วันอาทิตย์ ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
ลูกทุน ม.ท.ศ.ตั้งมั่นตอบแทนคุณแผ่นดินสานต่อพระราชปณิธาน 'พระราชา'

ลูกทุน ม.ท.ศ.ตั้งมั่นตอบแทนคุณแผ่นดินสานต่อพระราชปณิธาน 'พระราชา'

วันอาทิตย์ ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2565, 16.50 น.
Tag : ตอบแทนคุณแผ่นดิน พระราชปณิธาน พระราชา ในหลวง แนวหน้าออนไลน์
  •  

ลูกทุน ม.ท.ศ.ตั้งมั่นตอบแทนคุณแผ่นดินสานต่อพระราชปณิธาน 'พระราชา' ในหลวงทรงเป็นดั่งแสงสว่างสร้างชีวิตใหม่  

ด้วยพระปรีชาสามารถ และพระราชหฤทัยอันแน่วแน่ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงเห็นว่าการพัฒนาการศึกษา คือ การสร้างความมั่นคงของประเทศ จึงทรงสนับสนุนด้านการศึกษาให้กับประชาชนได้เรียนรู้สามารถนํามาใช้ประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัว รวมถึงสามารถนำความรู้มาพัฒนาสังคมและประเทศชาติได้ 


ดังนั้น จึงทรงมีพระราชดำริให้ดำเนิน “โครงการทุนการศึกษาสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร” ขึ้นเมื่อปี 2552 โดยให้ทรงนำพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์และเงินบริจาคโดยเสด็จพระราชกุศล มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดตามพระราชปณิธานที่มุ่งสร้างความรู้ สร้างโอกาสแก่เยาวชนไทยที่ประพฤติดี มีความสามารถในการศึกษาให้ได้รับโอกาสทางการศึกษาที่มั่นคงต่อมาในปี 2553 มีพระราชดำริให้จัดตั้ง “มูลนิธิทุนการศึกษาพระราชทานสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฏราชกุมาร” โดยเรียกย่อว่า(ม.ท.ศ.)” ทรงเป็นองค์ประธานกรรมการ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้นำโครงการทุนการศึกษาฯ มาอยู่ภายใต้การดำเนินงานของมูลนิธิฯ เพื่อให้เกิดความยั่งยืนสืบต่อไป

 

 

ตลอดระยะเวลา 13 ปี ของการดำเนินงานโครงการทุน ม.ท.ศ. น้ำพระราชหฤทัยอันเปี่ยมล้น ได้ส่องประกายสานฝันให้เยาวชนไทยทั่วประเทศ จากรุ่นสู่รุ่น ได้มีอนาคตอันสดใส นักเรียนทุนพระราชทานบางคนจากที่ไม่เคยคิดว่าชีวิตนี้จะได้รับการศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี ก็กลับมามีความหวังในเส้นทางแห่งอนาคตที่วาดฝันไว้อีกครั้ง  บางคนที่ได้รับทุนพระราชทานจนสำเร็จการศึกษาระดับชั้นปริญญาตรีพวกเขาก็พร้อมนำความรู้ความสามารถที่ได้เล่าเรียนกลับไปพัฒนาบ้านเกิดเมืองนอนตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน และประเทศชาติอย่างยั่งยืนสืบไป ดังพระบรมราโชบายที่นักเรียนทุนพระราชทานทุกคนล้วนจำได้อย่างขึ้นใจ ว่า ““เรียนดี ความรู้ดี การงานดี ชีวิตสดใส ทำประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติมีความสุข”

ผู้หมวดบาส-ว่าที่ร้อยตรี อนุรุทธ ด้วงทอง นักเรียนทุนฯ ม.ท.ศ.รุ่นที่ 2 รับราชการตำรวจที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 7 จ.ราชบุรี ตำแหน่งนักวิทยาศาสตร์สัญญาบัตร 1 (นวท.สบ1) เล่าด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ว่า ในชีวิตนี้ไม่เคยคิดว่าจะมีโอกาสได้ศึกษาจนจบระดับชั้นปริญญาตรีเลยด้วยซ้ำแค่ศึกษาจบชั้นมัธยมปลายก็ดีที่สุดแล้ว แต่วันหนึ่งก็มีแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์เกิดขึ้น เมื่อได้รับคัดเลือกให้ได้รับทุนการศึกษาพระราชทาน ม.ท.ศ. และวันนั้นเองก็ได้เห็นรอยยิ้มแห่งความยินดีบนใบหน้าผู้เป็นมารดาอีกครั้ง

 

 

“ผมเป็นนักเรียนทุนพระราชทาน ปีการศึกษา 2553 ตอนนั้นทางบ้านฐานะยากจน คุณแม่กับคุณพ่อแยกทางกันตั้งแต่ผมอายุ 2 ขวบ คุณแม่ทำงานคนเดียวเป็นเสาหลักของครอบครัวต้องดูแล 6 ชีวิต ลำบากมาก คุณแม่หาเช้ากินค่ำเป็นแม่ค้า แม่บอกว่าไม่รู้จะมีกำลังส่งเราเรียนได้ถึงระดับไหน แต่เราก็มีความตั้งใจอยากจะศึกษาในระดับที่สูงเท่าที่ครอบครัวจะส่งได้ แต่พออาจารย์ที่โรงเรียนแนะนำให้สมัคร ทุน ม.ท.ศ. ก็รีบสมัครทันที ตอนนั้นเขาคัดเลือกนักเรียนทุนจาก 3 ข้อ คือ เรื่องความประพฤติ ฐานะและความมุ่งมั่นที่จะประกอบอาชีพ ซึ่งผมก็เป็นหนึ่งในคนที่ได้รับคัดเลือก ดีใจมาก ซึ่งเป็นทุนต่อเนื่องที่ส่งเสียจนเรียนจบปริญญาตรี ก็เป็นโอกาสทำให้ผมก้าวมาถึงจุดนี้  ทำให้ชีวิตเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ  จากแม่ที่เคยเหนื่อยก็ลดภาระการส่งเสียค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา เพราะทุนนี้มีเงินค่าเรียนและค่าครองชีพให้  ซึ่งตรงนี้ช่วยลดภาระแม่ที่ทำงานหนักได้เป็นอย่างดี” หมวดบาส กล่าว 

หมวดบาส กล่าวต่อว่า เพราะมีความฝันอันแน่วแน่ที่อยากจะเป็นข้าราชการ เพื่อเป็นฟันเฟืองเล็ก ๆในการช่วยเหลือประเทศชาติและประชาชนเมื่อสำเร็จการศึกษาจากระดับปริญญาตรีและปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี สาขาฟิสิกส์ประยุกต์ จึงเลือกเข้าสู่เส้นทางชีวิตข้าราชการที่เคยวาดฝันไว้ และพร้อมน้อมนำพระบรมราโชบายในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระราชทานให้แก่นักเรียนทุนทุกคน เมื่อครั้งที่เข้าเฝ้าฯรับพระราชทานทุนมาเป็นหลักยึดในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ

“ชีวิตนี้มีความฝันอยู่สองอย่างคือ เป็นข้าราชการในสายทหารตำรวจกับเป็นข้าราชการครู ตอนแรกก็ไปเป็นอาจารย์ก่อน ใช้ชีวิตในการสอนหนังสือแต่เราก็ยังรักในสายตำรวจก็เลยมาสอบ ได้บรรจุที่หน่วยพิสูจน์หลักฐาน ผมได้น้อมนำกระแสพระราชดำรัสของในหลวงมาใช้ในฐานะข้าราชการตำรวจ คือการผดุงความยุติธรรมเพื่อจะรับใช้ประชาชน ดังนั้นในสายงานของพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ประชาชนจะต้องมีความเดือดร้อนแล้วต้องให้เราช่วยในการแก้ไขปัญหา เพราะเราเอาหลักของวิทยาศาสตร์ไปช่วยคลี่คลายคดีในการเริ่มต้นคดีประกอบสำนวนของพนักงานสอบสวน จะต้องมีพยานหลักฐาน การตรวจเก็บวัตถุพยาน เราก็จะใช้ความรู้จากสาขาฟิสิกส์มาช่วยแก้ไขปัญหาให้ประชาชนได้ สิ่งนี้มันอยู่ในใจของเราอยู่แล้วว่าการทำประโยชน์เพื่อประเทศชาติ เราอาจไม่สามารถช่วยได้ทั้งหมดแต่เราก็สามารถช่วยในสิ่งที่เราทำได้”

ผู้หมวดบาส ยังเล่าต่อว่า ทุนการศึกพระราชทาน ม.ท.ศ. เปรียบเสมือนกับน้ำทิพย์ มาหล่อเลี้ยงชีวิตต่อลมหายใจให้ตนและครอบครัวได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน 

“ทุนพระราชทานนี้ไม่ใช่แค่ได้กับผมคนเดียว แต่ปัจจุบันผมสามารถเลี้ยงดูครอบครัวได้เพราะฉะนั้น มันเป็นผลลัพธ์ที่เป็นจุดเริ่มต้นเล็ก ๆจากการได้รับพระราชทานทุนของพระองค์ ดังนั้น สิ่งนี้ถือเป็นกำลังใจ ให้ตัวเองและครอบครัวได้มาถึงจุดนี้ในปัจจุบัน และผมตั้งใจจะเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่ผู้อื่นและตอบแทนสังคมอย่างสุดกำลังเมื่อมีโอกาส” หมวดบาส กล่าว 

ขณะที่ หมอแอม-แพทย์หญิงปิยกมล กล่ำสวัสดิ์  นักเรียนทุนฯ ม.ท.ศ.รุ่นที่ 5 คุณหมอป้ายแดงนายแพทย์ปฎิบัติการ แห่งโรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสงคราม เป็นอีกหนึ่งคนที่ได้รับสายธารแห่งพระมหากรุณาธิคุณ จากที่คิดว่าชีวิตนี้คงไม่มีโอกาสได้เป็นหมออย่างใจหวัง  เพราะฐานะทางบ้านที่ยังต้องอดมื้อกินมื้อ เพื่อให้อีก4 ชีวิตอยู่ได้ แต่เมื่อวันหนึ่งเธอได้รับทุนการศึกษาพระราชทาน เหมือนชีวิตได้เกิดใหม่ทำให้เธอมีความหวังและกำลังใจในการดำเนินชีวิตอีกครั้ง

“วินาทีที่รู้ว่าได้รับทุนพระราชทานดีใจมากมีความโล่งอก เพราะมีหนทางที่จะได้เรียนหมอตามความตั้งใจแล้ว เพียงแค่มาบวกกับความพยายามตั้งใจเรียนของเราอีกนิดนึ่ง เพราะฐานะทางบ้านก็ไม่ค่อยดีมีพี่น้องอีก 4 คน แถมคุณแม่ก็ป่วยเป็นอัมพฤกษ์แขนขวาไม่มีแรง หลังเลิกเรียนต้องไปช่วยคุณแม่ขายกาแฟรถเข็น พี่น้องทุกคนอยากให้หนูออกมาเรียนผู้ช่วยพยาบาล เพราะเรียนแค่สองปีก็สามารถทำงานได้ ตอนนั้นก็คือพยายามตั้งใจเรียน ขอบคุณครูที่เห็นความตั้งใจจึงแนะนำทุนการศึกษาพระราชทานให้ วันแรกที่ได้เข้าเฝ้าในหลวงรู้สึกตื่นเต้นมากทำอะไรไม่ถูก แต่ก็ต้องตั้งสติทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด”

พอสำเร็จการศึกษาคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ด้วยเกียรตินิยมอันดับ 2 ตามความตั้งใจ หมอแอมจึงเลือกเข้าโครงการแพทย์ชนบทเพื่อกลับมาทำงานรับใช้บ้านเกิดที่โรงพยาบาลจังหวัดสมุทรสงครามอันเป็นการสนองพระราชปณิธานขององค์ผู้ก่อตั้งมูลนิธิที่สามารถนําความรู้มาใช้ประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัว รวมถึงพัฒนาสังคมและประเทศชาติได้

“หนูน้อมนำกระแสพระราชดำรัสที่พระองค์พระราชทานให้ในทุกครั้ง เริ่มตั้งแต่คำว่าเรียนดี เราก็พยายามตั้งไจเรียนแล้วพอเรียนจบก็เลือกที่จะกลับไปเป็นหมอในโครงการแพทย์ชนบทกลับมาใช้ทุนที่บ้านจังหวัดสมุทรสงครามซึ่งค่อนข้างเป็นจังหวัดเล็กทำให้แพทย์มีไม่เพียงพอต่อจำนวนผู้ป่วย พอกลับมาบ้านก็สามารถดูแลครอบครัวได้แล้วก็สามารถทำประโยชน์ให้กับบ้านเกิดของตัวเองได้ ในฐานะหมอ จริงๆเราก็คิดว่าผู้ป่วยทุกคนเป็นเหมือนญาติพี่น้องทำให้ทุกคนอย่างเต็มที่และเท่าเทียมเต็มที่ ตอนนี้คุณหมอก็ให้เราเป็นคนที่ดูแลอาการของคุณแม่โดยตรง ชีวิตตอนนี้เปลี่ยนไปเยอะมากทั้งเรื่องการใช้ชีวิตรู้สึกว่าครอบครัวดีขึ้นจากที่บางมื้ออาจต้องอดกินในบางมื้อ หนูรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาที่คุณอย่างหาที่สุดไม่ได้เพราะว่าการได้ทุนนี้มันเปลี่ยนชีวิตหนูมากๆแล้วก็ต้องขอบคุณพระองค์ที่มองเห็นจุดเล็กๆจุดน้อยนี้เพื่อที่จะสามารถทำประโยชน์ให้กับสังคมและประเทศชาติได้” หมอแอม กล่าว.-008 
 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • \'สมศักดิ์\'เผยยังไม่พบผู้ป่วย\'โรคแอนแทรกซ์\'เพิ่ม เตือนปชช.ในพื้นที่เสี่ยง เฝ้าระวังใกล้ชิด 'สมศักดิ์'เผยยังไม่พบผู้ป่วย'โรคแอนแทรกซ์'เพิ่ม เตือนปชช.ในพื้นที่เสี่ยง เฝ้าระวังใกล้ชิด
  • \'โฆษก​ มท.\'แจงแล้ว! ​ปมเรียก​สรรพนาม\'คุณลูกค้า\'แทน\'คุณลุง​-​คุณป้า\' 'โฆษก​ มท.'แจงแล้ว! ​ปมเรียก​สรรพนาม'คุณลูกค้า'แทน'คุณลุง​-​คุณป้า'
  • \'รมว.ยุติธรรม\'เป็น ปธ.มอบเงินเยียวยาให้เหยื่อตึก สตง.ถล่ม 'รมว.ยุติธรรม'เป็น ปธ.มอบเงินเยียวยาให้เหยื่อตึก สตง.ถล่ม
  • \'หมอธีระ\'เผยแค่อาทิตย์เดียว ป่วยโควิดเข้า รพ.กว่า 8,446 ราย 'หมอธีระ'เผยแค่อาทิตย์เดียว ป่วยโควิดเข้า รพ.กว่า 8,446 ราย
  • ‘สธ.’ปลื้ม!!! ปชช.พึงพอใจนโยบาย\'30 บาทรักษาทุกที่\'อันดับหนึ่ง ‘สธ.’ปลื้ม!!! ปชช.พึงพอใจนโยบาย'30 บาทรักษาทุกที่'อันดับหนึ่ง
  • 8 พฤษภาคม วันกาชาดโลก ยืนหยัดเคียงข้างมนุษยชาติ บริจาคโลหิต ช่วยชีวิตผู้ป่วย 8 พฤษภาคม วันกาชาดโลก ยืนหยัดเคียงข้างมนุษยชาติ บริจาคโลหิต ช่วยชีวิตผู้ป่วย
  •  

Breaking News

เปล่าคว่ำงบฯปี69! ‘ภท.’ ยันไร้เหตุไม่หนุนประโยชน์ประชาชน-พัฒนาชาติ

กม.ไม่ได้ปล่อย‘ผี’ นักวิชาการ มธ.จี้รัฐเคลียร์ให้ชัด‘ขายเหล้าวันพระใหญ่’

ฮือฮา! ปชช.แห่อาบน้ำมนต์‘วัดไผ่เหลือง’ เชื่อแก้‘ปีชง’ พลิกดวงเป็นเศรษฐี

'สมศักดิ์'เผยยังไม่พบผู้ป่วย'โรคแอนแทรกซ์'เพิ่ม เตือนปชช.ในพื้นที่เสี่ยง เฝ้าระวังใกล้ชิด

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved