ญาติคนเจ็บ-ตายเมาท์เทน บี ร้องขอโอนมาให้กองปราบทำคดีแทน
วันที่ 15 ส.ค.65 เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการสอบสวนกลาง (บช.ก.) ถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร กทม. นายรณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พา 13 ตัวแทนญาติของผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต จากเหตุการณ์ไฟไหม้สถานบันเทิงผับเมาท์เทน บี จังหวัดชลบุรี ไหว้พระพุทธรูปซุ้มหน้ากองบังคับการปราบปรามก่อนเข้าร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนกองปราบปราม ขอให้โอนสำนวนคดีมาให้ตำรวจกองปราบปราม รับผิดชอบ เนื่องจาก เกรงถึงผู้มีอิทธิพลในพื้นที่และมองว่า ตำรวจและฝ่ายปกครองในพื้นที่มีผลประโยชน์ทับซ้อน
นายรณรงค์ เปิดเผยว่า วันนี้นำข้อมูลหลักฐานบางส่วน มาให้ตำรวจกองปราบปราม เพื่อให้โอนคดีกลับมาเนื่องจากไม่เชื่อมั่นในการทำงานของตำรวจในพื้นที่ ซึ่งการให้ตำรวจกองปราบปราม รับสอบสวนดำเนินคดีนี้ จะทำให้พยานมีความมั่นใจในการเข้าให้ข้อมูลกับตำรวจมากขึ้น
โดยยืนยันให้ตำรวจกองปราบปรามตรวจสอบใน 3 ประเด็น ที่ว่า สถานบันเทิงดังกล่าว มีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์และสถานบันเทิงแห่งนี้มีผู้มีอิทธิพลในพื้นที่เกี่ยวข้อง รวมถึงประเด็นที่เจ้าของผับที่ถูกดำเนินคดี ไม่ใช่เจ้าของสถานประกอบการดังกล่าวตัวจริง
นายยรณรงค์ กล่าวอีกว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้วตนไปร้องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ.) รับโอนคดีเมาท์เท่นบี มาทำแทนตำรวจ วันนี้มาร้องกองปราบฯ ขอให้ที่ใดที่หนึ่งทำคดีนี้แทนท้องที่เพราะเชื่อว่ามีคนอื่นที่มีอิทธิพลอยู่ข้างหลังแน่นอน ไม่ใช่มีแค่เสี่ยบี ที่อ้างเป็นเจ้าของเท่านั้นและจะพาญาติผู้เสียหายที่เสียชีวิตและบาดเจ็บไปร้อง ผบ.ตร.ในเร็วๆ วันนี้ต่อไปด้วย
ส่วนความรู้สึกบางส่วนของตัวแทนครอบครัวที่ได้รับผลกระทบและเดินทางมาในวันนี้ ส่วนใหญ่ บอกว่า ค่าชดใช้เยียวที่ ผู้ประกอบการจ่ายให้ไม่เพียงพอต่อค่ารักษาพยาบาลและไม่สามารถทดแทนความเสียหายต่างๆที่เกิดขึ้นได้ โดยนายอภิชัย อินศิริ พ่อของน้องไอซ์ อาทิตยา อินศิริ ผู้เสียชีวิตคนที่ 19 รายล่าสุดของเหตุการณ์นี้ เปิดเผยว่า ต้องการความชัดเจนเรื่องการเยียวยา ค่ารักษาพยาบาล รวมทั้งในเรื่องของคดีความ ซึ่งลูกสาวตัวเองเสียชีวิตไปแล้ว ทำให้ครอบครัวได้รับผลกระทบ โดยที่ผ่านมา มีตัวแทนเจ้าของสถานบันเทิงให้ความช่วยเหลือมา 30,000 บาท แต่ไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่าย
ส่วน นางสาวยุพิน ทองนก แม่ของนางสาวลัดดาวัลย์ เกษกร ผู้บาดเจ็บ เป็นอีกหนึ่งคนที่ยอมรับว่า ตัวแทนเจ้าของสถานบันเทิงติดต่อขอให้ช่วยเหลือเป็นเงินจำนวน 30,000 บาท เช่นกันและอ้างว่าให้ผู้ได้รับบาดเจ็บไปรักษาตัวต่อในโรงพยาบาลรัฐ ซึ่งครอบครัวมองว่า เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องเพราะว่าลูกสาวควรได้รับการดูแลที่ดีกว่านี้ เพราะมีบาดแผลที่เกี่ยวกับการศัลยกรรม เนื่องจากได้รับผลกระทบจากเพลิงไหม้ตามร่างกายหลายแห่ง
ขณะที่ นางสาวณิชารัศม์ กีรติจริยาพรรณ พี่สาวของ วิน รังสิมันต์ วนิชโรจนาการ มือคีย์บอร์ด ที่เสียชีวิตบอกว่า ได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยาจากตัวแทนผับ จำนวน 50,000 บาท แต่ว่าไม่เพียงพอ เพราะผู้เสียชีวิต มีลูก 2 คนที่ต้องมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการศึกษา / ส่วนที่ ตัดสินใจเข้ามาร้องทุกข์กล่าวโทษที่กองปราบปราม เพราะว่า ไม่มั่นใจการทำงานของตำรวจในพื้นที่ เนื่องจากกังวลในเรื่องของกลุ่มอิทธิพล กดดันการสอบสวนของตำรวจ
เบื้องต้น พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามสอบปากคำผู้ร้อง พร้อมรับเรื่องเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป
009
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี