัมผัสใกล้ชิดกับชายชาวต่างชาติ โดยผู้ป่วยเริ่มมีไข้ตั้งแต่วันที่ 29 กรกฎาคม 2565 แต่ยังไปเที่ยวสถานบันเทิงพร้อมเพื่อนชาวไทย และชาวต่างชาติ วันที่ 30 กรกฎาคม 2565 เริ่มมีตุ่มขึ้นที่แขนขา แล้วลามไปทั่วร่างกาย รวมถึงอวัยวะเพศ จากนั้น วันที่ 3 สิงหาคม 2565 จึงเดินทางเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการ
ผลตรวจยืนยันติดเชื้อเป็นรายที่4
ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการยืนยันจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข และห้องปฏิบัติการที่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ยืนยันพบเชื้อฝีดาษวานร (Monkeypox virus) วันที่ 4 สิงหาคม 2565 ก่อนส่งตัวผู้ป่วยมารับการดูแลรักษาต่อที่สถาบันบำราศนราดูร กรมควบคุมโรค
หญิงสาวรายนี้ นับเป็นผู้ติดเชื้อโรคฝีดาษวานรเป็นรายที่ 4 และเป็นเพศหญิงรายแรกในประเทศ โดยผู้ติดเชื้อรายแรกเป็นชายชาวไนจีเรียที่ภูเก็ต รายที่ 2 ชายชาวไทย ในกรุงเทพมหานคร และรายที่ 3 ชายชาวเยอรมันที่ภูเก็ต
กำชับเร่งติดตามผู้สัมผัสเสี่ยงสูง
นพ.โอภาส กล่าวอีกว่าขณะนี้ได้กำชับให้สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 6 จังหวัดชลบุรี ประสานสำนักงานป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง และสำนักอนามัยกรุงเทพมหานคร เร่งติดตาม ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่เป็นเพื่อนร่วมห้องของผู้ป่วยทั้ง 2 ราย ผู้สัมผัสคนอื่นๆ และเร่งติดตามตัวชายชาวต่างชาติแล้ว พร้อมเน้นย้ำว่าโรคฝีดาษวานรไม่ได้ติดต่อกันได้ง่ายๆ ซึ่งจะติดต่อได้จากการสัมผัสใกล้ชิดมากๆ จึงขอให้กลุ่มเสี่ยงเพิ่มความระมัดระวังและงดการสัมผัสใกล้ชิดกับคนแปลกหน้าเพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อฝีดาษวานร
ยอดป่วยทั่วโลก26,208ราย
สำหรับสถานการณ์โรคฝีดาษวานรทั่วโลก (ข้อมูล ณ วันที่ 4 ส.ค.65) ผู้ป่วยยืนยันทั่วโลก 26,208 ราย พบผู้ป่วยยืนยันเพิ่มขึ้นเป็น 83 ประเทศ โดยพื้นที่การแพร่ระบาดส่วนใหญ่พบอยู่ในแถบทวีปยุโรป ประเทศที่มีผู้ป่วยสูง 5 ลำดับแรก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา 6,617 ราย สเปน 4,806 ราย เยอรมัน 2,781 ราย อังกฤษ 2,672 ราย และฝรั่งเศส 2,239 ราย
แนะนำแนวปฎิบัติป้องกันการติดเชื้อ
นพ.โอภาส ยังกล่าวว่า ขอแนะนำประชาชน ให้ปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันโรคฝีดาษวานร หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับคนแปลกหน้า หรือเพิ่งรู้จักกัน งดการมีเพศสัมพันธ์กับคนที่ไม่รู้จัก เพราะมีความเสี่ยงที่ไม่รู้ประวัติพฤติกรรมและการป่วยของคนนั้น ย้ำการปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันโรคโควิด 19 ยังสามารถป้องกันฝีดาษวานรได้ โดยการล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่หรือแอลกอฮอล์เจล เว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัย ไม่ใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น กินอาหารร้อนปรุงสุก หลีกเลี่ยงสัมผัสใกล้ชิดผู้ที่มีอาการเข้าข่ายของโรคฝีดาษวานร โดยเฉพาะผู้ที่มีผื่น ตุ่ม หนอง ตามผิวหนัง และพยายามไม่จับบริเวณหน้า ตา จมูก ปาก
หากประชาชนมีอาการสงสัยว่าตนเองมีอาการป่วยเข้าข่ายโรคฝีดาษวานร สามารถติดต่อสถานพยาบาลใกล้บ้านเพื่อรับการตรวจหาเชื้อได้ทันที หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรคโทร.1422
กทม.ขอบคุณรพ.จุฬารัตน์ร่วมมือดี
วันเดียวกัน ที่ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เสาชิงช้า ผศ.ดร.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯ กทม. รายงานส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคฝีดาษวานร ในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า พบผู้ป่วยรายที่ 2 ใน กรุงเทพฯ และรายที่ 4 ของประเทศไทย โดยผู้ป่วยมีสัญชาติไทย โดยผู้ป่วยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลจุฬารัตน์ จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา และตรวจพบเชื้อเมื่อเช้านี้ ตอนนี้ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงใกล้ชิดผู้ป่วยจำนวน 2 ราย ได้มีการกักตัวในที่พักแล้ว ด้านผู้สัมผัสเสี่ยงสูงกับชาวไนจีเรีย 1 คน ยังคงมีการติดตามตัวอยู่ ต้องขอบคุณโรงพยาบาลจุฬารัตน์ แม้ว่าจะอยู่ใน จ.สมุทรปราการ แต่มีการสื่อสารส่งข่าว ร่วมมือกับศูนย์บริการสาธารณสุข กทม. ทำให้เรามีความรอบคอบขึ้น ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงใกล้ชิดอยู่ในความดูแลเรียบร้อย
ด้าน พญ.ป่านฤดี มโนมัยพิบูลย์ ผอ.สำนักอนามัย กล่าวว่า การสัมผัสผู้ติดเชื้อสามารถติดเชื้อภายใน 21 วัน อยากให้ประชาชนลองย้อนประวัติว่ามีการไปสัมผัสผู้ป่วยหรือไม่ อยากให้มีการสังเกตอาการของตัวเองให้ครบ 21 วัน
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวเสริมว่า โรคฝีดาษวานรเท่าที่อ่านข่าวมา เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน ต้องระมัดระวังตัวกันด้วย
สหรัฐประกาศให้ฝีดาษลิงเป็นภาวะฉุกเฉิน
ขณะที่สหรัฐอเมริกา ได้ประกาศให้โรคฝีดาษลิงเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขเพื่อรับมือการระบาดของโรคฝีดาษลิงที่ทำให้สหรัฐมียอดผู้ป่วยติดเชื้อมากถึง 6,600 คนนับถึงวันพุธตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้ชาย
นายเซเวียร์ เบเซอร์รา รัฐมนตรีกระทรวงสุขภาพและบริการมนุษย์ของสหรัฐ ประกาศให้โรคฝีดาษลิงเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขเมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น โดยระบุว่าประกาศดังกล่าวจะทำให้รัฐบาลกลางสามารถช่วยเหลือด้านเงินทุนและเครื่องมือทางการแพทย์ไปยังทั่วประเทศได้เพิ่มขึ้น และพร้อมก้าวสู่ขั้นต่อไปในการรับมือกับการระบาดของโรคฝีดาษลิง พร้อมทั้งย้ำเตือนให้ชาวอเมริกันทุกคนเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคนี้ด้วย
ตั้งเป้าฉีดวัคซีนกลุ่มเสี่ยงสูง1.6ล้านคน
นางโรเชลล์ วาเลนสกี ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ หรือซีดีซี กล่าวในงานแถลงข่าวร่วมกับนายเบเซอร์ราว่า การประกาศให้โรคฝีดาษลิงเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขจะช่วยปรับปรุงความพร้อมของข้อมูลผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงที่จำเป็นต้องใช้ในการรับมือกับโรค ทั้งยังระบุว่า สหรัฐตั้งเป้าฉีดวัคซีนป้องกันโรคฝีดาษลิงให้แก่ประชาชนกลุ่มเสี่ยงสูงให้ได้กว่า 1.6 ล้านคน
รัฐบาลสหรัฐกำลังเผชิญกับกระแสกดดันอย่างหนักในการรับมือกับโรคฝีดาษลิง ซึ่งเริ่มแพร่กระจายในยุโรปก่อนระบาดมายังสหรัฐ จนทำให้สหรัฐมียอดผู้ป่วยฝีดาษลิงมากที่่สุดในโลก นอกจากนี้ สหรัฐยังประสบปัญหาเรื่องการรักษาและวัคซีนป้องกันโรคฝีดาษลิงมีไม่เพียงพอจนทำให้ผู้ป่วยโรคนี้มักกระจุกตัวอยู่ที่คลินิกสุขภาพทางเพศ ซึ่งมักไม่ได้รับเงินทุนสนับสนุนจากภาครัฐอย่างเพียงพอ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี