นักเรียนพร้อมผู้นำท้องถิ่นกว่า 200 คนใน อำเภอปลาปาก จังหวัดนครพนมฮือไล่ "ผอ.โรงเรียน"กับ "ครูผู้ชำนาญการพิเศษ" กล่าวหาไม่โปร่งใสเงินปัจจัยพื้นฐานนักเรียนยากจนกว่า 2 ล้านบาท ขีดเส้นให้ออกนอกพื้นที่ภายใน 24 ชั่วโมง
วันที่ 8 ธ.ค.65 เมื่อช่วงเวลา 08.30 น.ที่บริเวณหน้าเสาธงโรงเรียนแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.กุตาไก้ อ.ปลาปาก จ.นครพนม มีนักเรียนระดับชั้นมัะยมศึกษาปีที่ 1-6 (ม.1-ม.6) กว่า 200 คน พร้อมด้วยผู้นำท้องถิ่น ชุมชน ผู้ปกครองนักเรียน และศิษย์เก่าโรงเรียน ได้รวมตัวกันขับไล่ผู้อำนวยการโรงเรียน (ผอ.) และครูชำนาญการพิเศษและปฏิบัติหน้าที่ฝ่ายการเงินออกจากพื้นที่ภายใน 24 ชั่วโมง โดยมีฝ่ายปกครอง อส.ฯ และตำรวจ สภ.กุตาไก้ ร่วมสังเกตการณ์
โดยมีตัวแทนนักเรียนผลัดเปลี่ยนกันขึ้นเวทีกล่าวถึงการปฏิบัติหน้าที่ของ ผอ.และฝ่ายการเงินที่ไม่โปร่งใส โดยยื่นข้อเรียกร้องให้ย้าย ผอ.และครูการเงินออกนอกพื้นที่ภายใน 24 ชั่วโมง พร้อมให้ตรวจสอบความโปร่งใสในการบริหารงบประมาณฯ เรื่องการแจกทุนปัจจัยพื้นฐานนักเรียนยากจนประจำปี 2561-2564 และเรื่องจัดซื้อรถบัสประจำโรงเรียน รวมถึงการบริหารงบประมาณอื่นๆ
นายเจริญ หูมแพง ผู้ใหญ่บ้านนาเรียงหมู่ 3 ต.กุตาไก้ เปิดเผยว่า นำลูกชายเข้าเรียนระดับชั้นมัธยมต้นที่โรงเรียนแห่งนี้ โดยที่ผ่านมานักเรียนระดับชั้น ม.1-ม.3 จะต้องได้รับเงินปัจจัยพื้นฐานนักเรียนยากจนเทอมละ 1,500 บาท หนึ่งภาคเรียนมี 2 เทอม นักเรียน 1 คนจะต้องได้รับเงินดังกล่าวรวม 3,000 บาท/ปี เท่ากับว่าลูกชายตนเรียน ม.1-ม.3 ควรได้เงินรวมทั้งสิ้น 12,000 บาท ปัจจุบันลูกชายเรียนอยู่ชั้น ม.5 ยังไม่ได้รับเงินที่พึงจะได้แม้แต่บาทเดียว ทั้งที่มีงบประมาณตกลงมาทุกปี ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้ปกครองจะได้รับเงินดังกล่าวทุกเทอม ครั้นมี ผอ.คนปัจจุบันมาบริหาร ไม่มีผู้ปกครองคนไหนได้รับเงินแม้แต่รายเดียว
โดยมีข้อมูลในช่วงปีการศึกษา 2561-2564 นักเรียนภาคเรียนที่ 1 มีจำนวน 776 ราย คิดเป็นเงินที่ทางโรงเรียนต้องจ่ายแก่ผู้ปกครองจำนวน 1,164,000 บาท (หนึ่งล้านหนึ่งแสนหกหมื่นสี่พันบาทถ้วน) ส่วนภาคเรียนที่ 2 มีนักเรียน 849 ราย รวมเป็นเงิน 1,318,500 บาท (หนึ่งล้านสามแสนหนึ่งหมื่นแปดพันห้าร้อยบาทถ้วน) รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 2,482,500 บาท (สองล้านสี่แสนแปดหมื่นสองพันห้าร้อยบาทถ้วน) ทางผู้ปกครองตลอดจนผู้นำท้องถิ่น ชุมชน จึงเกิดความสงสัยว่าเงินจำนวนนี้ไปอยู่ไหน สอบถาม ผอ.ก็บ่ายเบี่ยงที่จะตอบคำถาม
โดยในระหว่างนักเรียนกล่าวถึงการบริหารงานที่ไม่โปร่งใสของ ผอ.และครูชำนาญการพิเศษ ปฏิบัติหน้าที่การเงิน ได้มีการรายงานเหตุการณ์ดังกล่าวไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครพนม (สพม.นครพนม) เนื่องจากกลุ่มนักเรียนต้องการให้ ผอ.สพม.นครพนม มารับหนังสือร้องเรียนด้วยตนเอง และไม่ต้องการตัวแทนที่ไม่มีอำนาจการตัดสินใจมารับหนังสือ แต่ ผอ.สพม. ไปราชการที่ กทม. มีเพียงนายภคิน ลดาดกจิรานนท์ รอง ผอ.สพม.นครพนม รักษาราชการแทนฯ
นายภคิน ได้เดินทางมาพร้อมกับนายฉัตรณรงค์ วงศ์พนารัตน์ ผู้อำนวยการกลุ่มกฎหมายและคดี และผู้อำนวยการจากโรงเรียนแห่งหนึ่ง โดยฝ่ายหลังนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ จึงมีคำถามว่ามาทำอะไร และเมื่อลงจากรถตู้ก็เรียกหาหนังสือร้องเรียนอยู่ท่าเดียว จึงถูกผู้ใหญ่บ้านดอนดู่ หมู่ 3 ต.กุตาไก้ บอกให้ใจเย็นๆ เพราะกลุ่มผู้ร้องเรียนไม่มีความเชื่อมั่นว่าหลังรับหนังสือไปแล้วจะดำเนินการตามข้อเรียกร้องหรือไม่ เพราะมีข่าวแว่วมาว่ามีการช่วยเหลือกันและกัน
อีกอย่างการมารวมตัวกันครั้งนี้ ไม่มีการนัดหมายใดๆ ทำให้คณะที่เดินทางมาจาก สพม.นครพนมนิ่งลงกว่าทีแรก ถึงกระนั้นนักเรียน ผู้นำชุมชน ท้องถิ่น ก็ไม่มีความมั่นใจ จึงต้องการให้ผู้มีอำนาจในการตัดสินใจมารับหนังสือ นายภคิน จึงขอให้นายเชิดพันธ์ ผลวิเชียร ปลัดอาวุโสอำเภอปลาปาก ร่วมเป็นพยานในการรับหนังสือ หลังรับหนังสือก็ไม่ได้กล่าวให้คำยืนยันอะไรรีบเดินขึ้นรถตู้กลับทันที
ทั้งนี้ ก่อนหน้าที่จะมีการรวมตัวของนักเรียน ผู้นำชุมชน ท้องถิ่น ได้คำสั่งให้ ผอ.โรงเรียนและครูผู้ชำนาญการพิเศษ เข้าไปช่วยราชการใน สพม.นครพนม โดยยังไม่ได้ขาดจากตำแหน่งเดิม ยิ่งทำให้กลุ่มผู้ร้องเรียนไม่มีความเชื่อมั่นในการตรวจสอบ ข่าวคืบหน้าจะนำมาเสนอต่อไป - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี