จากกรณีรถหรูเบนท์ลีย์เฉี่ยวชนรถยนต์ของผู้อื่น เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ก่อนกลายเป็นกระแสขึ้นมา เนื่องจากคนขับรถหรูปฏิเสธไม่ยอมเป่าตรวจวัดแอลกอฮอล์ แต่ขอตรวจเลือดแทน ท่ามกลางกระแสดรามาว่าตำรวจไม่ยอมให้เป่าในตอนเกิดเหตุ ทำให้ปริมาณแอลกอฮอล์ลดลง

วันที่ 11 มกราคม 2566  รายการเรื่องเด่นเย็นนี้ ทางช่อง 3 เปิดใจนายสุทัศน์ สิวาภิรมย์รัตน์ หรือเสี่ยเบนท์ลีย์ โดยเจ้าตัวยืนยันว่า ปกติเป็นคนไม่ดื่มอยู่แล้ว เนื่องจากเป็นโรคกระเพาะและกรดไหลย้อน ทำให้ดื่มเครื่องดื่มที่อัดแก๊สไม่ได้ โดยในวันนั้นในโต๊ะอาหารก็ดื่มกัน มีสปาร์กกิ้งและแชมเปญ แต่ก็ยอมรับว่าดื่มไป 1-2 แก้ว แต่เพียงแก้วเล็กๆ เป็นพิธีเท่านั้น

ส่วนขวดไวน์ที่เจอในรถหลังเกิดเหตุนั้น นายสุทัศน์เล่าว่า ไม่ได้ดื่มในวันนั้น แต่ก่อนหน้านี้แฟนเพื่อนอยากได้ไวน์ขวดนี้ เพราะเป็นไวน์นำเข้าจากต่างประเทศ และเป็นขวดไวน์เปล่า โดยเพื่อนเป็นคนเอามาและลืมทิ้งไว้บนรถของตัวเอง ยืนยันวันนั้นไม่ได้ดื่มไวน์ด้วย โดยวันเกิดเหตุดื่มแชมเปญ 1 ขวดและดื่มกัน 4 คน ส่วนตัวดื่มไปเพียง 1-2 แก้วเล็กๆ เท่านั้น

นายสุทัศน์ ยืนยันไม่ได้ปฏิเสธการเป่าตรวจวัดแอลกอฮอล์ แต่วันเกิดเหตุมีกู้ภัย 30-40 คน และทุกคนเถียงกันไม่จบ ทำให้คิดว่าตัวเองก็เจ็บ เจ็บหน้าอกมากและหายใจติดขัด อีกทั้งผู้หญิงที่มาด้วยเพิ่งไปทำจมูกมาและมีเลือดไหล จึงคิดว่ารถยังอยู่บนทางด่วน และใบขับขี่ก็ให้ไปตั้งแต่หลังเกิดเหตุแล้ว แต่ยังไม่ทำอะไรสักที จึงคิดว่าขอไปโรงพยาบาลใกล้ๆ ก่อน และจะกลับมา ยันไม่ได้หนี

“ผมดูแลตัวเอง ดูแลผู้หญิงที่บาดเจ็บ ผมผิดเหรอ ผมก็ไม่สบายใจที่เกิดอุบัติเหตุ โดยวันนี้ให้คนไปเยี่ยมคู่กรณี พร้อมเงินเยียวยา 1 แสนบาท เพราะตัวเองยังมีอาการเจ็บหน้าอกและมาหาหมออยู่ ยังฝากความห่วงใยไปด้วยว่า ให้สบายใจและพร้อมรับผิดชอบ เรื่องรถที่ชน หากใช้การไม่ได้ก็จะซื้อรถใหม่ให้ ความจริงไม่ได้ชนแรง แค่ไปเฉี่ยวท้าย นิดเดียว ไม่ได้ชนเต็มๆ แต่รถอปพร.ที่ตามหลังมาด้วยความเร็วและไปชนท้ายซ้ำเต็มๆ จึงทำให้หนัก”

นายสุทัศน์ ยังกล่าวอีกว่า ยืนยันทั้งหมดไม่ได้เมาและไม่ได้ปฏิเสธ ส่วนภาพการเคี้ยวหมากฝรั่งนั้น เพราะลดอาการอยากบุหรี่ โดยพยายามเลิกอยู่ ตอนนั้นเครียดและอยากสูบบุหรี่มาก “ความจริงเป็นอุบัติเหตุธรรมดา ถ้าผมขับแท็กซี่ ขับรถธรรมดาก็คงไม่มีอะไร เป็นรถหรูผิดด้วยหรือครับ อุบัติเหตุไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แล้วผมถามว่า ค่าตรวจแอลกอฮอล์จากลมหายใจยังไม่ชัวร์ ตรวจจากเลือดชัวร์กว่าอีก”

ส่วนกรณีที่ พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหากับนายสุทัศน์ คือ ขับรถโดยประมาทอันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลและทรัพย์สินของผู้อื่น และเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส, ได้รับอันตรายแก่กายและทรัพย์สินเสียหาย, ขับรถในขณะเมาสุรา (ฝ่าฝืนไม่ยอมเป่าแอลกอฮอล์ ให้สันนิษฐานว่า เมาแล้วขับ) และนำตัวผู้ต้องหาไปทำการฝากขังต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ ซึ่งศาลได้พิจารณารับฝากขังตามคำร้อง ต่อมาผู้ต้องหายื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาเเล้วอนุญาตให้ประกันตีราคา 1 เเสนบาท

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : 'เสี่ยเบนท์ลีย์'รอดนอนคุก! ศาลให้ประกันตีราคา 1 เเสน

ขอบคุณข้อมูล : รายการเรื่องเด่นเย็นนี้ , โหนกระแส