กทม.ทำแผนที่โรค 50 เขต พบป่วยไข้เลือดออกสูงเขตกลางเมือง ให้อสส.ลงชุมชนช่วยกันดูแลกำจัดแหล่งเพาะยุงลาย
นางสาวทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงมาตรการป้องกันโรคไข้เลือดออกของกรุงเทพมหานครว่า ปัจจุบัน กทม.กำหนดให้บรรจุแผนที่โรคทั้ง 50 เขต ไว้ในศูนย์ข้อมูล เพื่อประเมินว่าพื้นที่ใดมีจำนวนโรคหรือความเสี่ยงสูง เช่นขณะนี้พื้นที่กลางเมืองเขตพญาไทราชเทวี พบอัตราป่วยสูง จึงต้องจำแนกว่าป่วยเพราะอะไร เนื่องจากเขตดังกล่าวอาจมีสถานพยาบาลหลายแห่ง จึงมีผู้ป่วยไปใช้บริการจำนวนมากกว่าเขตอื่น ดังนั้น กทม.พยายามให้หน่วยงานสาธารณสุขลงตรวจสอบพื้นที่กำจัดลูกน้ำยุงลายให้มากที่สุด รวมถึงสนับสนุนเครื่องมือต่างๆ แก่อาสาสมัครใช้ลงพื้นที่กำจัดลูกน้ำยุงลาย โดยมาตรการดังกล่าวจะนำไปใช้กับทุกบ้านเรือนในพื้นที่ที่พบความเสี่ยง โดยมีอาสาสมัครสาธารณสุข (อสส.) เป็นกำลังสำคัญในการนำทรายกำจัดลูกน้ำยุงลายไปให้ประชาชนในชุมชน พร้อมสร้างความเข้าใจกับประชาชนว่าไม่ใช่เพียงน้ำขังหรือน้ำท่วมที่มองเห็นอย่างเดียวที่เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย หากยังมีน้ำขังจุดเล็กๆ ที่มองไม่เห็น เช่น ในภาชนะที่ถูกนำไปทิ้ง ซึ่งเป็นแหล่งสำคัญที่ทำให้เกิดโรค
ทั้งนี้ แต่ละพื้นที่อาจมีลักษณะชุมชนต่างกัน เช่น บางพื้นที่มีความเร่งรีบสูง ผู้คนออกจากบ้านแต่เช้าและกลับบ้านในตอนค่ำ ทำให้ระหว่างวันแทบไม่ได้อยู่ในพื้นที่ตนเอง จึงไม่มีใครดูแลเรื่องการกำจัดลูกน้ำยุงลายมากนัก กทม.เองต้องเปลี่ยนแผนดำเนินการสำหรับแต่ละพื้นที่ โดยกำชับให้หน่วยงานสาธารณสุขให้ความสำคัญเป็นพิเศษพร้อมประสานกับสำนักงานเขตในพื้นที่ที่ประชาชนไม่มีเวลาอยู่ในชุมชนตนเองมากนัก
อย่างไรก็ดี การดำเนินการแต่ละพื้นที่จะแตกต่างกัน เช่น เขตรอบนอกอาจมีพื้นที่สีเขียวมาก หรือมีแนวโน้มที่จะมีน้ำขังกว่าเขตอื่น แต่จากข้อมูลกลับพบว่าไม่ใช่พื้นที่เสี่ยงโรคไข้เลือดออก เนื่องจากลักษณะวิถีชีวิตของประชาชนยังอยู่ติดพื้นที่ ประชาชนจึงมีส่วนร่วมกันดูแลพื้นที่ตนเอง เพราะโรคไข้เลือดออกสามารถติดต่อได้ ยิ่งคนอยู่ในพื้นที่มากขึ้นจำเป็นต้องดูแลความเรียบร้อยรอบๆ บ้านของตนเอง ซึ่งแตกต่างกับประชาชนพื้นที่กลางเมือง มีวิถีชีวิตต้องออกไปทำงานแต่เช้า กลับค่ำ จึงไม่มีเวลาดูแลอย่างจริงจัง ประกอบกับเวลามีฝนตกน้ำขัง ไม่มีใครคอยสำรวจดูแล จึงทำให้อัตราป่วยสูงกว่าพื้นที่ที่มีประชาชนอยู่ติดชุมชน
“การใส่ใจป้องกันลูกน้ำยุงลายเป็นเรื่องสำคัญ ควรมีความร่วมมือกันระหว่างสำนักงานเขต สก.ในพื้นที่ และอาสาสมัครสาธารณสุข ในการร่วมกันลงพื้นที่ จะช่วยป้องกันโรคได้มากขึ้นดังนั้น พื้นที่ขนาดใหญ่ มีป่าไม้และทุ่งนาจำนวนมาก ไม่ใช่ตัวชี้วัดว่าจะมีอัตราโรคไข้เลือดออกสูง หากขึ้นอยู่กับลักษณะวิถีชีวิต ความใส่ใจร่วมมือกันของหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงประชาชนในพื้นที่ช่วยกันดูแล” นางสาวทวิดากล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี