‘บิ๊กโจ๊ก’เปิดหลักฐานมัด
‘ตู่ห่าว’เป็นเจ้าของผับจินหลิง
ขยายผลยึดทรัพย์กว่า1พันล้าน
นักธุรกิจจีนมอบตัวปัดทุกข้อหา
‘ชูวิทย์-สันธนะ’เกือบวางมวย
“บิ๊กโจ๊ก”เปิดหลักฐานชัด“ตู้ห่าว”เป็นเจ้าของผับจินหลิง ขยายผลยึดทรัพย์กว่า 1,000 ล้านบาท แฉมีหลักฐานตร.ปล่อยตัวผู้ต้องหาสำคัญ
และปล่อยรถหรู 4 คัน ของกลางในคดี
แลกรับผลประโยชน์คันละ 2 ล้านบาท ด้านนักธุรกิจชาวจีน เข้ามอบตัวที่สโมสรตำรวจ ยืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ด้าน “ชูวิทย์” บุกสภาฯ ยื่น ‘ปธ.กมธ.ป.ป.ช.’ ตรวจสอบเส้นทางการเงิน ‘สันธนะ’ พร้อมแฉปมลึก“นายทุนจีนสีเทา”เกี่ยวข้องกับใครบ้าง หวิดฟาดปาก‘อดีตนาย ตร.สันติบาล’หลังดักรอจนพบหน้ากันที่หน้ารัฐสภาฯ
เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2565 ความคืบหน้าจากกรณี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.สั่งการให้ชุดสืบสวนกองพิสูจน์หลักฐาน เปิดปฎิบัติการปิดล้อมตรวจค้นกลุ่มทุนจีนสีเทา ปูพรม 2 จุด โดยจุดที่สำคัญ คือ การปิดล้อมตรวจค้นบ้านหรูย่านพระราม 5 ซึ่งในทางสืบสวนเชื่อว่าเป็นแหล่งกบดานของ นายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือ ตู้ห่าว ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ เลขที่ 777/2565 ลงวันที่ 22 พ.ย.65 ในฐานความผิด สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ผู้นั้นสมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด, ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติด และร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย และจุดที่2 เป็นโรงแรมหรูใจ กลางกรุง
นอกจากการออกหมายจับ นายชัยณัฐร์ แล้วทางพนักงานสอบสวนได้ขออำนาจศาลออกหมายจับ นายเฉิน หยาง ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ 778/2565 ในข้อหาเดียวกันกับนายตู้ห่าว หลังพบความเชื่อมโยงจากการไปตรวจค้นผับจินหลิง พบยาเสพติดหลายรายการ
ไม่พบ“ตู้ห่าว”-สิ่งผิดกฎหมาย
จากการตรวจค้นทั้ง 2 จุดเชื่อว่าเป็นแหล่งกบดานของนายตู้ห่าว เบื้องต้น ไม่พบตัวของนายตู้ห่าว อยู่ในบ้านพัก พบเพียง พ.ต.อ.หญิงผู้กำกับกองการต่างประเทศ ที่เป็นภรรยาของนายตู้ห่าว แจ้งว่านายตู้ห่าวไม่ได้พักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว แต่ให้ความร่วมมือเจ้าหน้าที่โดยพยายามติดต่อกับนายตู้ห่าวที่พักอยู่ที่อื่นเพื่อประสานให้เข้ามอบตัว โดยนัดหมายจะนำตัวนายตู้ห่าว สามีเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันนี้ ส่วนการตรวจสอบในบ้านพักไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด
“ชูวิทย์”ยื่นสอบการเงิน“สันธนะ”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 08.30 น. ที่รัฐสภา นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีต ส.ส. และอดีตเจ้าของอาบอบนวดชื่อดัง เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้สอบสวนเส้นทางการเงิน นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตนายตำรวจสันติบาล จากกรณีที่มีบ้านราคาแพง ภรรยาและบุตรมีรถหรู มีการใช้จ่ายเงิน ทั้งๆที่ถูกไล่ออกจากราชการ โดยอ้างว่าทำงานต่างประเทศ และไม่ทราบว่าอยู่บริษัทอะไร รวมถึงมีการเสียภาษีหรือไม่
นายชูวิทย์ กล่าวว่า จากที่ตนได้ออกมาเปิดเผยเรื่องนายทุนจีนสีเทา ถือว่าตอนนี้เป็นวาระแห่งชาติ จนวันนี้มีการออกหมายจับ นายตู้ ห่าว ถือว่าตนหมดภาระหน้าที่แล้ว และยินดีมอบข้อมูลต่างๆ ที่แสดงถึงทรัพย์สินของกลุ่มทุนจีนสีเทานี้ ให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ไปทำตามหน้าที่ต่อ แต่ภายหลังจากที่ตนเผยเผยข้อมูลได้ไม่นาน ก็ได้มี นายสันธนะ เข้ามาที่โรงแรมของตนและป้ายสีว่ามีการมั่วสุมเสพยา มีการอ้างเรื่องอาบอบนวดที่ตนขายไปเมื่อหลายปีก่อน วันนี้ตนจึงยื่น กมธ.ปปช. พร้อมทั้งได้มอบเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับสาเหตุที่ปลด นายสันธนะออกจากตำรวจ ซึ่งนายสันธนะได้ขออุทธรณ์แต่ฟังไม่ขึ้น จึงมีคำสั่งใหม่ ให้ไล่ออกจากราชการเป็นการถูกต้องเหมาะสมแล้ว จากนั้นมีการเรียกคืนเครื่องราชถอดยศทั้งหมด เมื่อปี 2561 เหตุผลเพราะมีการเข้าไปแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมที่ดอนเมือง โดยหลังจากนี้ตนยินดีที่ให้เข้ามาให้ข้อมูลกับ กมธ.ป.ป.ช.
“เสรีพิศุทธ์”ชมกล้าเปิดโปงความจริง
ด้าน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า นายชูวิทย์ ทำอะไรก็ประสบความสำเร็จ เป็นคนแน่ที่จะกล้าพบกับนายสันธนะ เพื่อพิสูจน์ความจริง ถ้ามาสร้างปัญหาเมื่อไหร่ภายในสภาก็เป็นหน้าที่ของตำรวจสภาฯ ในการดูแลความเรียบร้อยและส่งมอบให้ตำรวจในท้องที่ดำเนินการต่อ ซึ่งตนได้สั่งการไว้แล้ว
“ในต่างประเทศประชาชนกล้าที่จะพูดความจริง เมื่อเจอการกระทำความผิด แต่ประเทศไทยมีแต่ไม่อยากยุ่ง กลัวเกิดปัญหา กลัวทำให้บ้านเมืองไม่สงบเรียบร้อย ดังนั้นการที่มีคนมาแจ้งเบาะแสเป็นเรื่องที่ดีและอยากให้ไทยก้าวไปสู่จุดนั้นได้ เรื่องทุนจีนถ้านายชูวิทย์ไม่ออกมาพูดตำรวจอาจจะไม่ทราบเรื่องดังกล่าวด้วยซ้ำ ผมในฐานะอดีตตำรวจต้องขอบคุณนายชูวิทย์ และขอให้ประชาชนเลิกกลัวการพูดความจริง” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว
‘ชูวิทย์’แฉปมลึก‘นายทุนจีนสีเทา’
นายชูวิทย์ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมเกี่ยวกับนายทุนจีนสีเทาว่า นายตู้ ห่าว ใกล้ชิดกับใคร พาดพิงถึงใคร รัฐมนตรีคนไหน ตนมีเอกสารหลักฐานที่น่าสนใจ ที่ตนเปิดเรื่องเครื่องบิน ตนต้องขออภัยฝูงบิน 604 ไม่มีอะไร เกี่ยวข้องด้วย แต่เนื่องจากเครื่องบินของนายหาว เจ๋อ ตู้ มีความเชื่อมโยงถึงรัฐมนตรีท่านหนึ่งที่นำไปใช้หาเสียงอยู่บ่อยๆ การขออนุญาตจอด ก็จะต้องขออนุญาตโดยรัฐมนตรี ไม่ใช่นายตู้ ห่าว เพราะไม่ใช่สมาชิกฝูงบิน 604 ตรงนี้แสดงถึงอิทธิพลของนายตู้ ห่าว นอกจากนั้น ที่ซอยลาดกะบัง 54 มีโรงแรมขนาดใหญ่ ขนาด 400 ห้องพื้นที่ 20 กว่าไร่ มีรถบัส 400-500 คัน และเงินสดอีกมหาศาล ซึ่งนายตู้ ห่าว มีคนจีนไม่รู้เรื่องการเมืองไทย จึงมีคนพานายตู้ ห่าว ไปพบกับบุคคลคนหนึ่งที่ชอบสะสมนาฬิกา โดยมีนาฬิกาปาเตะ 1 เรือน มูลค่าประมาณ 10 กว่าล้านบาท ถูกส่งมอบให้
เรื่องนี้ก็ทราบว่ามีการอ้างนำเงิน หลายร้อยล้านบาท และนายตู้ ห่าว บริจาคเงิน 3 ล้านบาทให้พรรคพลังประชารัฐ แต่ในกฎหมายสัญชาติไทยระบุไว้ว่า หากบุคคลใดที่แปลงสัญชาติเป็นสัญชาติไทยล้วน และยังใช้สัญชาติเดิมในการทำธุรกรรม และเดินทางก็มีสิทธิ์ยกเลิกสัญชาติไทยได้ ซึ่งปรากฎว่านายตู้ ห่าว ยังใช้พาสปอร์ตจีนอยู่ ดังนั้นการรับเงินของพรรคพลังประชารัฐ ไม่ทราบว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) จะให้หรือไม่ว่าคนสัญชาติไทยและใช้สัญชาติจีนด้วยบริจาคเงินได้
เชื่อมโยงอดีต รมต.-เชื่อเจอตอแน่
เมื่อถามว่ารัฐมนตรีที่เข้าไปเกี่ยวข้องคือใคร นายชูวิทย์ กล่าวว่า เป็นอดีตรัฐมนตรี และอาทิตย์ที่ผ่านมามีการโทรศัพท์มาเคลียร์กับตน มีการบลัฟตน และจะใช้วิธีมาเฟียกับตนทุกรูปแบบ แต่ตนยืนยันว่าไม่กลัว สิ่งใดที่ตนพูดไปแล้วรับผิดชอบคำพูดตัวเองทุกคำ ดังนั้นวิบากกรรมตน สัมภเวสี ตนไม่เคยกลัว ตนจะรอ ตนไม่เคยกลัวมัน แล้วตนจะถามมันว่า ที่ตนโชว์ ใช่มึงไหม และข้อมูลทั้งหลายตนจะให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เพราะเป็นคนที่รับข้อมูลตน และติดตามเรื่องนี้ และนายตู้ ห่าว ขณะนี้ไม่ได้อยูที่หมู่บ้านลดาวัลย์ ที่ตลิ่งชัน แต่อยู่ที่โอ๊ควู๊ด สาธร 21 ใกล้ๆ กับผับจินหลิง
นายชูวิทย์ ยังอ้างถึงข้อมูลเที่ยวบินส่วนบุคคลบินขึ้นลง และจอดพัก ณ ท่าอากาศยานร้อยเอ็ด ซึ่งอดีตรัฐมนตรีเดินทางไปกลับเที่ยวบินนี้ด้วย ขอเรียนว่าตนกับอดีตรัฐมนตรีท่านนี้ไม่มีอะไรกัน ไม่มีอะไรบาดหมางกัน ผมไม่เคยเอ่ยถึงท่าน ไม่มีอะไรพาดพิงท่าน ผมไม่ทราบ ผมพูดต่อหน้าสื่อว่านายตู้ ห่าว ไปเกี่ยวข้อง แต่นายสันธนะ เป็นคนพูดเองว่าท่านฝากดูแลคนจีนเหล่านี้ นั่นคือจุดเกิดเหตุ ซึ่งไม่ได้มาจากตนเลย ทั้งนี้เชื่อว่า เมื่อตรวจสอบแล้วสุดท้ายคงเจอตอแน่ เพราะถ้ามีมีตอจะเอารถออก 4 คัน สลับตัวผู้ต้องหา หมายจับออกช้าได้อย่างไร
“ชูวิทย์”ดักรอ“สันธนะ”หวิดวางมวย
ต่อมาเมื่อ นายชูวิทย์ทราบว่า นายสันธนะ จะเข้ามายื่นหนังสือที่บริเวณจุดรับยื่นหนังสือบริเวณรัฐสภาใกล้ศาลาแก้ว จึงได้ดักรอ นายสันธนะ จนถึงเวลา 10.30 น. นายสันธนะ เดินทางมาที่จุดรับยื่นหนังสือแต่ไม่สามารถเข้าเดินเข้าไปได้ เนื่องจากนายชูวิทย์ได้ยืนดักรออยู่บริเวณประตูทางเข้า จึงทำให้นายสันธนะต้องยื่นหนังสือบริเวณทางเดิน โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐสภา คอยกันทั้ง 2 คนเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์บานปลายจนปะทะกัน นายชูวิทย์ จึงทำได้แค่ตะโกนด่าทอใส่ นายสันธนะเป็นระยะๆ ประมาณครึ่งชั่วโมงเช่น ไอมาเฟียขี้แง ทำเป็นเก่ง ตรวจสอบนู่นนี่ มึงหัดตรวจสอบตัวเองบ้าง มึงเก่งจริงไม่ใช่หรอ มาเจอกับกูตัวๆ ดีกว่า มาคุยกัน ใส่กระโปรงมาหรือเปล่าวันนี้ นึกว่าแน่ และอื่นๆ อีกมากมาย แต่ทาง นายสันธนะ ตะโกนกลับมาเพียงว่า “กินน้ำบ้างนะเดี๋ยวคอแห้ง” จากนั้นเวลา 11.00น. นายชูวิทย์ได้เดินทางกลับพร้อมกล่าวว่าจะเดินทางไปที่สโมสรตำรวจต่อไป
‘ตู้ห่าว’มอบตัว-ปัดเอี่ยวยาเสพติด
ต่อมา เวลา 13.00 น. ที่สโมสรตำรวจ นายชัยณัฐร์ พร้อมทนายความ เดินทางเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนชุดคลี่คลายคดีนายทุนจีนสีเทา หลังศาลอาญากรุงเทพใต้ออกหมายจับในฐานความผิดสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ผู้นั้นสมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด, ร่วมกันค้ายาเสพติด และร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย โดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เดินทางมาสอบปากคำด้วยตัวเอง
เบื้องต้นเจ้าตัวได้ปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด แต่การที่ตำรวจมีหลักฐานในการออกหมายจับนั้น จะให้ทนายความเป็นผู้ชี้แจง รวมถึงเรื่องการประกันตัวจะให้ทนายเป็นผู้ดำเนินการ
“บิ๊กโจ๊ก”เเถลงดำเนินคดีทุนจีน
ต่อมา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ แถลงผลปฏิบัติการดำเนินคดีกับกลุ่มนายทุนจีนและนอมินีร้านจินหลิง ผับ , เบเบี้เฟซ, ท็อปวัน และคลับวัน จากปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น 5 ครั้ง เป้าหมาย 75 จุด ใน 20 จังหวัด จับกุมผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องได้ 93 คน ยึด อายัดทรัพย์สินไว้ตรวจสอบทั้ง เงินสด รถยนต์หรู และเครื่องประดับ มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท จากการขยายผล 4 คดี ที่สถานบันเทิงเกี่ยวข้องกับนายทุนจีนสีเทา ได้แก่ ร้านจินหลิง พื้นที่ สน.ยานนาวา ได้ออกหมายจับและจับกุมผู้ต้องหาได้ 6 คน หนึ่งในนั้นคือนายตู้ห่าว
กรณีที่ 2 คือ ร้านท็อปวัน พื้นที่ สน.สุทธิสาร ซึ่งมีหญิงชาวจีนเสียชีวิตจากการเสพยาเสพติดเกินขนาด และมีผู้ต้องหาเข้าไปเกี่ยวข้องกับการซุกซ่อนอำพรางหลักฐานเกี่ยวกับการเสียชีวิต ซึ่งได้จับกุมไปแล้ว 4 คน จึงมีการขยายผลว่าสถานบันเทิงเกี่ยวข้องกับยาเสพติด จึงขออนุมัติศาลออกหมายจับกรรมการและผู้ถือหุ้น 2 คน และจับกุมในเวลาต่อมา, กรณีที่ 3 ร้านเบบี้เฟซ พื้นที่ สน.คลองตัน ดำเนินคดีและจับกุมผู้ต้องหา 4 คน และกรณีที่ 4 ร้านคลับวัน พัทยา จ.ชลบุรี พื้นที่ สภ.เมืองพัทยา ดำเนินคดีผู้ต้องหา 4 คน
ยันมีหลักฐาน‘ตู้ห่าว’อยู่เบื้องหลัง
“5 เสือ นายทุนจีนสีเทา ที่เข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทย ได้จับกุมตัวการใหญ่ไปแล้ว 3 กลุ่ม คือ นายตู้ห่าว ,นายเดวิด ,และนายยู่ ฉาง เฟย ส่วนกลุ่มที่ 4 คือนายโทนี่และนายจอห์นนี่ อยู่ระหว่างการตรวจสอบเพื่อเอาผิด และกลุ่มที่ 5 คือ นายหมิง ซึ่งขณะนี้หลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว ส่วนการสอบปากคำนายตู้ห่าวยังให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาและจะขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น แต่ทางตำรวจมีหลักฐานว่านายตู้ห่าวมีการเดินทางเข้าออกผับจินหลิงบ่อยครั้งและเป็นผู้เช่าอาคารสถานที่ เชื่อได้ว่านายตู้ห่าวอยู่เบื้องหลังในการสั่งการและบริหารผับจินหลิง หากการสอบสวนแล้วเสร็จจะควบคุมตัวไปขออำนาจศาลอาญากรุงเทพใต้ฝากขังต่อไป และจะคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด” รอง ผบ.ตร.กล่าว
เตรียมขยายผลเอาผิดผู้เกี่ยวข้อง
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบบ้านพักย่านตลิ่งชันของนายตู้ห่าว เบื้องต้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย พบภรรยาของนายตู้ห่าว มียศเป็นพ.ต.อ. สังกัดกองการต่างประเทศ ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานอดีตผบ.ตร. และอดีตรองนายกรัฐมนตรี สอบสวนเบื้องต้นไม่พบว่ามีความเชื่อมโยงในการกระทำความผิด แต่อย่างไรก็ตามที่มีการตั้งข้อสงสัยว่า ภรรยาครอบครองบ้านหรู 200 ล้านบาท การสอบสวนจะมีการขยายผลไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดหากพบว่ามีเส้นทางการเงินต้องถูกดำเนินคดีทุกคน
ส่วนกรณีที่นายตู้ห่าวมีความสนิทสนมกับอดีตรัฐมนตรีและเคยบริจาคเงินให้พรรคพลังประชารัฐ เบื้องต้นพรรคการเมืองไม่ทราบเจตนาที่มาของเงิน ส่วนความเชื่อมโยงระหว่างนายตู้ห่าวและอดีตรัฐมนตรีคนหนึ่งจะต้องตรวจสอบเส้นทางการเงินอีกครั้ง
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่าจะดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐที่มีพฤติกรรมให้ความช่วยเหลือทางคดีกับผู้ต้องหาผับจินหลิง คือ รองผู้กำกับจราจร สน.ลาดพร้าว, พนักงานสอบสวน สน.ยานนาวา 2 นาย ที่ปล่อยตัวผู้ต้องหาไปโดยมิชอบ และล่าสุดคือรองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 รักษาราชการแทนผู้กำกับการ สน.ยานนาวา ในความผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หลังสอบสวนพบว่ามีการปล่อยคืนรถหรูทั้งหมด 4 คัน ที่เป็นของกลางในผับจินหลิงให้ผู้ต้องหา โดยแลกกับผลประโยชน์คันละ 2 ล้านบาท
“ชูวิทย์”ยื่นข้อมูลนิมินีเพิ่มเติม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในระหว่างการแถลงข่าว นายชูวิทย์ได้นำเอกสารสำคัญเพิ่มเติมมามอบให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ซึ่งในเอกสารเป็นข้อมูลเกี่ยวกับนอมินีของนายตู้ห่าว ซึ่งเป็นภรรยาอีกคนหนึ่งของนายตู้ห่าวชื่อพัชรรินทร์ มีอาชีพขายเครื่องครัวย่านพระราม 4 แต่มีทรัพย์สินมากมายหลายพันล้านบาท ขอให้ตรวจสอบทรัพย์สินก่อนจะมีการโยกย้ายถ่ายเทไปที่อื่น เนื่องจากภรรยาคนนี้มีความสัมพันธ์อันดีกับผู้ใหญ่ในบ้านเมืองที่ชอบสะสมนาฬิกาหรู และขอให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เร่งดำเนินคดี เพราะสังคมจับจ้องเรื่องนี้อยู่ ส่วนตนถือว่าหมดหน้าที่ในวันนี้แล้วยืนยันว่าไม่ได้ต้องการมีชื่อเสียงหรือหิวเเสง
ภายหลังแถลงข่าวเสร็จ เจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายตู้ห่าวไปสอบสวนเพิ่มเติมที่ สน.ยานนาวา ก่อนที่จะส่งตัวไปขออำนาจศาลฝากขังในวันที่ 24 พฤศจิกายนต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี