แนะกำหนดมาตรฐาน‘พ่วงข้าง-ซาเล้ง’ติดตั้งจยย. ชี้วิถีชีวิตห้ามไม่ได้ก็ต้องควบคุมเพื่อลดเสี่ยงอุบัติเหตุ
13 ก.ย. 2565 จากกรณีอุบัติเหตุรถกระบะชน จยย. พ่วงข้าง จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 10 ก.ย. 2565 ที่ผ่านมา บริเวณบ้านเนินฆ้อ ถนนแกลงกร่ำ ม.5 ต.เนินฆ้อ อ.แกลง จ.ระยอง โดยคนขับรถกระบะให้การกับตำรวจว่า ก่อนเกิดเหตุกำลังขับรถกลับบ้าน พอมาถึงที่เกิดเหตุได้แซงรถยนต์ขึ้นมา พอหักเลี้ยงเข้าเลน ได้พุ่งชน จยย.พ่วงข้าง ที่ขี่อยู่ด้านหน้า โดยที่ไม่เห็นไฟท้าย จึงไม่สามารถเบรคได้ทัน ทำให้พุ่งชนท้ายเต็มแรง
ผศ.ดร.ศิรดล ศิริธร อาจารย์ประจำกลุ่มสาขาวิศวกรรมโลจิสติกส์และขนส่งทางราง คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า บนท้องถนนยังมี จยย. พ่วงข้าง ในลักษณะนี้อยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งไฟท้ายรวมถึงไฟเลี้ยวมองเห็นไม่ชัดเจน ซึ่งด้านหนึ่งคือความไม่ปลอดภัย แต่อีกด้านหนึ่งถือเป็นวิถีชีวิตและการทำมาหากินของประชาชนโดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย ทำให้แม้ในทางกฎหมายจะไม่รับรองการต่อเติมรถลักษณะนี้ แต่ในความเป็นจริงก็มีการรับต่อเติมอยู่ทั่วไป จึงเสนอแนะว่า ควรมีการออกมาตรฐานส่วนพ่วงข้างและวิธีใช้ให้ชัดเจน
“ใช้วัสดุอะไร มีน้ำหนักเท่าไร มีความแข็งแรงคงทนอย่างไร โดยเฉพาะเรื่องน้ำหนักผมว่าเป็นเรื่องใหญ่สำหรับมอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง เวลาเขาวิ่งอยู่บนทางเขาจะใช้ความเร็วได้เท่าไร ถ้าใช้ความเร็วเกินกว่านี้ถ้าเป็นตัวเบาๆ เขาก็ลอย มันก็อันตราย หรือว่าสุดท้ายพอเขาไปเลี้ยว แน่นอนมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างค่อนข้างต้องฝีมือเหมือนกัน มันก็ต้องมีการกำหนดว่าเลี้ยวที่ความเร็วเท่าไร แล้วน้ำหนักของตัวพ่วงสามารถถ่วงได้” ผศ.ดร.ศิรดล ระบุ
ผศ.ดร.ศิรดล กล่าวต่อไปว่า มาตรฐานเหล่านี้ไม่สามารถคาดการณ์ได้เอง เช่น อยู่ๆ จะบอกว่าให้มีขนาด 3 เมตร ทั้งหมดต้องผ่านกระบวนการกลั่นกรองโดยการวิเคราะห์และออกแบบตามหลักวิศวกรรมมาพอสมควร แต่ที่ผ่านมายังไม่มีการทำเรื่องนี้อย่างจริงจัง โดยนอกจาก จยย. พ่วงข้าง แล้วยังมี รถซาเล้ง ที่นำ จยย. มาดัดแปลงใส่กระบะด้านหน้า เป็นอีกยานพาหนะที่ควรมีการกำหนดมาตรฐานโครงสร้างให้ชัดด้วย
โดยเฉพาะเรื่องของทัศนวิสัยในการมองเห็น ไม่ว่าจะเป็นไฟท้าย ไฟเบรกและไฟเลี้ยว ทั้งนี้ ตนเสนอว่า ในระยะสั้นหรือระยะเร่งด่วน ควรเน้นเรื่องการติดแผ่นสะท้อนแสง คล้ายกับกรณีของรถบรรทุก เพื่อให้รถที่แล่นตามมามองเห็นได้ ส่วนในระยะกลาง คือการหาทางติดไฟที่จำเป็น และในระยะยาวคือการกำหนดมาตรฐานการติดตั้งส่วนพ่วงดังกล่าว โดยการออกเป็นกฎหมายก็ควรให้เวลาผู้เกี่ยวข้องได้ปรับตัว
“ผมเข้าใจนะว่าเป็นภาระให้คนทั่วๆ ไปอยู่เหมือนกัน ก็คือต้องขึ้นอยู่กับวิศวกรที่มาออกแบบ เราออกแบบมันก็คงมีวิธีหลายๆ วิธี วิศวกรก็ต้องพยายามทำให้มันให้อยู่ในแบบที่มัน Minimal (เรียบง่าย) ที่สุด แต่ที่สำคัญเลยคือมันต้องมีคนเป็นเจ้าภาพที่จะทำมาตรฐานตัวนี้” ผศ.ดร.ศิรดล กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง 'กระบะแร็พเตอร์'เบรคไม่ทัน! ชนจยย.พ่วงข้าง พ่อแม่ลูก1ขวบดับใต้ท้องรถ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี