ตัวแทนเกษตรกร 77 จังหวัดและสภาประชาชน 4 ภาค ร้องสภาทนายความ ขอความช่วยเหลือทางกฎหมาย เหตุถูกเจ้าหน้าที่ สปก.แจ้งความดำเนินคดี ข้อหาบุกรุกถูกออกหมายจับทั้งที่ปฏิบัติตาม มติ ครม.
วันที่ 21 ก.พ.ที่ห้องประชุมชั้น 4 สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ ถนนพหลโยธิน นางสาวสุขศรี จารุไชย ตัวแทนเกษตรกร (ภาคใต้) และสภาประชาชน 4 ภาค เข้าพบ ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความฯ พร้อมด้วยนายสุนทร พยัคฆ์ เลขาธิการ นายสมพร ดำพริก อุปนายกฝ่ายช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย นายสัญญาภัชระ สามารถ อุปนายกฝ่ายปฏิบัติการ นายสุชาติ ชมกุล อุปนายกฝ่ายกิจการพิเศษ นายฉัตรประพล แย้มเพริศศรี กรรมการบริหารสภาทนายความ ภาค 1เพื่อขอความช่วยเหลือด้านกฎหมาย กรณีเกษตรกรใน 77 จังหวัด ถูกเจ้าหน้าที่รัฐแจ้งความคำเนินคดีออกหมายจับในข้อหาบุกรุกที่ดิน ส.ป.ก.
โดยผู้เสียหายระบุว่า เกษตรกรมีการรวมกลุ่มกันทำเศรษฐกิจพอเพียง และได้รับอนุมัติตัวคำสั่งจากรัฐบาลพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยมี พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในคำสั่ง แต่กลับถูกรังแก จึงขอให้สภาทนายความช่วยเหลือทางกฎหมายและปกป้องพี่น้องเกษตรกร จากเจ้าหน้าที่รัฐ ในการแจ้งความจับถูกดำเนินคดีทำให้เกษตรกรในศูนย์จ.เพชรบุรี จำนวน 400 กว่าราย ได้รับความ เดือดร้อนถูกดำเนินคดีอาญาในพื้นที่หลายจังหวัด และจะมีเพิ่มอีกหลายรายในหลายจังหวัด
ด้าน นางสาวสุขศรี กล่าวว่า ตนเป็นตัวแทนของเกษตรกรประชาชน 4 ภาค ซึ่งมติครม.รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้อนุมัติให้จัดสรรที่ดินแก่เกษตรกรทั้งหมด 18 จุดทั่วประเทศ โดยเราได้ขอกู้เงินรัฐบาล และรัฐบาลขณะนั้นอนุมัติเงินให้ 1,700 ล้านบาท เราก็ไปจัดซื้อที่ดินตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นมาตามความพึงพอใจของพี่น้องเกษตรกร 77 จังหวัดว่า อยากอยู่จังหวัดไหน ซึ่งเป็นงานที่อยู่ในความรับผิดชอบของเกษตรกรประชาชน 4 ภาค ซึ่งเป็นดินแปลงใหญ่ อยู่กันเป็นกลุ่มและทำงานรวม เช่น ทำนารวม ทำไร่รวมตามหลักแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ตัวดิฉันเองได้รับผลกระทบจากการได้ที่ดินที่สปก.จัดให้ โดยมีมติ
ครม.เมื่อวันที่ 3 ก.พ.2552 ว่าที่ดินที่จะจัดซื้อ เล็งเห็นว่าต้องเป็นหน่วยงานของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเป็นผู้รับผิดชอบดูแล จัดแบ่งแปลง ดูแลจัดเก็บ และช่วยฟื้นฟูพัฒนาเกษตรกร ซึ่งมีรายชื่อเกษตรกรทั้งหมด 1,889 คน เมื่อเวลาผ่านไปตั้งแต่ปี 2552 จนถึงปัจจุบัน ปรากฎว่าคนอื่นนอกเหนือจากนี้ไม่สามารถเข้าไปทำกินได้เลย ถ้าเข้าไปทำก็ถูกดำเนินคดีข้อหาบุกรุก เจ้าหน้าที่บอกว่าให้ใช้พื้นที่เหล่านี้เพื่อรองรับเกษตรกรที่ยังต้องการความช่วยเหลือใช้เป็นศูนย์ฝึกอบรม ศูนย์เศรษฐกิจพอเพียงโดยทำงานร่วมกัน แต่กลายเป็นผิดระเบียบของ สปก.นอกจากนี้มีสำนวนคดีที่จ.ลพบุรี จำนวน 9 ท่าน คดีอยู่นั้นอัยการ ที่จ.เพชรบุรี โดยคดีอาญาเพิ่งพิพากษาไปเมื่อปี 61 จำนวน 24 ราย ซึ่งเกิดความน้อยเนื้อต่ำใจว่าจะไปพึ่งหน่วยงานไหนช่วยเหลือด้านคดีได้บ้าง
ด้าน ดร.วิเชียร นายกสภาทนายความฯ กล่าวว่า คดีนี้มีพี่น้องประชาชนมาขอความช่วยเหลือจำนวนมากที่ผ่านมาสภาทนายความฯเคยให้ความช่วยเหลือเกษตรกรที่ถูกดำเนินคดีลักษณะนี้มานับ100 รายสำหรับคดีนี้เพื่อความรวดเร็วอยากจะให้ตัวแทนในแต่ละจังหวัดตั้งหัวหน้ากลุ่มขึ้นมารวบรวมรายชื่อผู้เสียหายทั้งหมด พร้อมเอกสาร และพยานหลักฐานเพราะแต่ละรายมีความเสียหายไม่เท่ากันและสภาทนายความจะดำเนินการสอบข้อเท็จจริงในเบื้องต้นเพื่อยื่นเรื่องให้ความช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรต่อไป