เปิดใจลุงวัย 58 ปีขับรถยนต์บรรทุกแกลลอนน้ำมันพร้อมจุดไฟเบาะหลังพุ่งชนประตูเหล็ก สนง.บังคับคดี เผยตั้งใจเผาตัวเองเพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรม อ้างถูก จนท.รัฐบอกจะเข้ามาช่วยเดินเรื่องไถ่ที่นา แต่สุดท้ายกลับถูกยึดขายทอดตลาด ทั้งจะช่วยฟ้องขอแบ่งที่มรดก จนยอมขายโรงสี จำนองบ้านหมดตัวแถมเป็นหนี้ทั้งในนอกระบบสะสมอีกกว่า 3 ล้าน วอนผู้มีอำนาจตรวจสอบช่วยเหลือ
ความคืบหน้ากรณีที่นายมานพ มาลี อายุ 58 ปี ชาว อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ ขับรถยนต์กระบะสี่ประตู บรรทุกแกลลอนน้ำมัน จำนวน 5 แกลลอน ใส่ไว้บริเวณที่วางเท้าด้านหลังเบาะคนขับ 2 ถัง และกระบะท้ายอีก 3 แกลลอน พร้อมจุดไฟบริเวณเบาะด้านหลังคนขับ พุ่งชนประตูรั้วเหล็ก สำนักงานบังคับคดีจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งตั้งอยู่ด้านหลังที่ว่าการอำเภอเมืองบุรีรัมย์ ได้รับความเสียหาย ส่วนตัวรถเข้าไปจอดอยู่ใต้อาคารสำนักงานบังคับคดี ในสภาพด้านในตัวรถถูกไฟไหม้ ส่วนลุงมานพ คนขับหมดสติเพราะถูกเปลวไฟลวกตามร่างกายและสูดกลิ่นควันไฟเข้าไปจำนวนมาก เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. วานนี้ (23 พ.ย.65) (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ระทึกลุงวัย 58 ขับกระบะบรรทุกแกลลอนน้ำมันจุดไฟพุ่งชน สนง.บังคับคดีบุรีรัมย์)
ล่าสุด วันนี้ (24 พ.ย.65) ลุงมานพ ยังรักษาตัวอยู่ที่ รพ.บุรีรัมย์ แต่อาการดีขึ้นหมอได้ถอดท่อช่วยหายใจออกแล้ว เพราะสามารถหายใจได้ด้วยตัวเอง และพูดคุยสื่อสารได้แล้ว โดยลุงมานพ เปิดใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ตั้งใจจะจุดไฟเผาตัวเองในรถ เพื่อต้องการจะเรียกร้องขอความเป็นธรรมและสะท้อนให้ผู้หลักผู้ใหญ่ได้เห็นว่าประชาชนคนหนึ่งกำลังเดือดร้อนและไม่ได้รับความเป็นธรรม
โดยลุงมานพ อ้างว่า ตอนแรกได้ถูกเต็นท์รถโกงกรณีไปซื้อรถยนต์มือสองที่เต็นท์แห่งหนึ่ง ในราคา 6 แสนบาท เอามาขับได้แค่ 5 เดือน รถเริ่มมีปัญหาทั้งถังน้ำมันรั่ว ประตูปิดไม่ได้จึงเอารถมาคืนเต็นท์ เขาก็หลอกว่าจะทำประกันชั้น 1 ให้โดยเรียกเอาเงิน 30,000 บาทแต่กลับไม่ได้ทำประกันให้จริง จึงตัดสินใจนำรถกลับไปคืนเต็นท์ทั้งที่ผ่อนจ่ายไปแล้ว 5 เดือน แต่ทางเต็นท์ก็เรียกค่าเสียหายเพิ่มอีก 7 หมื่นบาท ซึ่งลูกสาวก็เป็นคนไปจ่ายให้ทั้งหมด
แต่หลังจากนั้นพอลูกสาวเสียชีวิตก็ถูก ธกส.มายึดที่นาที่เป็นชื่อของภรรยาไปอีก 6 ไร่ โดยไม่ทราบสาเหตุทั้งที่ทำนามาตลอดส่งต้นและดอกเบี้ยทุกปี จากนั้นก็มี จนท.รัฐบางคนมาบอกว่าจะช่วยเดินเรื่องไถ่ถอนที่นาคืนให้จนถึงวันที่มีการขายทอดตลาดตนก็หอบเงินไป 3 แสนบาท เพื่อหวังจะไถ่ที่นาคืน แต่ จนท.คนดังกล่าวกลับบอกว่าที่นาถูกขายไปแล้ว ส่วนเงินที่ให้ไปก็ไม่ยอมคืนให้
กระทั่งล่าสุดเมื่อประมาณปี 2564 ก็มี จนท.รัฐหลายคน มาอ้างว่าจะช่วยฟ้องร้องขอแบ่งสิทธิในที่ดินมรดกของครอบครัวตนเอง หลังจากที่พ่อแม่ได้เสียชีวิต แต่พี่สาวที่ได้สิทธิเป็นผู้ดูแลมรดกไม่ยอมแบ่งให้พี่น้องที่มีทั้งหมด 6 คน จนต้องมีการฟ้องร้องเพื่อขอแบ่งที่มรดกตามกฎหมาย ก็มีการเสนอตัวจะเข้ามาช่วยเหลือในการฟ้องร้องคดีที่ดินมรดกให้ ซึ่งช่วงที่มีการเดินเรื่องฟ้องร้องต้องยอมขายโรงสี หมูที่เลี้ยงไว้ และจำนองบ้านกับนายทุน เพื่อนำเงินไปใช้จ่ายในการเดินเรื่องฟ้องร้อง จนทุกวันนี้แทบหมดตัว แถมเป็นหนี้ทั้งในนอกระบบสะสมอีกกว่า 3 ล้าน แต่เรื่องก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะได้ที่ดินไปทำมาหากินเลย เคยไปร้องขอความเป็นธรรมหลายหน่วยงานแต่ไม่มีใครช่วยเหลือเลย
"กระทั่งล่าสุดเมื่อวานนี้ 23 พ.ย.65 เป็นวันที่ทนายความนัดมาศาลเพื่อพูดคุยเรื่องคดีที่ดินมรดก แต่กลับไม่มา ทำให้เกิดความเครียดจึงไปซื้อน้ำมันใส่แกลลอนมา 5 แกลลอน พร้อมพลุ ประทัด ตั้งใจจุดไฟเผาตัวเองในรถเพื่อต้องการเรียกร้องความเป็นธรรมและให้ผู้มีอำนาจได้รับรู้ และอยากให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง ไม่ได้เจตนาจะทำลายทรัพย์สินราชการหรือทำอันตรายบุคคลอื่น"ลุงมานพ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่พนักงานสอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ เตรียมเรียกลุงมานพ และพยานที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำ หากพยานหลักฐานชี้ชัดได้ว่าลุงมานพ มีเจตนาขับรถพุ่งชนสถานที่ราชการและวางเพลิง ก็จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ฐานทำให้ทรัพย์สินราชการเสียหาย และวางเพลิงเผาทรัพย์
-001
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี