"ตรีนุช"นำทีมผู้บริหารตรวจเยี่ยม"รร.ราชประชานุเคราะห์ 37" ยกเป็นต้นแบบลดความยากจน ดัน สพฐ.-สอศ.สร้างมิติใหม่การศึกษา
เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2565 นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 37 จังหวัดกระบี่ พบว่าโรงเรียนมีเป้าหมายในการจัดการเรียนการสอนให้เด็กด้อยโอกาส เด็กยากจน ได้รับโอกาสและได้รับความเท่าเทียมในด้านการศึกษาเท่ากับเด็กทั่วไป และพบว่าโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 37 มีวิธีการบริหารจัดการเรียนการสอนที่สามารถลดความเหลื่อมล้ำได้ ทางโรงเรียนได้ให้โอกาสกับเด็กด้อยโอกาสในเขตพื้นที่บริการตั้งแต่เด็กระดับประถมศึกษาไปจนถึงมัธยมศึกษาตอนปลายให้เข้ามาเรียนได้ รวมถึงให้โอกาสทางการศึกษากับนักเรียนที่เคยต้องโทษในสถานพินิจให้ได้มีโอกาสกลับเข้ามาเรียนเพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิตตนเองด้วยซึ่งเป็นมิติให้โอกาส
นายอัมพร กล่าวต่อว่า ส่วนมิติการจัดการศึกษา พบว่าโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 37 ได้มุ่งเน้นจัดการเรียนการสอนให้เด็กมีทักษะชีวิตและทักษะอาชีพ มากกว่าทักษะวิชาการ ทั้งนี้ เพื่อตอบโจทย์ให้เด็กเรียนจบไปแล้วมีงานทำมีอาชีพ และตอบโจทย์สังคม รวมถึงเรื่องการปรับสภาพแวดล้อมให้โรงเรียนเป็นโรงเรียนแห่งความสุข ซึ่งพบว่าทางโรงเรียนสามารถออกแบบบ้านพักที่ดีสำหรับเด็ก มีอาหารกลางวันถูกหลักโภชนาการ การดูแลชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี เพราะมีการดูแลระหว่างนักเรียนกับนักเรียน รุ่นพี่กับรุ่นน้อง ระหว่างครูกับนักเรียน และระหว่างผู้บริหารกับครูที่ดี จึงกลายเป็นโรงเรียนแห่งความสุข เมื่อเห็นภาพนี้แล้ว จึงคิดว่าหากเราทำโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ และโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ ที่สอนเด็กด้อยโอกาส เด็กที่ขาดโอกาส ให้มีคุณภาพและมาตรฐานเดียวกัน ประเทศไทยก็จะลดความเหลื่อมล้ำด้านการศึกษาได้เป็นอย่างดี
"รัฐมนตรีว่าการ ศธ.ได้มอบหมายให้ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) นำการบริหารจัดการของโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 37 มาถอดบทเรียน เพื่อไปขยายผลให้กับโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ และโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์อื่นๆ ไปปฏิบัติตาม ดังนั้น ผมจะนำหลักการที่รัฐมนตรีว่าการ ศธ.ได้มอบให้ไว้มาปฏิบัติ ซึ่งต่อไป ผู้อำนวยการโรงเรียนคนใหม่ ที่จะมาดูแลโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ และโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ อาจจะต้องมาอบรมในโรงเรียนต้นแบบนี้ เพื่อดูว่าโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 37 เขาบริหารจัดหารอย่างไรถึงประสบความสำเร็จ แล้วนำสิ่งที่ได้กลับไปพัฒนาโรงเรียนของตนเอง และผมมองว่า ทิศทางการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ และโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ ในอนาค จะไม่เน้นให้นักเรียน เรียนในห้องเรียนเท่านั้น แต่จะเน้นสอนทฤษฎีที่จำเป็น ให้นักเรียนได้ฝึกปฏิบัติ ก็จะทำให้ตอบโจทย์การเรียนการสอนแบบ Active Learning ให้เห็นเป็นรูปธรรมมากขึ้น และตอบโจทย์เรื่องลดความเหลื่อมล้ำ สร้างโอกาส และพัฒนาเด็กให้มีทักษะชีวิต ทักษะอาชีพ ซึ่งเด็กเหล่านี้จะเป็นต้นแบบหลุดพ้นจากความยากจน" นายอัมพร กล่าว
นายอัมพร กล่าวต่อว่า การสร้างทักษะอาชีพ และทักษะชีวิต ให้นักเรียนในโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ และโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์นั้น รัฐมนตรีว่าการ ศธ.ได้เน้นย้ำว่าต่อไป สพฐ.และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ต้องสร้างสะพานเชื่อมโยงกันและต้องไม่มีพรมแดนระหว่างกัน ต้องทำ MOU ร่วมกัน ใช้ทรัพยากรร่วมกันก็จะเป็นมิติใหม่ของการจัดการศึกษาระหว่าง สพฐ.กับ สอศ.ตนจึงได้หารือกับ ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา รองเลขาธิการ กพฐ.ที่ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) ว่า ควรสร้างมิติใหม่ในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ สอศ.ให้สามารถทำงานเชื่อมต่อกันได้อย่างแท้จริงต่อไป สพฐ.จะเตรียมคนให้มีต้นทุน และพร้อมที่จะเรียนรู้ ส่วน สอศ.ก็ไปต่อยอดให้ผู้เรียนมีอาชีพ มีงานทำ มีรายได้ หากคนสมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ มีอาชีพ มีงานทำ มีรายได้ก็จะมีความสุข
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี