พบตัวแล้วหนุ่มบุรีรัมย์วัย 35 เครียดหลังถูกหลอกไปทำงานต่างประเทศสูญเงินเป็นแสนแต่ไม่ได้ไป แถมระแวงเมียคุยเฟสกับชายอื่นอุ้มลูกชาย 3 ขวบขึ้นรถเก๋งขับหายไปไม่ทราบชะตากรรม ภรรยาโร่แจ้งตำรวจช่วยตามหาหวั่นสติหลุดทำอันตรายลูก
ความคืบหน้ากรณีที่นายอรรถพล (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี ชาว อ.โนนสุวรรณ จ.บุรีรัมย์ เกิดอาการเครียดเนื่องจากถูกหลอกชักชวนไปทำงานต่างประเทศกับภรรยา โดยจ่ายเงินเป็นค่าดำเนินการไปคนละ 50,000 บาท รวมเป็น 100,000 บาท แต่สุดท้ายกลับไม่ได้เดินทางไปทำงานจริง จนดื่มเหล้าหนักแล้วเกิดอาการหลอนว่าจะมีคนตามมาทำร้ายและระแวงภรรยาว่าไปคุยเฟสกับคนอื่น จึงได้อุ้มลูกชายวัย 3 ขวบขึ้นรถเก๋งแล้วขับรถหนีหายไป ตั้งแต่เวลา 16.00 น.วานนี้ (2 ก.พ.) โดยได้โยนโทรศัพท์มือถือทิ้งไว้ข้างทางเขต อ.เสิงสาง เพื่อไม่ให้ใครติดต่อหรือตามตัวเจอ จนทางครอบครัวต้องไปแจ้งตำรวจให้ช่วยติดตามหา เพราะเป็นห่วงความปลอดภัยของทั้งพ่อและลูก ซึ่งทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยกู้ภัยฯ และครอบครัว
ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 09.40 น.วันนี้ (3 ก.พ.66) เจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมหน่วยกู้ภัยตำรวจทางหลวงบุรีรัมย์ และครอบครัวได้รับแจ้งจากนางสัมผัส อายุ 58 ปี ซึ่งเป็นน้าว่าเจอตัวนายอรรถพล แล้วที่บริเวณอ่างเก็บน้ำตาหมู่ในตัว อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ จึงรีบขับรถไปหา ซึ่งทันทีที่ น.ส.วาสนา ผู้เป็นภรรยานายอรรถพล และแม่ของน้องอาร์ก้อน วัย 3 ขวบเห็นลูกชายก็รีบวิ่งเข้าไปอุ้มและกอดลูกชายไว้แน่น ทั้งร้องไห้ด้วยความดีที่ทั้งคู่ปลอดภัย
พร้อมกล่าวขอบคุณทุกภาคส่วนที่ช่วยติดตามหาตลอดทั้งคืนจนไม่ได้หลับได้นอน แต่จากการสอบถามนายอรรถพล ซึ่งยังอยู่ในอาการเบลอๆ พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง ก็ให้ข้อมูลเพียงว่าเมื่อคืนพาลูกไปนอนที่โรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองโคราช ส่วนรถเก๋งที่ขับไปจำไม่ได้ว่าจอดไว้ไหน แต่เมื่อถามถึงสาเหตุว่าทำไมถึงพาลูกชายขับรถหนีหายไป นายอรรถพล ก็ไม่ได้ตอบบอกเพียงว่าเขาไม่ได้เป็นอะไร
สอบถามนางสัมผัส เป็นผู้น้า บอกว่า หลังจากตนรถตู้มาส่งนักเรียนในพื้นที่ อ.นางรอง ก็มาจอดรถพักเพื่อรอรับเด็กกลับตอนเย็น ขณะที่จอดรถพักอยู่บริเวณอ่างเก็บน้ำหนองตาหมู่ จู่ๆ ก็เห็นนายอรรถพล นั่งรถแท็กซี่มากับลูกชายวัย 3 ขวบแล้วบอกให้ตนไปจ่ายค่าแท็กซี่ให้ 1,100 บาท ตนก็จ่ายให้ จากนั้นก็ถามหลานว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมถึงพาลูกนั่งแท็กซี่มา ซึ่งตอนแรกตนยังไม่รู้ว่าหลานพาลูกน้อยหนีมา แต่พอหลานบอกว่ามีคนจะมาตามฆ่าทั้งยังบอกไม่ให้ตนถ่ายรูปลงโซเชียล เดี๋ยวเขาจะตามเจอ ตนเห็นท่าไม่ดีจึงโทรศัพท์ไปบอกพ่อของเขา จึงได้รู้ว่าหลานมีอาการหลอนแล้วพาลูกน้อยหนีมา จากนั้นจึงพยายามปลอบหลานเพราะกลัวจะเตลิดไปที่อื่นอีก เพื่อรอให้ครอบครัวมารับ
หลังจากทางครอบครัวเจอตัวนายอรรถพล และลูกชายวัย 3 ขวบอย่างปลอดภัยแล้ว ก็ไม่ติดใจอะไร และขอร้องไม่ให้สื่อติดตามไปสัมภาษณ์ลูกชาย เพราะไม่อยากให้เขาเครียดหรือกดดันมากกว่านี้ แต่ก็ขอขอบคุณทุกคนที่ช่วยติดตามหาจนเจอและปลอดภัยทั้งคู่ - 003