วันศุกร์ ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
‘สปสช.’พร้อมคณะ‘PMAC’ลงพื้นที่‘น่าน’ ต้นแบบจัดการป่า3ด้าน‘อนุรักษ์-สุขภาพ-รายได้’

‘สปสช.’พร้อมคณะ‘PMAC’ลงพื้นที่‘น่าน’ ต้นแบบจัดการป่า3ด้าน‘อนุรักษ์-สุขภาพ-รายได้’

วันจันทร์ ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2566, 06.00 น.
Tag : PMAC สปสช. อนุรักษ์
  •  

คณะตัวแทนจากหลากหลายองค์กรต่างๆ ทั่วโลก ที่เข้าร่วมประชุมวิชาการรางวัลเจ้าฟ้ามหิดล (Prince Mahidol Award Conference) หรือ PMAC ประจำปี 2566 พร้อมด้วยคณะของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ลงพื้นที่ จ.น่าน เมื่อวันที่ 25 ม.ค. 2566 ที่ผ่านมาเพื่อเยี่ยมชมการบริหารจัดการพื้นที่ป่าไม้อย่างมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนของพื้นที่ และยังเป็นการอนุรักษ์ฟื้นฟูที่ควบคู่ไปพร้อมกับการดูแลสุขภาพของประชาชน โดยใช้สมุนไพรเป็นฐานในการยกระดับคุณภาพชีวิตให้มีสุขภาพดี และมีรายได้จากการปลูกสมุนไพรที่เป็นประโยชน์ทางการแพทย์

ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า การประชุมวิชาการรางวัลเจ้าฟ้ามหิดล หรือ PMAC เป็นการเชิญบุคลากรที่สำคัญจากหลายแวดวงทั่วโลก โดยเฉพาะด้านสาธารณสุขได้เข้าร่วมประชุมเป็นประจำทุกปี โดยในปี 2566มีธีม (Theme) สำคัญของการประชุมคือ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ที่เชื่อมโยกับสุขภาพ


อีกทั้งยังมีความพิเศษมากขึ้น เพราะมีคณะผู้เข้าร่วมประชุมบางส่วนต้องการลงพื้นที่จังหวัดน่าน เพื่อเยี่ยมชมการดำเนินการขับเคลื่อนด้านสิ่งแวดล้อม ที่เชื่อมโยงเรื่องสาธารณสุข และยังเป็นจุดเชื่อมต่อที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต และสร้างรายได้ให้กับคนจังหวัดน่าน ผ่านการใช้สมุนไพรจากพื้นที่ป่า การปลูกสมุนไพรที่ไม่ใช่สารเคมีและภูมิปัญญาท้องถิ่น ซึ่งเป็นทั้งการอนุรักษ์ผืนป่า การอนุรักษ์ป่าต้นน้ำ และยังส่งผลต่อเรื่องสุขภาพ ซึ่งเป็นประเด็นที่คณะผู้เข้าร่วมประชุมให้ความสนใจ

“ที่ชุมชนบ้านน้ำเกี๋ยนมีการอนุรักษ์พื้นที่ พร้อมไปกับการทำการเกษตรที่ไม่ใช่สารเคมี ซึ่งสำคัญอย่างมากเพราะแต่ละปีจะมีผู้ป่วยที่ได้รับสารเคมีจากการทำเกษตรมากแต่ละปีถึง 3,000 คนและต้องเสียชีวิตเฉลี่ยปีละกว่า 500 คน อีกทั้ง สารเคมีทางการเกษตรยังไหลลงสู่ลำน้ำ โดยเฉพาะแม่น้ำน่านที่มีประชาชนกว่า 40% ได้ใช้ประโยชน์ ซึ่งอาจจะมีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนเช่นกัน” ทพ.อรรถพร กล่าว

ซูคิย์นา ซิลลา (Soukeyna Sylla) ตัวแทนจาก Global Fund UN ที่ร่วมคณะลงพื้นที่จ.น่าน กล่าวว่า จากประสบการณ์ทำงานทำให้เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ มีส่วนเชื่อมโยงและมีผลกระทบต่อสุขภาพของผู้คน ซึ่งในพื้นที่จังหวัดน่าน นับได้ว่าเป็นตัวอย่างของความสำเร็จ ที่ชุมชนบ้านน้ำเกี๋ยนสามารถพึ่งพาตนเองได้ โดยเฉพาะการขับเคลื่อนด้วยการใช้สมุนไพร ที่เป็นวัตถุดิบที่หาได้จากพื้นที่อย่างมีองค์ความรู้ เพื่อนำไปใช้เป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพสำหรับชุมชน และยังมีการจำหน่ายทำให้สร้างรายได้เพิ่มเติม

“ความสำเร็จของชุมชนบ้านน้ำเกี๋ยน เป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์ที่สุด และมีความสำคัญอย่างมากต่อการนำไปเผยแพร่ต่อ เพื่อให้นานาประเทศได้เห็นถึงความเข้มแข็งของชุมชน ที่เชื่อมโยงไปถึงการอนุรักษ์พื้นที่ป่า สิ่งแวดล้อม และยังเชื่อมมายังเรื่องสุขภาพ พร้อมทั้งเป็นการยกระดับรายได้ด้วย อีกทั้งยังทำให้อยากนำองค์ความรู้ และประสบการณ์จากจังหวัดน่าน ไปปรับหรือประยุกต์ใช้กับประเทศบ้านเกิดที่ศรีลังกาด้วย เพราะมีสถานการณ์คล้ายกัน”คุณซิลลา กล่าว

งานนี้ยังได้รับเกียรติจาก บัณฑูร ล่ำซำ ซึ่งมาในฐานะประชาชนจังหวัดน่าน พาคณะเยี่ยมชมวัดภูมินทร์ อ.เมือง จ.น่าน ซึ่งมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง “ปู่ม่าน ย่าม่าน” หรือภาพกระซิบบอกรักที่เป็นภาพสัญลักษณ์ของจังหวัด และยังมีพระอุโบสถทรงจตุรมุขที่มีบันไดนาคทั้งสี่ทิศ ข้างในประดิษฐานพระประธานจตุรพักตร์ 4 ด้าน รวมถึงเข้าเยี่ยมชมวิสาหกิจชุมชนชีววิถีตำบลบ้านเกี๋ยน อ.ภูเพียง จ.น่าน ซึ่งมีสมาชิกจาก 5 หมู่บ้าน กว่า 750 คน รวม 250 หลังคาเรือน ที่ได้ร่วมกันนำพืชสมุนไพรที่มีอยู่ในท้องถิ่น เช่น ผักเชียงดา ไพล เป็นต้น

นำมาเป็นวัตถุดิบที่ปราศจากสารเคมีในการทำผลิตภัณฑ์สมุนไพร 35 รายการ และยังผลิตเครื่องสำอางสมุนไพร จำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ สร้างรายได้ให้กับคนในชุมชน และยังสร้างงานให้กับคนในพื้นที่อีกนับร้อยตำแหน่ง โดยเป็นการขับเคลื่อนร่วมกันของชุมชน และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.)บ้านน้ำเกี๋ยน ซึ่งดำเนินการมากว่า 17 ปี และสร้างมูลค่าให้ชุมชนกว่า 30 ล้านบาท

คุณบัณฑูร กล่าวว่า ในฐานะประชาชนคนหนึ่งของจังหวัดน่าน ที่เห็นโจทย์สำคัญร่วมกันกับคนในพื้นที่ในการช่วยกันแก้ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม และด้านสาธารณสุข จึงเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการได้ช่วยเหลือ สนับสนุน ให้เกิดการพัฒนาโดยเฉพาะการจัดการรป่าต้นน้ำ การสาธารณสุข และการทำมาหากินของผู้คน ให้มีโอกาสที่จะยกระดับรายได้และมีสุขภาพที่ดีซึ่งเชื่อมโยงไปกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม แม้ว่าจังหวัดน่านจะเป็นพื้นที่ห่างไกลก็ตาม

“ความยากลำบากของผู้คนยังมีอยู่ทั่วไป แต่เป็นโจทย์สำคัญของทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ กระทรวงสาธารณสุข และภาคประชาชน ที่ต้องเข้ามายกระดับของปัญหา และร่วมกันหาทางแก้ไขปัญหาระหว่างกัน” คุณบัณฑูร กล่าว

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

มัลดีฟส์ลุกเป็นไฟ! 'มุก วรนิษฐ์'อวดหุ่นเซ็กซี่ในชุดบิกินี่สดใส

ไม่ปล่อยให้ผ่านมือ!'รอง ผกก.สืบฯฮีโร่'ขับรถกลางดึกเจอโจรผัวเมียงัดตู้เติมเงินจับทันที

สางไฟใต้!!! 'นายกฯ'ถก'รมว.กลาโหม-ผบ.ตร.-ปลัดมท.'

โอละพ่อ! คนสนิท 'สว.โชคชัย' บอกพิกัดบ้านผิด ทำ 'กกต.-DSI' หลงทาง

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved