ผบก.ราชบุรี เผยคดี "ส.ต.ท.หญิง" ทำร้ายอดีตทหารรับใช้คดีคืบหน้าไปมาก พร้อมให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ยันไม่หนักใจในการทำคดีไม่มีผู้ใหญ่โทรฝากหรือถูกข่มขู่
วันที่ 2 ก.ย.65 ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรี พล.ต.ต.ปิติ นฤขัตรพิชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) ราชบุรี ได้แถลงถึงความคืบหน้าคดีของ ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ บัวแย้ม หรือ เจ๊นุช อายุ 43 ปี ในคดีทำร้ายร่างกายนางสาวเอ อดีตทหารหญิงคนใช้ยศ ส.ท.ว่า ตอนนี้การสอบสวนคดีมีความคืบหน้าไปมาก โดยทางผู้บังคับบัญชา พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร.ได้เร่งรัดติดตามงานพร้อมทั้งสั่งประชุมติดตามงานทุกวัน ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการรวบรวมพยานหลักฐาน ในส่วนเรื่องของการตรวจสุขภาพจิตของ ส.ต.ท.กรศศิร์ ผู้ต้องหายังคงอยู่ในขั้นตอนของการตรวจสุขภาพจิต เพราะต้องใช้ความละเอียดอ่อนแพทย์ต้องตรวจอย่างรอบคอบและระเอียดเพื่อไม่ให้เกิดการผิดพลาด สำหรับเรื่องหลักฐานคดีต่างๆ ได้ดำเนินการอย่างรวดเร็วโดยได้พยานหลักฐานพอสมควร
ส่วนเรื่องที่นายกัน จอมพลัง ได้นำผู้เสียหายมาแจ้งความเพิ่มเติม เมื่อวันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมานั้น จากการที่ทางนางสาวเอ ผู้เสียหายได้ถูกนายคมสิทธิ์ มีการร่วมทำร้ายร่างกายร่วมกับผู้ต้องหา เราได้มีการสอบสวนผู้เสียหายเพิ่มเติมไป และตามที่ผู้เสียหายให้การว่านายคมสิทธิ์ ได้กระทำความผิดในพื้นที่ อ.เมืองราชบุรีอีกจำนวน 3 ครั้ง ซึ่งตรงนี้ได้มีการสอบปากคำผู้เสียหายพร้อมรวบรวมหลักฐานแล้ว
โดยเมื่อวานนี้ได้มีการร่วมประชุมกับทางทีมสหวิชาชีพได้เข้ามาประเมินแล้วว่าการกระทำความผิดร่วมของนายคมสิทธิ์นั้นจะเป็นความผิดฐานร่วมกันค้ามนุษย์หรือไม่ ซึ่งตรงนี้ทีมสหวิชาชีพได้ประเมินไปแล้ว มีมติยังไม่เห็นว่านายคมสิทธิ์ แฟนหนุ่มของ ส.ต.ท.กรศศิร์ ได้ร่วมกระทำผิดเรื่องค้ามนุษย์ แต่นายคมสิทธิ์ ยังมีการกระทำความผิดเรื่องของอาญา และตามพระราชบัญญัติแรงงานอีก ในส่วนตรงนี้ก็อยู่ในระหว่างขั้นตอนของการสอบสวนผู้เสียหายให้ได้รายละเอียดที่ชัดเจน และเมื่อได้รายละเอียดที่ชัดเจนแล้วส่งตัวผู้เสียหายไปตรวจร่างกายเพิ่มเติม เนื่องจากทางนางสาวเอ ผู้เสียหาย แจ้งว่าได้ถูกทำร้ายร่างกายบริเวณใบหูจะต้องส่งไปตรวจ ที่โรงพยาบาล หลังจากนั้นจะได้เรียกทางผู้ต้องหามารับทราบข้อกล่าวหา จะนำตัวไปฝากขังที่ศาลต่อไป
พล.ต.ต.ปิติ กล่าวอีกว่า ปัจจุบัน ส.ต.ท.(หญิง) กรศศิร์ถูกควบคุมอยู่ที่เรือนจำยังไม่ได้มีโอกาสมาสอบปากคำเพิ่ม แต่ทางเราเห็นว่าถ้าเกิดความล่าช้าไป คดีจะล่าช้า ก็จะได้มีการนัดทางผู้ต้องหาเข้าไปสอบที่เรือนจำ ซึ่งจะสรุปให้เร็วที่สุดตามนโยบายของ ตร.แต่เนื่องจากจะต้องรอพยานหลักฐานเกี่ยวเนื่องกับการตรวจร่างกาย ซึ่งเป็นกระบวนการทางการแพทย์ มีขั้นตอนและวิธีการ ตรงนี้ทางพนักงานสอบสวนไม่สามารถเข้าไปเร่งรัดส่วนตรงนี้ได้ โดยของผู้เสียหายได้มีการตรวจมาแล้วหลายครั้ง เบื้องต้นตรวจแล้ว 4 ครั้ง
“ส่วนเรื่องการประกันตัว หลังจากครบ 12 วัน ในการฝากขัง ตอนนี้ทาง ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ ยังไม่มีการประกันตัวแต่อย่างใด ยังคงอยู่ในเรือนจำอยู่ ส่วนการสอบสวนของส่วนผู้เสียหายที่มาให้การเพิ่มเติมยังไม่แล้วเสร็จ เพราะว่าจะต้องระบุเรื่องข้อเท็จจริงให้มีหลักฐานทางคดีที่ชัดเจน” พล.ต.ต.ปิติ กล่าว
พล.ต.ต.ปิติ กล่าวด้วยว่า ในส่วนการทำคดีนี้ไม่ได้มีความซับซ้อนแต่จะมีความละเอียดเรื่องการรวบรวมพยานหลักฐาน ไม่หนักใจ ไม่มีผู้ใหญ่ท่านใดโทรมาขอ หรือ ถูกข่มขู่ในการทำคดี โดยเฉพาะทาง พลตำรวจโท สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ลงมากำกับดูแลด้วยตัวเอง และส่งทีมงานส่วนของค้ามนุษย์ของ ตร.มาทำงานด้วยความเข้มข้น เพื่อให้การรวบรวมพยานหลักฐานเป็นไปอย่างเรียบร้อยและถูกต้องชัดเจนมากที่สุดเหลือแต่ขั้นตอนการสอบสวน ยืนยันให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ฝ่ายใดมีพยานหลักฐานต่างๆ ส่งเข้ามาก็จะรวบรวบให้หมด แม้กระทั่งผู้ต้องหาจะยื่นข้อต่อสู้เราก็พร้อมที่จะดำเนินการ
ทั้งยังมีข้อมูลรายงานมาจากตำรวจระดับสูงพบว่า การตรวจร่างกายของนางสาวเอ อดีตทหารรับใช้ ยศ ส.ท.พบว่า มีการตรวจพบการแตกของกระดูกที่บริเวณจมูก ซึ่งจะหมายถึงทำให้สาหัสได้ในรูปคดีอาจจะเป็นการเพิ่มโทษให้กับทาง ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ ได้ ส่วนการตรวจร่างกายจุดอื่นๆ ยังไม่พบการเสียหายเหลือการตรวจร่องรอยบาดแผลจากการถูกเครื่องช็อตไฟฟ้า ซึ่งต้องตรวจอย่างละเอียด แพทย์ต้องใช้ความเชี่ยวชาญ เพื่อสรุปในใบรับรองของแพทย์ในการลงความเห็นเพื่อประกอบในสำนวนคดี
- 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี